บุบผาร้อยเสน่ห์ นิยาย บท 321

บทที่ 321 จักจั่นลอกคราบ

วันๆ เอาแต่กินดื่มด้วยกันกับกู้อ้าวเวย สามวันติดต่อกันแล้วทั้งสองคนยังไม่หยุดพัก ปีนขึ้นหน้าผาสูงชันไปเก็บยา ลงมาหาร้านเกี๊ยวน้ำหาบเร่ที่อร่อยที่สุดเป็นเพื่อนกู้อ้าวเวย แม้แต่ตรอกซอยเล็กๆ ซ่านจินจื๋อยังไปเดินเล่นเป็นเพื่อนนาง

สามวันให้หลัง กู้อ้าวเวยกำลังนั่งสัปหงกอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง ซ่านจินจื๋อกลับให้คนเปลี่ยนเสื้อผ้าแทนเขาอย่างกระปี้กระเปร่า เห็นชิงต้ายดึงเรือนผมของกู้อ้าวเวยลงมาเป็นครั้งๆ ยิ่งรู้สึกว่ามันน่าสนใจยิ่งนัก

กู้อ้าวเวยกุมศีรษะ แต่นับว่าได้สติบ้างแล้ว

“ต่อไป ก็ถึงเวลาที่เราทั้งสองต้องทะเลาะกันเพราะกู้อ้าวเวย คนเหล่านั้นที่เมื่อก่อนติดตามองค์ชายสองคร่าวๆ ว่าอาจจะฉวยโอกาสตอนข้าอยู่ลำพัง ดั้นด้นมาหาข้าถึงที่นี่เชียว” กู้อ้าวเวยพึมพำเสียงกระซิบ

“ใช่” ซ่านจินจื๋อติดกระดุมเสื้อให้เรียบร้อย “ข้าต้องกลับไปบ้านริมน้ำโล่เสียงเป็นเพื่อนทุ้งโจวอีกครั้งพอดีเลย ฮ่องเต้เอ่ยถึงตำแหน่งขุนนางชั้นเอกของทุ้งโจว เพราะกำลังหัวเสียเรื่องกองทัพส่วนตัวของข้ากับทุ้งโจวอยู่”

“เรื่องกองทัพส่วนตัวจะแก้ไขปัญหาอย่างไรกันแน่” กู้อ้าวเวยสงสัยใคร่รู้

“ฉีเหยียนป่ายกล่าวนามขององค์ชายสี่เพื่อจะสร้างกองกำลังในสถานที่เหล่านั้น ทั้งยังบอกอีกว่าองค์ชายสองบัญชาให้พวกเขาทำเช่นนี้ ฉีเหยียนป่ายถูกไล่ออก ส่วนที่รับผิดชอบดูแลสำนักงานภาครัฐเมืองเยว่ซานต่อ ภายนอกเป็นบุตรบุญธรรมของ ฉีเหยียนป่าย แต่ความจริงแล้วเป็นหลานชายแท้ๆ ของฉีเหยียนป่าย ในใจของเขายังเบิกบานเสียขนาดนั้น” เฉิงซานที่อยู่ข้างๆ รีบกล่าวอธิบาย

กู้อ้าวเวยทอดสายตาทะลุกระจกทองแดงเบื้องหน้ามองไปที่ซ่านจินจื๋อ ก่อนยิ้ม “ที่แท้ไม่ได้มีแค่บิดาที่เป็นจักจั่นลอกคราบ”

“กู้เฉิงกับฉีเหยียนป่ายล้วนเป็นคนฉลาด ขอเพียงสามารถกุมอำนาจใหญ่ในมือ จะวางอำนาจไว้ที่ใครก็ไม่เสียหาย จะจ้างคนต้องไว้ใจคนก่อนอันดับแรก” ซ่านจินจื๋อพยักหน้า ก่อนจากไปได้มอบหยกพกกระเรียนเมฆาหนึ่งอันไว้ให้กู้อ้าวเวย ก่อนนำเฉิงซานเดินทางไปยังบ้านริมน้ำโล่เสีย ทั้งยังจะพาซูพ่านเอ๋อไปด้วย

ซ่านจินจื๋อออกไปแล้ว กู้อ้าวเวยกลับยังคงไม่คุ้นชินเท่าใดนัก

ชิงต้ายหัวเราะใส่นาง “อย่าลืมสิ วันหน้าท่านยังคิดจะหนีออกไปอยู่นะ”

ถูกสาดด้วยน้ำเย็นหนึ่งกะละมัง กู้อ้าวเวยขบคิด เรื่องราวมันก็เป็นเสียขนาดนี้ ทว่าสิ่งที่หาได้ยากที่สุดก็คือคนอย่างซ่านจินจื๋อที่มีหัวใจตรงกับนาง แต่น่าเสียดายที่พรหมลิขิตยังมาไม่ถึง

“ช่างเถิด พักนี้ข้าจะไปโอ้อวดที่ตลาดก่อนเสียหน่อย” กู้อ้าวเวยมีท่าทีโยนทิ้งเรื่องนี้ไว้เบื้องหลังอย่างจริงจัง

กู้อ้าวเวยช่วยซ่านจินจื๋อตกปลา กลับได้รับผลประโยชน์จากขุนนางใหญ่ไม่น้อยเลย และยังได้ยินข่าวเล่าลือบางส่วนขององค์ชายสามอีกด้วย คนในตรอกซอยเล็กๆ และตระกูลป๋ายในเทียนเหยียนต่างชื่นชอบองค์ชายพระองค์นี้ พูดถึงเรื่องราวของเขาไม่น้อย

ทว่าในทิงเฟิงโหลแห่งนี้ ยังคงได้ยินข่าวซุบซิบบางส่วนอยู่เช่นเคย

“กู้เฉิงเสี้ยงกำลังจะถูกประหาร ในฐานะลูกสาวพระชายาจิ้งคนนั้นยังคงตามอ๋องจิ้งไปเที่ยวเล่นสนุกสนานเหมือนคนไม่มีงานการอยู่ได้ ช่างไม่รู้คุณเลยจริงๆ”

“ก็ใช่น่ะสิ ได้ข่าวว่าน้องสาวของนางเสียลูกไป ต้องอยู่กับเหย้าเฝ้ากับเรือนตลอด แต่กลับเห็นนางและอ๋องจิ้งเป็นอิสระสบายใจเฉิบ”

ได้ยินถ้อยคำเหล่านี้ ชิงต้ายยังรู้สึกว่าขนมอบเบื้องหน้าไม่มีรสชาติเอาดื้อๆ

กู้อ้าวเวยกลับฟังเสียงนกกานี้อย่างตั้งอกตั้งใจ ลูบหลังมือของชิงต้ายเบาๆ ก่อนส่ายหน้า

“ท่านเล่นละครเพื่อท่านอ๋อง ท่านอ๋องกลับไม่เคยพูดอะไรให้ท่านเลยสักเสี้ยว” ชิงต้ายเอ่ยเสียงกระซิบ

“หากเขาพูดให้ข้านั่นสิถึงจะแปลก อีกอย่างข้ารู้แต่แรกแล้วว่าผลลัพธ์จะเป็นแบบนี้ แต่ว่าข้าเคยกลัวคำซุบซิบนินทาเสียเมื่อไร” กู้อ้าวเวยหยิบขนมอบชิ้นหนึ่งด้วยตัวเองก่อนกินลงไป ยิ้มอย่างไม่ได้คิดอะไร

ชิงต้ายมองไปที่นาง เริ่มจนปัญญาแล้วเหมือนกัน

มีเพียงหลิ่วเอ๋อที่อยู่ข้างๆ ที่ยกน้ำจัณฑ์มาที่ข้างกายนาง คุกเข่าลงบนเบาะนั่งนุ่มนิ่มอันนั้นเพื่อเทเหล้าให้นาง

“พระชายามองโลกในแง่ดียิ่งแล้ว คำพูดของปุถุชนมิอาจรบกวนความสะอาดหมดจดของเทพเซียนได้”

“นี่เจ้ากำลังชมว่าข้างดงามเหมือนเทพธิดาหรือ” กู้อ้าวเวยหัวเราะ รับสุราจากมือนางมา ในขณะเดียวกันก็เอ่ยเสียงแผ่ว “บิดาของข้า...”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุบผาร้อยเสน่ห์