บุบผาร้อยเสน่ห์ นิยาย บท 337

บทที่ 337 ทรมาน

ซ่านจินจื๋อไม่ไปไหนเลย เฝ้าดูซูพ่านเอ๋อทั้งสามวันสามคืน

จนกระทั่งพระอาทิตย์ขึ้นในวันนี้ อาจารย์ของลี่วานเอายามาให้ซูพ่านเอ๋อกิน เธอจึงฟื้นขึ้นมา สิ่งที่ทำอันแรกหลังจากตื่นขึ้นมา คือ จับมือซ่านจินจื๋อแน่นๆ น้ำตาไหลลงตามปลายตา ดูน่าสงสารและเอ็นดู

“ข้าจับอาชญากรได้แล้ว” ซ่านจินจื๋อพูดด้วยเสียงเบา “เธอย่อมได้รับบาปกรรมแน่”

ซูพ่านเอ๋อยังสับสนอยู่ สติไม่ค่อยชัดเจน แต่พอได้ยินคำว่า ได้รับบาปกรรม จึงรู้สึกโล่งใจลง ช่วงที่เธอมีอาการโคม่า จริงๆก็ได้ยินเสียงพูดของซ่านจินจื๋อเป็นบางครั้ง แต่รู้สึกเจ็บปวดทั้งตัว เหมือนมีแมลงกำลังกัดเจาะตัวร่างกาย เจ็บจนพูดไม่ได้

ที่เธอต้องมาทรมานแบบนี้ก็เพราะกู้อ้าวเวย ยิ่งคิดยิ่งโมโหเหลือเกิน

ในขณะเดียวกัน อาจารย์ของลี่วานที่ยืนอยู่ด้านข้าง ซึ่งเป็นมุมที่ไม่มีใครสนใจ เขาให้สัญญาณกับเธอด้วยการส่ายหัวช้าๆ ยิ้มและทำให้ดวงตาโค้งๆ

หมายความว่าอะไรนะ...

“ชิงต้ายไม่พอใจกับสิ่งที่คุณทำกับกู้อ้าวเวย จึงตั้งใจวางยาพิษใส่คุณ” คำพูดของซ่านจินจื๋อทำให้ซูพ่านเอ๋อตกใจมากอย่างไม่คาดฝัน เหมือนกับฟ้าผ่าตอนกลางวันแสกๆ

“เป็นไปไม่ได้ เธอแค่เป็นคนรับใช้เอง” ซูพ่านเอ๋อพูดด้วยเสียงแหบ

“เธอเป็นรุ่นหลังของโหวเซ่อ ข้าสงสัย เธอมีความสัมพันธ์กับโหวเซ่อที่สร้างใหม่แน่นอน” ซ่านจินจื๋อสีหน้ามืดมน

ตอนแรก เขาไม่สนใจคนรับใช้ตัวเล็กที่อยู่กับกู้อ้าวเวยหรอก แต่ว่า เมื่อก่อนหน้านี้ ชิงต้ายได้อยู่กับเขามาเป็นช่วงหนึ่ง และได้เล่าเรื่องของกู้อ้าวเวยกับองค์ชายสามเกือบทั้งหมด เธอเป็นคนฉลาด จึงทำให้เขาเกิดความสงสัยและให้คนตามไปตรวจสอบ

ผลการตรวจสอบ ที่จริงแล้ว การที่ชิงต้ายได้เข้าไปในจวนเฉิงเสี้ยง ก็เพราะมีการช่วยเหลือจากฮูหยินหยุนหว่าน รวมทั้งกู้เฉิงเสี่ยงก็ไม่ทราบเรื่องนี้เหมือนกัน เฉิงเอ้อค้นหาเจอคนที่เลี้ยงชิงต้ายมาตั้งแต่เด็ก จึงรู้จักประสบการณ์ชีวิตจริงของเธอ

ซูพ่านเอ๋อไม่กล้าเชื่อเลย เพราะเป็นเรื่องที่เธอไม่คาดฝัน

อาจารย์ของลี่วานเดินเข้ามา และพูดว่า “ท่านอ๋อง แม่แม่นางซูฟื้นดีขึ้นแล้ว ฉันขอคุยเรื่องกับท่านหน่อย ไดไหม”

เสียงพูดเหมือนกับที่ขันทีพูด ซูพ่านเอ๋อจ้องมองเขา ซ่านจินจื๋อยกมือ พูดว่า “เตรียมที่พักให้เขา รอถึงพ่านเอ๋อหายดีแล้ว ข้าจะไปหาคุณ”

สีหน้าของคนนั้นเปลี่ยนไป แต่ก็เดินตามคนรับใช้ออกไป

สรุปได้ว่า อ๋องจิ้งก็เป็นคนที่หลงรักคนสวย

หัวใจของซูพ่านเอ๋อเหมือนโดนอะไรกระทบ เธอเข้าใจว่าตัวเองเสียเปรียบแล้ว ตามสภาพร่างกายของเธอตอนนี้ จะใช้วิธีที่วางยาพิษแบบเดิมอีกไม่ได้แน่นอนภายในหนึ่งถึงสองปี แล้วอีกอย่าง ซ่านจินจื๋อไม่ได้เป็นคนโง่ๆหรอก

เธอไออย่างรุนแรง ซ่านจินจื๋อช่วยเธอและให้เธอนอนพักลงบนเตียง เรียกเมี่ยวหารมาดูแลเป็นอย่างดี ก่อนออกไป ซูพ่านเอ๋อจับแขนเสื้อของเขา และเรียกว่า “ท่านพี่จื๋อ...”

“เจ้าพักผ่อนดีๆนะ...”

“อย่าปล่อยชิงต้ายไปง่ายๆค่ะ” แววตาของชิงต้ายเปลี่ยนเป็นอีกแบบทันที พูดกับซ่านจินจื๋อว่า “ไม่แน่ใจ คนที่สั่งให้ชิงต้ายไปทำอาจจะเป็นกู้อ้าวเวยก็ได้ อย่าประมาทแล้วกัน”

ซ่านจินจื๋อคิ้วขมวดขึ้น คิดว่าที่ซูพ่านเอ๋อพูดก็สมเหตุสมผลอยู่

“ท่านพี่จื๋อคะ ไม่ว่ากู้อ้าวเวยจะทำยังไงก็ตาม แต่ท่านพี่ต้องให้ชิงต้ายยอมรับความผิด ไม่งั้นเดี๋ยววันหลัง ถ้าเกิดความผิดพลาดอะไรขึ้นมาจะแยกมาก” พูดจบ ซูพ่านเอ๋อไอขึ้นทันที ซ่านจินจื๋อจึงอยู่เป็นเพื่อนเธอต่อ

.....

ในขณะเดียวกัน คุกใต้ดินในตำหนักอ๋อง

ตรงนี้ไม่มีแสงพระอาทิตย์ส่องเข้ามาตลอดทั้งปี ทั้งมืดและชื้น กู้อ้าวเวยกับกุ่ยเม่ยถูกเอาโซ่รัดแขนขาไว้ เพราะกุ่ยเม่ยมีบาดเจ็บ เขาก้มหน้าและนั่งอยู่ที่มุมข้างๆ กู้อ้าวเวยทำแผลให้เขาเรียบร้อยแล้ว

ขณะนี้ คนรับใช้ที่ใส่ชุดดำเดินเข้ามาและเอากับข้าววางที่ตรงหน้าของกู้อ้าวเวย พูดว่า “ท่านพระชายาครับ กับข้าวของท่านวันนี้ครับ”

กู้อ้าวเวยเดินจากกองหญ้า เสียงโซ่ดังกราวๆ กุ่ยเม่ยที่นั่งอยู่ตรงข้าม พยายามลืมตามองดูเธอ ดวงตาแดงไปหมดทั้งสองคน

“กับข้าวของชิงต้ายละ ทำไมไม่เห็นพวกคุณเอามา” กู้อ้าวเวยเอียงอยู่ที่เสาคุกใต้ดิน รอคนรับใช้ที่เอาข้าวเอาน้ำมาส่งให้เธอกิน วันละมื้อ ไม่กินน้ำกินปลาต้องอดตายแน่

คนรับใช้คนนั้น สีหน้าดูแปลกๆ ผ่านไปสักพักแล้ว ยังไม่ตอบคำถามของกู้อ้าวเวย แค่ส่ายหัวอย่างเดียว เหมือนพูดว่า ถามไม่ได้ ถามไม่ได้ และรีบเดินจากไป

กู้อ้าวเวยไอขึ้น สภาพร่างกายของเธอทรมานแบบนี้ไม่ไหวหรอก

สามวันที่ผ่านมา เธอไม่ได้อยู่เฉยๆ มัวแต่คิดเรื่องที่เกิดขึ้นในช่วงนี้และคิดมาสัมพันธ์กัน ยิ่งรู้สึกแปลกใจมาก

ถ้าลี่วานกับซูพ่านเอ๋อมีความร่วมมือกัน ตามที่ลี่วานอยากให้องค์ชายสี่เป็นฮ่องเต้ขนาดนั้น สองคนนี้น่าจะอยู่ฝ่ายตรงข้ามกันมากกว่า แต่ตอนนี้ กลับมาเป็นเพื่อนกัน

เธอเองฉลาดมากเกินไปจึงเสียรู้ ที่ซ่านจินจื๋อคิดว่าตัวเองเป็นคนทำ จริงๆก็สมเหตุสมผลอยู่

ในเมืองเทียนเหยียนนี้ นอกจากโหวเซ่อปลอมที่เธอสร้างขึ้นมา ไม่มีใครสามารถสู้กับเธอได้ แต่เธอพลาดไป ไม่นึกว่า ลี่วานมีอาจารย์ที่ลึกลับคนหนึ่ง

เมื่อเธอกำลังคิดอยู่ ได้ยินเสียงร้องไห้จากข้างๆที่อยู่ไม่ไกล

พอได้ยินเสียง กู้อ้าวเวยลุกขึ้นทันที ลืมตาโต อยากจะหนีไปจากที่นี่ทันทีเลย

กุ่ยเม่ยก็ลุกขึ้นมาอย่างลำบาก

“เรียกซ่านจินจื๋อมาให้ฉัน เรื่องพวกนี้ ฉันเป็นคนทำ และฉันเป็นคนที่สร้างโหวเซ่อปลอมขึ้นมาเอง” กู้อ้าวเวยดวงตาแดงขึ้น พอพูดจบ ได้ยินแต่เสียงร้องไห้จากที่เดิมตามมาเรื่อยๆ เธอร้องไห้และพูดว่า “เรียกซ่านจินจื๋อมา วันหลังฉันจะเชื่อฟังเขาคนเดียว หยุดเดี๋ยวนี้”

มันเป็นเสียงร้องไห้ของชิงต้ายเอง

กุ่ยเม่ยกัดฟัน และพยายามดึงเสาคุกออก แต่ในขณะที่เสียงร้องไห้หายไป เสียงเท้าก็ตามมาพอดี

ซ่านจินจื๋อเดินมาที่หน้าคุกของกู้อ้าวเวย เห็นกู้อ้าวเวย เสื้อผ้า ผมเผ้ารุงรัง ดวงตาแดงมากและคุกเข่าลงบนพื้น เธอจ้องมองซ่านจินจื๋อและพูดว่า “คุณทำอะไรกับเธอ เธอแค่เป็นคนรับใช้ของฉันเอง เรื่องทั้งหมดนี้ ฉันเป็นคนทำเอง”

“เจ้าถูกเธอหลอกแล้ว” ซ่านจินจื๋อนั่งยอง จับคางของกู้อ้าวเวยเบาๆ พูดว่า “ข้าจะไม่อนุญาตให้คนที่เชื่อใจไม่ได้อยู่ข้างๆเจ้าหรอก”

“ฉันร่วมมือกับองค์ชายสาม สร้างโหวเซ่อปลอมขึ้นมาใหม่ คุณยังไม่ฆ่าฉันเลย ฉันรู้ว่า เธอเป็นเด็กของโหวเซ่อ จึงให้เธออยู่ข้างๆตัวเอง ทั้งหมดนี้ ฉันเป็นคนทำเอง” กู้อ้าวเวยรีบร้อนมาก และจะเข้าไปกัดซ่านจินจื๋อ แต่ซ่านจินจื๋อจับคางของเธอไว้แน่นๆ ไม่กล้าเชื่อว่า กู้อ้าวเวยรู้จักเรื่องนี้แล้ว

อยู่ในสายตาของเขา กู้อ้าวเวยจะไม่ยอมใครง่ายๆแน่

แต่ตอนนี้ เธอจะรับผิดชอบทั้งหมดแทนชิงต้าย เท่าที่ซ่านจินจื๋อคิดออก ก็คือ ชิงต้ายหลอกลวงกู้อ้าวเวย แม้ว่าเธอแอบช่วยองค์ชายสาม แต่ก็ได้ช่วยตัวเองไม่น้อย ซ่านจินจื๋อพูดด้วยเสียงอ่อนโยน ว่า “อย่าดื้อแล้วนะ ไม่คุ้มที่จะทำแบบนี้เพื่อเธอ”

“คุณรู้ได้ไง ว่า คุ้มหรือไม่คุ้ม” กู้อ้าวเวยพูดเสียงดัง ดวงตาแดงเหลือเกิน

เสียงกรีดร้องอย่างทรมานเข้าหูของเธออย่างปวดร้าว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุบผาร้อยเสน่ห์