บุบผาร้อยเสน่ห์ นิยาย บท 340

บทที่ 340 ไร้ทางเลือกใดๆ ทำได้แค่ปล่อยให้เป็นไป

ทุกคนสีหน้าดูไม่ค่อยดี รวมทั้งซ่านจินจื๋อก็หน้ามืดมนลงและมองหน้าเธอ

กู้อ้าวเวยยิ้มอย่างเย่อหยิ่ง นั่งลง แววตาเหมือนไม่มีวิญญาณ เก็บจิตสังหารของตัวเองไว้ และมองไปตรงข้าม ซึ่งเป็นที่นั่งของซ่านจินจื๋อ และพูดว่า “โชคชะตาที่ทำให้เราสองคนพบกับ ตัดให้มันขาดหายไปแล้วกัน”

ซ่านจินจื๋อมองหน้าของกู้อ้าวเวยด้วยสายตาดุมาก

“จะหย่ากันดีๆ หรือจะเขียนใบหย่าให้ฉันก็ตาม ขอแค่ตัดขาดโชคชะตาของเราสองคนก็พอ ทุกอย่างจะดีขึ้น”

กู้อ้าวเวยพูดต่อ ไม่สนใจซ่านจินจื๋อกำลังโมโหแค่ไหน

“ไม่มีทาง” ซ่านจินจื๋อตอบอย่างเด็ดเดี่ยว

พูดจบ กู้อ้าวเวยหัวเราะ และบอกว่า “กุ่ยเม่ย ให้พ่อครัวเสริร์ฟอาหารใหม่”

“ครับ” กุ่ยเม่ยก้มหน้าไว้ตั้งแต่แรก รีบให้คนไปทำตามคำสั่ง

แค่เวลาสั่นๆ กู้อ้าวเวยทำตัวใจเย็นๆ ไม่สนใจใคร แต่ซูพ่านเอ๋อตกใจมาก สำหรับการกระทำของกู้อ้าวเวยเมื่อกี้ ลี่วานยิ่งตกใจไม่น้อยเพราะจิตสังหารที่กู้อ้าวเวยสะท้อนออกมา สุดท้าย มีแต่กู้จี้เหยาพูดว่า

“ท่านพี่สาวคะ คนตายฟื้นขึ้นมาไม่ได้แล้ว ไวทุกข์ค่ะ” แววตาของกู้จี้เหยาแสดงความเศร้าออกมานิดๆ

กู้อ้าวเวยพยักหน้า แสดงว่าเห็นด้วยที่พูดมา ซูพ่านเอ๋อแอบกัดฟันอยู่ข้างๆ กู้จี้เหยาในตอนนี้ เหมือนตัวเองในเมื่อก่อนมาก ไม่น่าเธอได้รับความโปรดปรานมากขึ้น

บรรยากาศดีขึ้นมาบ้าง แต่กู้อ้าวเวยมองไปทางลี่วานอย่างกระทันหัน และพูดว่า “ลี่วาน ที่เธอเรียน เป็นการปรุงยาพิษหนอนแมลงของเผ่าม้ง องค์ชายสี่ไม่ได้ออกมาข้างนอกนานขนาดนี้ หรือว่าพวกคุณวางยาพิษหนอนแมลงโดยใช้เวทมนต์ควบคุมเขาไว้หรือเปล่า”

น้ำชาของลี่วานหก ซ่านจินจื๋อมองหน้าลี่วาน

“พระชายาจิ้งพูดตลก...”

“แต่ก่อน คุณจะฆ่าฉันเมื่ออยู่เมืองเยว่ซาน แต่มีผู้ลอบสังหารโตมตี จึงไม่สำเร็จ” กู้อ้าวเวยคิ้วขมวด พูดต่อว่า “แล้วอีกอย่าง คุณให้องค์ชายสี่มาบอกให้ท่านอ๋องว่า ฉันแอบติดต่อกับองค์ชายสาม เท่าที่ฉันรู้จัก องค์ชายสี่สนใจฉันมาก ไม่น่าไม่เป็นห่วงฉัน และยังไม่มาเยี่ยมฉันด้วย ทั้งๆที่ผ่านไปตั้งหลายวันแล้ว”

ซ่านจินจื๋อจึงเกิดความสงสัยขึ้น เห็นมือของลี่วานสั่นขึ้นมา

ต่อไป กู้อ้าวเวยหัวเราะ พูดด้วยความลึกลับ “บังเอิญจริงๆ อาจารย์ของคุณสามารถแก้ยาพิษที่ถูกวางกับซูพ่านเอ๋อนั่นได้พอดีเลยนะ”

“อาจารย์ของฉันพยายามค้นหาวิธีรักษาไม่น้อย จึงรักษาได้หายดี พระชายาจิ้งอย่าใส่ร้ายคนอื่นค่ะ”

“ก็ถูก แต่ทำไมแม่แม่นางซูเป็นพิษทุกครั้ง ต้องเป็นยาพิษที่เกิดอาการล่าช้าแบบนี้คะ ทำไมไม่ใช่ยาพิษที่กินแล้วตายทันทีเลย” เมื่อกู้อ้าวเวยพูดจบ ไม่มีรอยยิ้มบนใบหน้าแล้ว

สีหน้าของซูพ่านเอ๋อกับลี่วานไม่ค่อยดี ดูท่าทางแล้ว กู้อ้าวเวยไร้ทางเลือกใดๆ จึงตัดสินใจปล่อยให้เป็นไป

เธอสองคนคาดไม่ถึงว่า ชิงต้ายจะเป็นคนรับผิดชอบทั้งหมดด้วยตัวเอง แผนของพวกเธอ น่าจะไม่มีปัญหานะ

ซ่านจินจื๋อก็สงสัยเหมือนกัน แอบใช้ภาษามือให้เฉิงซานไปตรวจสภาพที่ตำหนักองค์ชายสี่

ในขณะเดียวกัน คนรับใช้เริ่มเสิร์ฟอาหารขึ้นมาใหม่ พวกเขามองหน้ากัน ไม่มีใครกิน กู้จี้เหยาไม่เกี่ยงจ้องกับเรื่องราวพวกนั้น จึงเริ่มกินอาหารอย่างไม่กลัว กู้อ้าวเวยมองหน้าเธอ และกินตาม ถามว่า “ช่วงนี้ เป็นยังไงบ้าง”

“ดีขึ้นเยอะค่ะ” กู้จี้เหยาพยักหน้า

สองคนกินไปคุยไป ดูเป็นพี่น้องกันมากกว่าตอนแรกอีก

ลี่วานกังวลมาก นั่งไม่นิ่ง อยากจะกลับไปเร็วๆ แต่ซ่านจินจื๋อจ้องมองเธอไว้อย่างเดียว เธอจากไปไม่ได้แน่ ซูพ่านเอ๋อยิ่งโมโหมาก ซ่านจินจื๋อเป็นคนฉลาด แต่ก่อนยังดูไม่ออกเพราะเป็นห่วงเธอ แต่ตอนนี้มีสติอย่างชัดเจน ต้องสงสัยว่า เธอเป็นคนที่ทำร้ายตัวเองหรือเปล่า

เมื่อต่างคนต่างคิดอยู่ ได้ยินกุ่ยเม่ยเตือนว่า “อย่าทานอาหารร้อนมากเกินไปครับ”

กู้อ้าวเวยเบะปาก และวางตะเกียบลง กุ่ยเม่ยช่วยเธอตักน้ำซุป กู้อ้าวเวยมองดูถ้วยน้ำซุป ไม่มีอะไรในน้ำซุปเลย กุ่ยเม่ยจึงตักลูกชิ้นให้เธออีกสองลูก เธอจึงพอใจ และทานต่อ

ทำเสร็จเรียบร้อย กุ่ยเม่ยจึงกลับไปยืนอยู่ที่มุมเดิม

เฉิงซานมองไปและรู้สึกแปลกใจไปด้วย กุ่ยเม่ยเป็นคนที่เขาฝึกฝนเติบโตขึ้นมาเอง นอกจากฆ่าคนตาย น่าจะทำอะไรไม่เป็นทั้งนั้น แต่แค่ผ่านไปเวลาไม่นานนี่เอง สามารถทำได้อย่างคล่องเคลี่ยวขนาดนี้ ที่สำคัญ กู้อ้าวเวยเชื่อฟังเขาด้วย

แต่ซ่านจินจื๋อสีหน้ามืดมน พูดว่า “เลือกคนรับใช้ให้พระชายา”

“ไม่ต้อง” กู้อ้าวเวยดื่มน้ำซุปและมองหน้าเขา “ฉันไม่อยากเพิ่มมนุษย์สุกรมาอยู่ข้างๆตัวเองหรอก”

ได้ยินคำว่า มนุษย์สุกร ทุกคนกินไม่ลงทันที กู้จี้เหยาคิดสักพัก และวางถ้วยตะเกียบลงเหมือนกัน มองหน้ากู้อ้าวเวยอย่างแปลกใจ

“ข้าบอกแล้ว เธอเป็นคนทรยศ”

“แต่ก็เป็นคนทรยศของฉันเอง” กู้อ้าวเวยตอบเขาทันใดนั้น และลุกขึ้นมา เธอยกมือขึ้น กุ่ยเม่ยเห็นแล้ว รีบเดินไปข้างๆ เธอยิ้มและถามว่า “เขาจะหักหลังฉันไหมคะ”

กุ่ยเม่ยเคยเป็นลูกน้องของซ่านจินจื๋อ ต้องไม่หักหลังเธออยู่แล้ว

“วันหลัง กลับมาพักอยู่ที่ตำหนักอ๋อง” ซ่านจินจื๋อตามใจเธอ

“ค่ะ ท่านอ๋อง” กู้อ้าวเวยพยักหน้า และเดินจากไปพร้อมกันกับกุ่ยเม่ย ดูเหมือนจะเชื่อฟังซ่านจินจื๋อมากกว่าเมื่อก่อน แต่สิ่งที่ทำ ยิ่งเกินไปและไม่กลัวใคร

ซ่านจินจื๋อไม่มีเวลาไปสนใจเรื่องของกู้อ้าวเวยตอนนี้

เพราะ เขาจะสนใจซ่านเซียนหยวนมากกว่า คนที่เฉิงซานให้ออกไปตรวจ ตอนนี้กลับมาแล้ว หลังทานข้าวเสร็จ ลี่วานก็ถูกบังคับรออยู่ที่ห้องโถงกับกู้อ้าวเวย ลี่วานมองดูกู้อ้าวเวยเป็นบางครั้ง แต่กู้อ้าวเวยมัวแต่คุยเรื่องกับกุ่ยเม่ย

เมื่อซ่านจินจื๋อเดินเข้ามา เห็นอาจารย์ของลี่วานก็เดินตามมาเหมือนกัน

กู้อ้าวเวยจึงผลักกุ่ยเม่ยออกไป หยุดยิ้ม และในขณะที่จ้องมองตากันกับอาจารย์คนนั้น เธอยังจำได้ที่ชิงต้ายเคยบอกว่า

ซ่านจินจื๋อใส่ร้ายตระกูลหยุน แม้ว่าไม่น่าเชื่อเท่าไหร่ แต่เธอไม่เคยสงสัยคำพูดของชิงต้าย

ในขณะเดียวกัน คนที่ไม่รู้หญิงหรือชายนั้น กำลังมองหน้าของกู้อ้าวเวย รู้สึกแปลกใจ

ลี่วานรู้สึกตื่นเต้นมากในตอนนี้ อาจารย์คนนั้นยิ้มกับเธอ เธอจึงโล่งใจลงหน่อย

“คราวหน้า ถ้าหยวนเอ๋อไม่สบาย คุณบอกข้าด้วย” ซ่านจินจื๋อสีหน้ามืดมน ไม่มีอะไรผิดปกติ

ลี่วานจะไม่อนุญาตให้ซ่านเซียนหยวนเปิดเผยเรื่องวางยาพิษนั้นออกไปแน่นอน แต่เธอยังไม่มีวิธีที่ดีที่สามารถควบคุมซ่านเซียนหยวนได้ อาจารย์ของเธอคนนี้ เป็นผู้ช่วยที่ดีมาก

“หรือว่าให้ฉันไปตำหนักองค์ชายสี่ มั่นใจว่าความสามารถทางรักษาโรคของฉัน น่าจะสามารถตรวจรักษาให้กับองค์ชายสี่ได้นะ”

กู้อ้าวเวยพูดขึ้นมา แต่มองไปดูคนที่ไม่รู้ชายหรือหญิงคนนั้น ถามว่า “คุณเป็นอาจารย์ของลี่วานเหรอคะ”

“ใช่แล้ว” คนนั้นถวายบังคม

“ชื่ออะไรคะ”

“ชื่อ เมียวจือ”

“นามสกุล เมียว เจอยากนะ” กู้อ้าวเวยมองเขาด้วยความแปลกใจ ในขณะที่เมียวจือกำลังสงสัยอยู่ เธอหันไปมองซ่านจินจื๋อ ถามว่า “ท่านอ๋องคะ ฉันไปได้ไหม”

“หลังจากนี้ เจ้าไม่ต้องไปตรวจรักษาไข้ให้ใครอีก จำฐานะของเจ้าไว้”

กู้อ้าวเวยยิ้มและพยักหน้า “ฉันเข้าใจ กุ่ยเม่ย เราไปกันเถอะ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุบผาร้อยเสน่ห์