บทที่ 354 ขจัดความอยุติธรรม
แสงแดดในฤดูใบไม้ผลิเคลือบแววอบอุ่น ซ่านจินจื๋อส่งคนไปซื้อสือปาฝูหมั่น วันละชุดในร้านอาหารป่ายเว่ยตั้งแต่เนิ่นๆ แล้ว เฉิงซานส่งมันไปที่วิหารเฟิ่งหมิงอย่างขะมักเขม้น ทว่าในวิหารเฟิ่งหมิงกลับว่างเปล่า จึงต้องพับเก็บกลับมา
ซูพ่านเอ๋อเป็นไข้ลมหนาวช่วงที่เปลี่ยนฤดูกาล ปัจจุบันเอนกายครึ่งท่อนพิงในอ้อมอกของซ่านจินจื๋อด้วยอาการป่วยซม แต่ลอบเหลือบมอง สือปาฝูหมั่นที่ยังไม่ส่งออกไปในมือของเฉิงซาน กระแอมไอเบาๆ หลายที “กู้อ้าวเวยนี่ก็ว่างเป็นไม่ได้เลย พักนี้ไม่สนใจเรื่องของตระกูลหยุน กลัวว่าคงต้องมีเจตนาอื่นๆ อีกแน่”
“หลายวันนี้ นางไปไหนบ้าง”
“พานายน้อยชิงจือไปเที่ยวเล่นทะเลสาบ ตลอดทางยังพาเหล่าแม่นางจากทิงเฟิงโหลไปด้วย” เฉิงยีเดินออกมาจากด้านข้าง และหลุบศีรษะต่ำ ก่อนกล่าวต่อไป “วันก่อนตอนเที่ยงวันไปรับประทานอาหารเที่ยงที่ร้านอาหารเสียนฝู ช่วงบ่ายก็ไปฟังวลีตอบโต้ที่สวนไผ่ซึ่งเหล่าบัณฑิตปัญญาชนชื่นชอบไปท่องกาพย์กลอนแต่งวลีกัน คืนวานยังซื้อโคมไฟระย้ากว่ายี่สิบอันไปวางในแม่น้ำอีกด้วย”
แทบจะเดินเล่นรอบทั้งเมืองเทียนเหยียนหนึ่งเที่ยวแล้ว
ซูพ่านเอ๋อเลิกคิ้ว ซ่านจินจื๋อส่งคนไปจดจ้องอยู่เป็นนาน กู้อ้าวเวยกลับไม่ได้หลบเลี่ยงเลยสักเสี้ยว คราวก่อนบังเอิญพบรถม้าขององค์ชายสามก็ยังทักทายกันอยู่เลย
“สูตรลับของตระกูลหยุนหาเจอแล้วหรือไม่” ซ่านจินจื๋อเปลี่ยนหัวข้อสนทนา
“หาพบแล้วขอรับ คืนนี้น่าจะส่งกลับมาได้” เฉิงซานพยักหน้าอย่างจริงจัง ก่อนมองที่ซูพ่านเอ๋อแวบหนึ่ง พลางเอ่ยเสียงเบา “เพียงแต่ได้ยินสูตรลับนี้...ดูคล้ายกับสูตรลับที่พระชายาส่งมาก่อนหน้านี้ แทบจะหาข้อแตกต่างไม่ได้เลย”
“โอ้...”
ปลายพู่กันในมือของซ่านจินจื๋อหยุดกึก
แม้แต่ซูพ่านเอ๋อยังค่อยๆ ยกร่างขึ้นมา รู้สึกตกอกตกใจไม่น้อยเช่นกัน
เมื่อก่อนตอนที่นางเอาพิษใส่ตัวเอง ก็เคยคิดว่าอ้างอิงจากอุปนิสัยเจ้าเล่ห์ของกู้อ้าวเวย คงจะต้องไม่อาจมอบสูตรลับอันมีค่าขนาดนี้ออกมาให้แน่ แต่คิดไม่ถึงเลย ว่านั่นมันจะเป็นของจริง
“ดูชัดแล้วหรือ?” ซ่านจินจื๋อปั้นหน้านิ่ง
“ดูชัดแล้วอย่างแน่นอน เพียงแต่สูตรลับที่พระชายาส่งมาให้ก่อนหน้านี้วางอยู่ในเรือนของทางท่านหมอเมี่ยวหารมันค่อนข้างเสียหายเล็กน้อย แต่ลูกน้องพูดมา ดูเหมือนว่าแทบจะไม่มีข้อแตกต่างเลย” เฉิงซานกล่าวต่อไป
เรื่องนี้พุ่งเป้าวกกลับไปที่เมี่ยวหารอีกครั้ง
ในใจซ่านจินจื๋อไม่อดกลั้น เขาสงสัยโดยตลอดว่ากู้อ้าวเวยไม่ได้เอาสูตรลับจริงๆ ออกมา ถ้าหากสูตรลับที่นำกลับมาเหมือนกับของก่อนหน้านี้ทุกประการ ด้านหนึ่งเขาก็เข้าใจกู้อ้าวเวยผิดแล้ว ส่วนอีกด้านหนึ่ง ก็คือเขาทำให้ตระกูลหยุนตกอยู่ในภาวะลำบากด้วยการกระทำเช่นนี้ หากถูกคนรู้เข้า พอเรื่องแพร่ออกไปก็ไม่อาจจัดการได้แล้ว
อีกอย่าง สูตรลับนี้เกิดความเสียหายตอนที่อยู่กับทางด้านเมี่ยวหาร มองเพียงจุดนี้ ก็เพียงพอจะเห็นว่าซูพ่านเอ๋อเชื่อใจเมี่ยวหารมากเพียงใด จากนั้นจึงปั้นหน้าเย็นชา “พ่านเอ๋อ วันหน้าก็อย่าได้ส่งข้าวของไปใส่มือของเมี่ยวหารอีกแล้ว ในเมื่อเขาเป็นหมอยาในยุทธภพคนหนึ่ง ก็ไม่เหมาะสมกับตำหนักอ๋องจิ้งแห่งนี้”
สีหน้าซูพ่านเอ๋อเปลี่ยนไป “ท่านพี่จื๋อ...ท่านยังแคลงใจว่าระหว่างข้ากับเมี่ยวหารมีอะไรบางอย่างอยู่อีกเชียวหรือ”
ดวงตาสองข้างแดงก่ำ ในใจซูพ่านเอ๋อกลับกระตุกวูบ ลูบวนลำแขนของซ่านจินจื๋อเบาๆ ไหนๆ นางก็ให้เมี่ยวหารย้ายเรือนแล้ว ซ้ำยังทิ้งข้าวของครึ่งค่อนใหญ่ในเรือนเมี่ยวหารไปแล้วด้วย เพื่อขัดขวางไม่ให้กู้อ้าวเวยไปหาหลักฐานในเรือนเมื่อไรก็ได้
เห็นซูพ่านเอ๋อมีท่าทีเช่นนี้ ซ่านจินจื๋อทำเพียงถอดหายใจเบาๆ สุดท้ายก็ไม่ได้อารมณ์เสียแล้ว
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ถ้าอย่างนั้นหาเลือดมังกรกับถุงน้ำดีหงส์ในตระกูลหยุนเจอหรือไม่” ซ่านจินจื๋อลูบหลังมือของซูพ่านเอ๋อเบาๆ เป็นการปลอบใจ
“ยังไม่ค้นพบ แต่กลับค้นพบยาสมุนไพรหายากอื่นๆ แทน อีกอย่างได้ยินว่าคนรุ่นหลังของตระกูลหยุนซึ่งเป็นรุ่นพระชายานั้นไม่ได้บังคับให้ฝึกฝนทักษะการแพทย์ช่วยคนแล้ว ซ้ำยังเชิญท่านอาจารย์สอนวิทยายุทธ์สองคนมา และเปิดโรงเรียนส่วนตัวสอนพวกตำราสี่เล่มทักษะห้าอย่างแทน ด้วยเหตุนี้ยาสมุนไพรก็น้อยลงไปด้วย” เฉิงซานกล่าวอย่างเคารพนบนอบ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุบผาร้อยเสน่ห์
นางเอกเหมือนจะเก่งแต่ก็ยอมให้ผัวทำร้ายร่างกายตลอด...
บางคำแปลแบบ งงๆ อ่านแล้วเหนื่อยเรื่องนี้ พักก่อน...
สรุปแล้วใครคือพระเอก อ๋องจิ้งไม่เหมาะเลย ขอเป็นคนอื่นแทนได้ไหม...