บุบผาร้อยเสน่ห์ นิยาย บท 363

ตอนที่ 363 ยุ่งไม่หยุด

ฝนเริ่มตกเบาลง สามวันเต็มที่กู้อ้าวเวยทำการแก้ไขเทียบยา ในที่สุดก็ใช้กรรมวิธีจากอุปกรณ์กลั่นหาเคล็ดลับจนเจอ แม้ว่าอุปกรณ์กลั่นจะมีขั้นตอนซับซ้อน ทว่ายังมีชัยที่วัตถุดิบยานั้นมีอยู่ทั่ว

อาการป่วยของเหล่าผู้อพยพที่อารามไป๋หม่าแม้ว่าจะขยายตัว ทว่าเมื่อมีเทียบยาอาการก็ดีขึ้น

ช่วงนี้กู้จี้เหยากับฮัวหลีติดต่อใกล้ชิดกันอย่างลึกลับ กุ่ยเม่ยคอยจับตามองอย่างลับๆ จนถึงค่ำคืนนี้จึงได้เข้ามาพูดเสียงเบา "เยว่กับพระชายาองค์ชายสามนำจดหมายจากไปแล้ว วันพรุ่งพวกเราก็ควรไปได้แล้ว มิฉะนั้นคนของท่านอ๋องจะเคลือบแคลงเอาได้"

"ได้" กู้อ้างเวยครุ่นคิด ใช้กุ่ยเม่ยฝนหมึกให้ตน "ในเมื่อมาที่อารามไป๋หม่าแล้วข้าก็ควรคัดลอกคัมภีร์บทสวดทิ้งไว้ อาจารย์น้อยสวีเชินร่างกายถดถอยข้าจะเขียนเทียบยาให้เขาอีกแผ่น"

"เจ้านี่ไม่ว่าเวลาใดหาเวลาว่างไม่ได้" กุ่ยเม่ยกรอกตามองนาง กู้อ้าวเวยทำเพียงยิ้ม

ยุ่งไม่หยุดสักหนึ่งเค่อจนเสร็จ เมื่อจวนจะจากไปสวีเชินอุ้มคัมภีร์บทสวดกับเทียบยาเหล่านั้นไว้ ทำเพียงลืมตากว้างจ้องมองกู้อ้าวเวย เงียบงันอยู่ชั่วครู่ถึงจะทำความเคารพเต็มพิธี "พระชายาเป็นคนมีเมตตา พระผู้เป็นเจ้าจะคุ้มครองท่าน"

"หากข้าไม่รู้ว่าเจ้าเป็นคนนิสัยตรงไปตรงมา คงนึกว่าเจ้ากำลังประจบข้าอยู่" กู้อ้าวเวยยกมือขึ้น ก้มตัวให้กับอาจารย์น้อยสวีเชินเล็กน้อย "เจ้าจิตใจดีงามกว่าเหล่าอาจารย์ของเจ้านัก เชื่อว่าพระผู้เป็นเจ้าต้องมองเห็น เพียงแต่ยิ้มให้มากหน่อยเท่านั้น"

สวีเชินคลึงศีรษะ กู้อ้างเวยหัวเราะพรืด คล้องไหล่กุ่ยเม่ยเดินจากไป

นอกอารามไป๋หม่า รถม้าสองคันถูกเตรียมพร้อมไว้นานแล้ว กู้จี้เหยาขึ้นรถม้าไปด้วยจิตใจที่ไม่สงบนัก ฮัวหลียังยืนอย่างสง่าอยู่ข้างรถม้าเรียกกู้จี้เหยา "แม่นางจี้เหยา ครั้งหน้าไปที่เทียนเหยียนเจ้าต้องพาข้าไปด้วยนะ เราสองถูกชะตากันยิ่ง"

คำพูดนี้เหมือนกับว่าพูดต่อกู้อ้าวเวย กู้อ้างเวยเพียงยกตาขึ้นมองเบาๆ สี่ตาประสานกับฮัวหลีชั่วครู่ตนเองก็ขึ้นรถม้าไป ละมือจากกุ่ยเม่ย "คนหมดแล้ว ให้ซ่านจินจื๋อกับกู้เฉิงสองคนนั้นสู้กันอย่างลับๆ ไป หลังจากกลับไปเจ้ายังต้องช่วยข้าจับตาดูเรื่องอุทกภัย"

"ไม่ต้องสนเรื่องอื่นแล้วหรือ? " กุ่ยเม่ยเลิกม่านรถขึ้นมองนาง "ฝั่งองค์ชายสี่กำลังมีบางอย่างแปลกๆ "

"นั่นยังไม่ถึงคราวที่ข้าต้องสน ก่อนหน้านี้ข้าเอ่ยถึงองค์ชายสี่ต่อหน้าซ่านจินจื๋อ เขาก็ให้เฉิงซานส่งคนมาคอยดูข้า ห้ามข้าไปที่ตำหนักองค์ชายสี่ เกรงว่าไม่ใช่การแอบทำอันใดลับๆ ทว่าเขานั้นจริงใจต่อองค์ชายสี่ ไม่มีทางทำร้ายเขา" ครั้งนี้กู้อ้าวเวยกลับเชื่อซ่านจินจื๋อ

กุ่ยเม่ยเองก็คลายความสงสัย ในเมื่อกู้อ้าวเวยลงหมากไปแล้ว กำหนดให้ซ่านจินจื๋อกับกู้เฉิงสู้กันอย่างลับๆ นางจะได้จดจ่อสนใจกับเรื่องทางฝั่งองค์ชายสาม

เดินทางอ่อนเพลียมาตลอดทั้งทาง กลับถึงตำหนักอ๋อง องครักษ์ที่ซ่านจินจื๋อจัดมาลดลงไปไม่น้อย

กู้อ้าวเวยกลับมาถึงตำหนักอ๋องก็ไม่ย่างเท้าออกนอกเรือน ทุกๆ วันเพียงให้จี้ซื่อถางและคนของโรงหมอโหย่วเว่ยมาส่งตัวยา อยากจะศึกษาโรคระบาดก่อนหน้านี้ให้ทะลุปรุโปร่ง ส่วนหญ้าปู่เจิ้นก็ซื้อกลับมาศึกษาเป็นจำนวนมาก ยิ่งไม่ต้องพูดถึงที่หาช่างฝีมือมาปรับอุปกรณ์กลั่นให้ดีขึ้น เหตุเพราะนางหาได้เข้าใจเรื่องอุปกรณ์เป็นพิเศษ จึงแอบศึกษาค้นคว้าอยู่นาน

ผ่านไปหนึ่งเดือน ทุกๆ หลายวันซ่านจินจื๋อจะเขียนจดหมายกลับมา นับดูอย่างถี่ถ้วนก็มีถึงสิบฉบับแล้ว

"ในเมืองทุกอย่างสบายดี แมวเยอะ ฉลาดเฉลียวยิ่งกว่าพุทราปายเสานั้นนัก"

"ในหมู่บ้านไม่มีหมอ มีจอมลวงโลกหลอกลวงเป็นเทวดามาหยุดน้ำท่วม เทียบกับใจเมตตาของผู้เป็นหมออย่างเจ้าไม่ได้"

พูดไปพูดมาล้วนมีแต่เรื่องเล็กน้อยหาได้มีอะไรสำคัญ

แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นกู้อ้าวเวยก็ยังเก็บจดหมายไม่กี่ฉบับนี้ไว้ในลิ้นชักอย่างดี ตอนพักผ่อนราวกับว่าเพียงแค่เห็นจดหมายพวกนี้ นางก็อดไม่ได้ที่จะตกลงมือต่อ ไม่อาจอยู่ว่าง

ชิงจือกลับพูดได้ไม่น้อย คนที่ใกล้ชิดที่สุดก็คือกุ่ยเม่ย กุ่ยเม่ยไม่คอยตามดูกู้อ้าวเวยไปฝึกกาย ทำเพียงอุ้มชิงจือ ฟังเสียงน้อยๆ เรียกเขา "กุยเม๊ย..."

"ฮ่าๆ " กู้อ้าวเวยมักจะอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา กุ่ยเม่ยเองก็จนปัญญา ลูบศีรษะของเขาแล้วพูดแก้ "กุ่ยเม่ย"

"อือ " ชิงจือคว้านิ้วมือของเขาไว้แล้วเรียกเขาอีกครั้ง "กุยเม๊ย!"

กู้อ้าวเวยกับป้าจางนั่งตรงระเบียงหน้าต่างต่างหัวเราะไม่หยุด กุ่ยเม่ยถลึงตาใส่กู้อ้าวเว่ย "หยุดหัวเราะได้แล้ว ไม่กี่วันก่อนข้าเห็นกู้จี้เหยาแอบไปที่จวนเฉิงเสี้ยง เกรงว่าคงได้พบกู้เฉิงแล้ว"

"บอกแล้วว่าเจ้าไม่ต้องสนใจ เจ้าก็ยังคอยดูอยู่อีก" กู้อ้าวเวยเองก็ถลึงตากลับแล้วจุ๊ปาก

"ใช่ คำนวณตามวันในอดีต อีกสองวันก็น่าจะมีข่าวสารส่งไปที่เทียนเหยียน คัดเงินและคนของฮ่องเต้ ต้องดูด้วยว่าเป็นผลต่อทั้งสองฝั่งเช่นไร" กุ่ยเม่ยพยักหน้า

เมื่อก่อนเรื่องนี้นั้นเดิมทีส่งต่อให้ขุนนางมาจัดการ ทว่าขณะนี้ตำแหน่งรัชทายาทยังคงเว้นว่าง เหล่าองค์ชายและอ๋องต่างแก่งแย่งทำคุณงามความดี ฉะนั้นฮ่องเต้ทรงนำเรื่องนี้แบ่งให้องค์ชายหลายคนมาแก้ไข เวลาเตรียมการเพิ่มนานขึ้นหนึ่งเดือน ส่วนน้ำฝนในปีนี้ไม่เทียบเท่าหลายปีก่อน แม้ว่าจะตกชุกแต่ปริมาณไม่เยอะ นับว่าเป็นการดูความสามารถของพวกเขา"

และทั้งหมดก็ไม่เกินไปจากที่กู้อ้าวเวยคาดไว้ ซ่านจินจื๋อถึงอย่างไรก็เป็นคนที่ใช้ชีวิตอยู่ในสนามรบ สิ่งที่ให้ความสำคัญคือเผด็จศึกอย่างฉับไว ตัดรากถอนโคน ครึ่งเดือนก่อนก็เริ่มทำการซ่อมแซมเขื่อนแล้ว กำแพงอิฐ กระสอบทรายล้วนเตรียมไว้เสร็จสรรพ นี่เป็นการเตรียมพร้อมเพื่อรับมือกับภัยน้ำท่วม

ทว่าข่าวสารเหล่านี้เป็นองค์ชายสามที่แอบส่งมา มาในวันนี้คิดๆ ดูแล้วกู้อ้าวเวยเองก็เป็นกังวลอยู่บ้าง "อิงตามวิธีของซ่านจินจื๋อ น้ำน้อยก็ยังสามารถจัดการได้ แต่หากว่าปริมาณน้ำเยอะ หากเขื่อนโดนน้ำซัดจนพัง ด้านปลายน้ำไม่ว่าจะกำแพงอิฐหรือกระสอบทรายเท่าใดล้วนไร้ค่า"

"เจ้าหารู้ไม่ ท่านอ๋องเน้นบู๊ไม่เน้นบุ๋นมาแต่ไหนแต่ไร นายทหารผู้ช่วยในกองบัญชาการในตำหนักส่วนมากล้วนเบาปัญญา มีเพียงขุนนางชั้นผู้ใหญ่ที่อยู่ข้างกายไม่กี่คนที่เฉลียวฉลาด อิงตามข่าวสารที่นายน้อยตรวจสอบมาก่อนหน้านี้ ขุนนางชั้นผู้ใหญ่ไม่กี่คนนั้นขณะนี้ล้วนอยู่ที่เทียนเหยียนเพื่อถ่วงสมดุลอำนาจให้ท่านอ๋อง เหล่าคนที่พาไปด้วยล้วนอายุน้อย ไม่กล้าเสนอความต้องการแก่ท่านอ๋อง" ป้าจางนำน้ำแกงเข้ามาแล้วพูดเสียงเบา

"เรื่องนี้แม้แต่ฉีหลินก็รู้หรือ? " กู้อ้าวเวยประหลาดใจ "ก่อนหน้านี้เขายังบอกอยู่ว่าจะพาหยินเชี่ยวไปเที่ยวมิใช่หรือ? เหตุใดถึงได้กลับมาช่วยข้าดูแลราชสำนัก"

"เหตุเพราะคุณหนูสองอบรมอย่างดี บอกให้เขาแสวงหาความก้าวหน้าเสียบ้าง คุณชายนั้นอยากไปช่วยคนของเสี่ยวเจเปิดร้าน คุณหนูสองจึงโน้มน้าวคุณท่านฉีให้ซื้อถนนสายด้านข้างเสี่ยวเจ ด้วยกำลังยุ่งอยู่กับการดึงคนในราชสำนักมาเป็นพวกน่ะ" ป้าจางจุ๊ปาก

กู้อ้าวเวยถอนหายใจ "ก่อนหน้านี้ได้ยินมาว่าฉีหยู่กลับมาแล้ว เปิดร้านขายเครื่องประทินโฉมอยู่ตรงข้ามสำนักเยียนหยู่เก๋อ ทะเลาะกันกับฉีหรัวล่ะ"

"ใช่แล้ว อีกทั้งยังฟังคำคุณหนูสอง คุณหนูใหญ่วันๆ ปล่อยข่าวลือของเจ้าไปข้างนอก คงจะโกรธแค้นเจ้ามาก"

ฟังป้าจางพูดจบกู้อ้าวเวยก็ถอนหายใจตาม ฉีหยู่คนนี้เดิมทีก็ไม่ใช่คนดีอะไร ขณะนี้นับว่าโชคดีนัก ตอนนี้ในเทียนเหยียนยังคงเพียงนำนางมาเป็นหัวข้อสนทนา ข่าวลือกระจายไปทั่ว

กำลังคิดว่าจะยุ่งดีหรือไม่ก็เห็นพ่อบ้านประจำตำหนักเดินเข้ามา แล้วพูดอย่างรีบร้อน "พระชายา ช่วงไม่กี่วันนี้อย่างไรก็อย่าออกไปนะพ่ะย่ะค่ะ ในเมืองเกิดโรคระบาดขึ้น ได้ยินมาว่าหลายหมู่บ้านที่เขตชานเมืองหมูหมาถูกน้ำท่วมแล้ว ขณะนี้ผู้คนต่างตื่นกลัวอยู่ไม่เป็นสุข"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุบผาร้อยเสน่ห์