ตอนที่ 362 หญ้าปู่เจิ้น
เหล่าผู้อพยพที่อารามไป๋หม่าล้วนเป็นชาวไร่ชาวนาที่บ้านถูกน้ำจากปลายน้ำท่วม
คนกลุ่มหนึ่งไอไม่หยุด กู้อ้าวเวยเองก็เพิ่งเคยเจอเป็นครั้งแรก ดินฟ้าอากาศของชางหลานนี้แปลกประหลาดเป็นอย่างมาก โรคที่ติดต่อกันนั้นไม่ง่ายต่อการแพร่กระจาย แต่ทว่ายากต่อการแก้ไขยิ่งนัก เพื่อไม่ให้คนในอารามไป๋หม่าไล่ผู้อพยพเหล่านี้ออกไป กู้อ้าวเวยเพียงกล่าวกับคณะเจ้าอาวาสของอารามไป๋หม่าว่า "เป็นโรคระบาดเล็กๆ ติดต่อกันเพียงสามสี่คน แยกตัวออกไม่ให้เหล่าหญิงสาวเข้ามาก็ได้แล้ว อย่าได้เอะอะไป"
คณะเจ้าอาวาสตกใจไม่น้อย สวีเชินดึงกู้อ้าวเวยเบาๆ "พระวรกายของพระชายามีค่าดั่งทองพันชั่ง หากว่า..."
"โรคเล็กน้อยเท่านั้น ไม่เกินสองสามวันข้าก็หายาแก้ได้" กู้อ้าวเวยตบศีรษะสวีเชิน "สถานที่ที่มีโรค พวกเจ้ามาให้น้อยก็ดี หาอาจารย์สองคนที่เข้าใจเรื่องตัวยาให้สวมผ้าคลุมหน้าแล้วมาช่วยเหลือก็ได้แล้ว"
สวีเชินและคณะเจ้าอาวาสเร่งรีบจากไป
ผ่านไปชั่วครู่ คนในลานก็ถูกแยกตัวออกจนหมด เหลือเพียงแค่คนที่ติดโรคสามสี่คนและครอบครัว คนเหล่านั้นเมื่อได้ยินว่าเป็นโรคระบาดก็หมดอาลัยตายอยาก ชายชราอายุเกินเจ็ดสิบคนหนึ่งไอซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทั้งยังไม่ทราบถึงฐานะของนางทำเพียงมองนาง "แม่นาง โรคของพวกเรารักษาได้จริงๆ หรือ? ไม่กี่ปีก่อนโรคระบาดนี้ล้วนคร่าชีวิตทุกผู้ทุกวัย"
พูดถึงตรงนี้แม้แต่ลูกหลานของชายชราล้วนพากันก้มหัวไม่กล้าเข้าใกล้ แต่ขอบตากลับแดงก่ำ
กู้อ้าวเวยขมวดคิ้ว "รักษาได้อย่างแน่นอน ในปีนั้นพวกเจ้าก็ลี้ภัยมาที่อารามไป๋หม่าอย่างนั้นหรือ? "
"ใช่แล้ว ทว่าในปีนั้นเหตุเพราะท่านย่าติดโรคจึงถึงไล่ออกไป กระทั่งศพยังไม่เหลือทิ้งไว้" กู้อ้าวเวยพูดคุยกับหญิงมีอายุที่อยู่ด้านข้าง ขอบตายิ่งแดง
กู้อ้าวเวยมองดูผู้คนทั้งห้องนี้ที่ร้องห่มร้องไห้อย่างจนปัญญา
หากไม่ใช้วิธีใหม่ๆ โรคระบาดนี้เกรงว่าจะรักษาไม่ง่ายนัก เพียงแต่นางเองก็แปลกใจว่าเหตุใดโรคระบาดที่นี่แพร่กระจายไม่ไว คิดๆ ดูแล้วบริเวณที่อยู่ของพวกเขาอาจมีของบางอย่าง
เขียนเทียบยาป้องกันโรคระบาดไปลวกๆ อยู่หลายเทียบ กู้อ้าวเวยก็ยื่นศีรษะออกมามองกุ่ยเม่ย "คืนนี้ไปหมู่บ้านทางปลายน้ำเป็นเพื่อนข้า ฝากท่านป้าดูแลชิงจือให้ดี ให้ช่วยปิดบังให้ด้วย"
กุ่ยเม่ยเข้าใจดี "เจ้าไม่อยากให้ท่านอ๋องทรงทราบว่าเจ้ากำลังหาทางออกเรื่องโรคระบาดกระมัง"
"วิธีนี้ข้าต้องให้กับองค์ชายสามก่อน ควรปิดบังจากเขาไว้สักพัก" กู้อ้าวเวยกะพริบตาเบาๆ
ทั้งสองคนไม่สนฝนที่ตกหนักมาถึงหมู่บ้านทางปลายน้ำที่โดนน้ำท่วมในคืนนั้น ที่นี่ยังคงมีน้ำท่วมอยู่ กู้อ้าวเวยเองก็ไม่อาจลงไป ทำได้เพียงทำตามคำพูดของเหล่าชาวบ้าน ออกแรงไปไม่น้อยจึงได้มาถึงสวนผักป่าที่พวกเขาพูดถึง
บ้านคนยากจนของชางหลานจำนวนไม่น้อยล้วนชอบเคี่ยวซุปผักป่าไว้ดื่ม ฝาดปากเล็กน้อยแต่รสชาติไม่เลว นับว่าเลิศล้ำ
กู้อ้าวเวยเคยกินอยู่หลายครา แต่หาได้นึกถึงผักป่านี้ไม่ เวลานี้ได้มาที่ที่ดินแห่งนี้ พื้นที่มืดสนิททั้งยังมีฝนตกหนัก กู้อ้าวเวยทำได้เพียงขุดผักป่าที่นี่มาเล็กน้อย กำชับกุ่ยเม่ยที่มีสายตาดีให้เก็บรวบรวมสมุนไพรบริเวณรอบๆ ไปด้วย
ผ่านไปสักพัก กุ่ยเม่ยก็หาต้นไม้ใหญ่เจอ นำชุดและหมวกกันฝนห่อนางไว้ "เจ้ารออยู่ที่นี่"
"ได้" กู้อ้าวเวยปวดน่องขายิ่งนัก ฝนที่ตกหนักนี้ก็ช่างหนาวเย็นจนสั่นไม่หยุด
สืบเสาะอยู่ถึงครึ่งชั่วยามกุ่ยเม่ยถึงได้บรรจุห่อผ้าหลายอันเสร็จสิ้น พานางย้อนกลับด้วยความเร่งรีบ
ตอนที่กลับมาขอบฟ้ากำลังทอแสง องครักษ์ที่ซ่านจินจื๋อส่งมาล้วนตื่นตัวอยู่เสมอ กุ่ยเม่ยไม่รู้จะทำอย่างไรจึงได้แต่วนเวียนอยู่หลายรอบกว่าจะส่งกู้อ้าวเวยกลับเข้าไปในห้องได้ ทว่าไม่นานนางก็ป่วยไข้หวัด กุ่ยเม่ยกระวนกระวายจนหัวหมุน "ตัวเองเป็นหมอแท้ๆ เหตุใดไม่รู้จักดูแลตัวเอง"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุบผาร้อยเสน่ห์
นางเอกเหมือนจะเก่งแต่ก็ยอมให้ผัวทำร้ายร่างกายตลอด...
บางคำแปลแบบ งงๆ อ่านแล้วเหนื่อยเรื่องนี้ พักก่อน...
สรุปแล้วใครคือพระเอก อ๋องจิ้งไม่เหมาะเลย ขอเป็นคนอื่นแทนได้ไหม...