บุบผาร้อยเสน่ห์ นิยาย บท 387

บทที่ 387 เรื่องเล็ก ผลลัพธ์มหาศาล

ในตอนแรกฉีหยู่สามารถตบแต่งเข้าไปอยู่ในครอบครัวที่ดี ทั้งฉีหรัวและกู้อ้าวเวยต่างก็รู้สึกว่านางช่างโชคดี

แต่ในตอนที่ฉีหยู่พาคนมาเพื่อจะเปิดศึกกับสำนักเยียนหยู่เก๋อ ฉีหรัวเองก็ได้สั่งให้คนไปสืบความมาดูสักตั้ง กู้อ้าวเวยพอจะรู้ว่าสามีของฉีหยู่เป็นคนจำพวกเห็นเงินก็ทำตาโตเข้า เมื่อมาถึงเทียนเหยียนก็ได้หยิบยืมเครือข่ายและคนที่มีความสามารถของฉีหยู่ไปก็ไม่ใช่น้อย ๆ แต่เพราะว่าการดำเนินงานไม่ค่อยราบรื่น ฉีหยู่และสามีของนางมักจะต้องหาของใหม่ ๆ แต่กลับไม่มีของจริง ๆ ที่จะขายได้นาน ๆ

สิ่งที่ทำตอนนี้ก็คือการค้าแบบไหลไปตามน้ำ ที่อาศัยก็คือพวกเครือข่ายสังคมและการตีฆ้องร้องประกาศ การค้ายังไงก็ไม่มีทางที่จะยั่งยืนไปได้  

กู้อ้าวเวยชำเลืองตามองฉีหยู่ไปทีหนึ่ง กดบนหลังมือของฉีหรัวอย่างเบามือจากที่ข้างใต้โต๊ะ พูดขึ้นด้วยเสียงเบา ๆ ว่า “ถ้าหากว่าข้าเป็นเจ้า ยิ่งกว่าทั้งหมดทั้งมวลคือจะไม่มายุแหย่ตระกูลฉีแล้ว”

“ถ้าเช่นนั้นข้าก็ไม่สามารถดูสามีให้ไปตบแต่งคนอื่นได้ เขามีเงินเช่นนี้ ในตอนนี้ก็เป็นช่วงการแข่งขันของเหล่าองค์ชาย คนของราชสำนักเองก็ไป ๆ มา ๆ ราวกับสายน้ำหลาก ยังไงเขาก็ต้องอยากแต่งกับขุนน้ำขุนนางไม่กี่ตระกูล……ก็ช่างมันเถอะพวกนี้ คิดไม่ถึงว่าเขาจะมองเห็นคนแพศยาอย่างเจ้าได้!”ฉีหยู่โกรธจนใบหน้าแดงกล่ำ ขาดก็คือจับโต๊ะแยกออกเป็นชิ้น ๆ

ฉีหรัวอยากจะโต้ตอบกลับไป ทำอย่างไรได้ล่ะในเมื่อกู้อ้าวเวยยื้อยุดฉุดมือนางอย่างเอาเป็นเอาตาย และก็คือไม่ได้อยากให้นางเอ่ยปากโต้ตอบ

กู้อ้าวเวยจ้องมองท่าทีจากที่อับอายจนโมโหกระฟัดกระเฟียดของฉีหยู่ แล้วก็รู้สึกอิดหนาระอาใจ “เจ้ากับสามีของเจ้าเพราะว่าผลประโยชน์ถึงได้ตกลงปลงใจอยู่ร่วมกัน ในตอนนี้ต่อให้นับว่าเจ้าได้สำหนักเหยียนหยู่เก๋อไปแล้ว แล้วจะยังไงต่อหรอ?ยังไงเจ้าก็ไม่ต้องไปเปรียบเทียบกับบุตรสาวสมุหเสนาบดีหรอก” 

ไม่ว่าจะการค้าอะไร เพียงแค่มีความไม่ตั้งใจทั้งหมดก็กลับกลายเป็นสูญเปล่าได้ ถ้าหากว่าสามารถดำรงอยู่ได้ท่ามกลางเหล่าเสนาอำมาตย์เป็นเวลานานแล้วนั้น ต่อไปในภายภาคหน้าจะมีประโยชน์ข้อดีนานับประการ

“ไม่ต้องมาเสนอแนะความเห็นอะไรให้กับข้า ข้ารู้ดีอยู่แล้วว่าข้าต้องการอะไร”ฉีหยู่จ้องมองกู้อ้าวเวยด้วยสายตาที่เยือกเย็น “สามีของข้าต้องตบแต่งกับน้องสาวคนเล็กของพระชายาในองค์ชายสาม แต่ว่าตระกูลฉีของข้า ล้วนแล้วแต่มีความเกี่ยวพันกับท่านอ๋องจิ้ง ถ้าหากว่าท่านพ่อเต็มใจที่จะช่วยข้า ข้าเองก็เต็มใจที่จะช่วยชิงบัลลังก์มาให้กับท่านอ๋องจิ้งเช่นกัน”

ดวงตาของฉีหรัวเบิกโตขึ้น เรื่องนี้มันไปเกี่ยวอะไรกับเรื่องความขัดแย้งชิงดีชิงเด่นขององค์ชายกัน

“เจ้าจะช่วยอ๋องจิ้ง?”กู้อ้าวเวยเองก็ถลึงตาจ้องมองไปที่นาง สีหน้าเต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ

“นี่มันก็เป็นเรื่องแน่นอนอยู่แล้ว ต่อให้ตอนนี้องค์ชายสามกำลังจะถูกสถาปนาเป็นองค์รัชทายาทแล้วมันจะยังไงกันรึ ขอเพียงแค่ว่าฝ่าบาทยังไม่ได้แยกอำนาจกองทัพของอ๋องจิ้งแล้ว อ๋องจิ้งก็ยังมีโอกาสที่จะได้มันกลับมาอีกครั้ง องค์ชายสามเมื่อเทียบกับอ๋องจิ้งแล้วยังนับว่าเป็นแค่เด็กที่ปากยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม มีอะไรที่ต้องกลัวกันเสียที่ไหน”ฉีหยู่เองก็รู้อยู่แล้วว่าคนตรงหน้าคือคุณหนูรองของตระกูลฉีกับพระชายาของอ๋องจิ้ง ถึงได้กล้าพูดออกมาเช่นนี้

ฉีหรัวหยักหน้าเบา ๆ ฉีหยู่พูดออกมาแบบนี้นับว่าไม่ผิดเลยสักนิด

“เช่นนั้นแล้ว เจ้าคิดอยากจะดึงสามีของเจ้าให้มันอยู่ข้างอ๋องจิ้ง จากนั้นก็มีบิดาของเจ้าเป็นคนสนับสนุน ต่อไปในภายภาคหน้าเจ้าเองก็จะได้ก้าวหน้าได้อย่างรวดเร็วใช่ไหม?”กู้อ้าวเวยหัวเราะขึ้นเบา ๆ “ความคิดของเจ้านี่ไม่เลวเลยทีเดียว เป็นเช่นนี้แล้ว สามีก็อยู่ในกำมือ แล้วเจ้าก็เอาร้านฟางหัวของดี ๆ แบบนี้ไปให้กับท่านพ่อ ท่านพ่อของเจ้าก็จะวางใจแล้วเอาสำนักเยียนหยู่เก๋อมอบให้กับเจ้า……เจ้าคิดว่ามันจะเป็นเช่นนี้ ใช่หรือไม่?”

“แล้วมันไม่ใช่หรือยังไงกันล่ะ?”ฉีหยู่รู้สึกว่าเมื่อกู้อ้าวเวยพูดขึ้นมันกลับดูแปลก ๆ

แล้วฉีหรัวเองก็รู้สึกว่าความคิดนี้หาข้อติเลยไม่ได้

ลมจากด้านนอกหน้าต่างได้พัดเข้ากับผมที่อยู่ข้าง ๆ หูของกู้อ้าวเวย ภายใต้ผมที่โชยโบกสะบัด ดวงตาคู่นั้นกลับเหมือนบ่อน้ำอันลึกล้ำที่ทำให้คนรู้สึกร้อน ๆ หนาว ๆ อย่างหวาดหวั่น น้ำเสียงของนางกลับแผ่วเบา “ไม่ใช่อย่างแน่นอน พวกเจ้านี่กำลังรนหาที่ตาย”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุบผาร้อยเสน่ห์