บุบผาร้อยเสน่ห์ นิยาย บท 40

ตอนที่ 40 แผนสกปรกในจิตใจ

ซ่านเซิงหานเคยเจอแม่นางที่ดูอบอุ่น และก็เคยเจอแม่นางที่กล้าหาญทำอะไรตามอำเภอใจ  

กลับไม่เคยเจอแม่นางที่มีนิสัยประหลาดๆอย่างกุ้อ้าวเวยมาก่อน เขาแทบจะเบิกตากว้างเมื่อเห็นมือทั้งสองที่บังเอิญจับปลาตัวน้อยสองตัวขึ้นมาจากน้ำ

“ย่างปลาเป็นไหม?” ปลาทั้งสองตัวที่นางจับขึ้นมาอย่างกล้าหาญถูกโยนลงไปบนก้อนกิน แล้วนวดๆไปบนปลายจมูกด้วยความคัน

“เป็น”  ซ่านเซิงหานตอบกลับไปราวกับจับพลัดจับผลูโดยไม่รู้ตัว

หลังจากนั้น ในตอนที่มีปฏิกิริยา ก็ได้นั่งลงอยู่ข้างกองไฟกับนางแล้ว ปลาตัวน้อยทั้งสองเองก็ถูกนางใช้มีดที่จัดการเครื่องในจนสะอาดแล้วจากนั้นก็ใช้ไม้ยาวๆเสียบ นำลงย่าง  

นางถือโอกาสนำเสื้อผ้าที่เปียกชุ่มบนตัวอังเปลวไฟไว้ ใบหน้ายังได้เผยรอยยิ้มออกมาด้วย : “ข้าอยากลองจับปลาด้วยตัวเอง ย่างด้วยตัวเอง ไม่รู้ว่ารสชาติจะเป็นเช่นไร....”

“เจ้ามากลางป่าของสนามล่าสัตว์ยามค่ำคืนแห่งนี้ เพื่อมาเล่นน้ำและย่างปลาอย่างนั้นหรือ?” ซ่านเซิงหานยังคงมองไปทางนางอย่างไม่อยากจะเชื่อ เมื่อเห็นเสื้อผ้าที่ดูธรรมดาบนตัวของนาง ก็เกือบจะนึกได้ว่านางน่าจะเป็นแม่นางที่ดูไม่เหมาะสมอยู่จวนหลังไหน ต่อมาจึงได้ค้นพบอยู่บนเนินเขาว่านางเป็นพระชายา

แต่วันนี้ พระชายาจิ้งได้แปลงกายเป็นเด็กสาวจับปลา ช่างน่าแปลกประหลาดเสียจริง  

“เพื่อการขี่ม้า ข้าใคร่อยากอ่านตำราทางการแพทย์ในเมืองเทียนเหยียน แต่เมื่อมาถึงพื้นที่รกร้างด้านนอกของป่า จึงเลยคิดที่จะวางเรื่องราวของข้า อีกทั้ง นี่มันน่าสนใจมากไม่ใช่หรือ?” กุ้อ้าวเวยกระพริบตาด้วยท่าทางหยอกล้อต่อหน้าเขา  

เรื่องที่ทำอยู่ในโลกต้องมีเหตุผลที่ไหนกัน ส่วนใหญ่แล้วก็ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่ต้องทำเท่านั้น

“น่าสนใจแน่นอน” ตันเซิ้งหานเองก็กระตุกยิ้มมุมปากเช่นเดียวกัน  

“แต่ทำไมเจ้าถึงได้มาในยามค่ำคืนเช่นนี้ละ?อยากจะตรวจสอบเรื่องราวขององค์ชายสี่ หรือว่าอยากมาทำลายร่องรอยกันแน่?” กุ้อ้าวเวยเปลี่ยนหัวข้อสนทนา สายตาเองก็เย็นชาลง

ถึงแม้ว่านางจะเล่นสนุก กลับไม่ใช่คนโง่

ซ่านเซิงหานยิ้มและมองไปทางนาง : “นึกไม่ถึงว่าเจ้าจะแสร้งทำเป็นบริสุทธิ์ออกมา?”  

“ข้าไม่ใช่คนโง่ เพิ่งจะออกจากเรื่องเหล่านั้น คนที่มีจุดยืนย่อมคิดว่าตัวเองได้ถูกสะเด็ดออกมาแล้ว เจ้ามาในยามค่ำคืนนี้ภายใต้สถานการณ์ที่ถอยออกไปกว่า 2 ปี ย่อมเกิดความสงสัย” กุ้อ้าวเวยถูมือของตัวเองไปมาเล็กน้อย

ซ่านเซิงหานตาคล่ำ กลับพูดขึ้นอย่างจนปัญญา : “เพียงแค่เสียดายที่พระชายาคิดมากไป ข้ามาที่นี่ก็เพื่อมาหาร่องรอย หยวนเอ๋อเป็นน้องชายที่สี่ ข้ากับเขาอายุเท่ากัน เติบโตมาพร้อมกัน ข้าไม่มีแม่และไม่มีแม่นม แม่ของข้าเสียนเฟยดูแลข้ามาตลอด ข้าทนดูคนที่ทำร้ายเขาไม่ได้”   

“ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้” กุ้อ้าวเวยสายตาสับสน ความสัมพันธ์ของคนเหล่านี้ในตำหนักนางล้วนแล้วแต่เข้าใจ แต่เมื่อเห็นท่าทางเช่นนี้ของซ่านเซิงหานกลับไม่ได้พูดโกหกออกมา  

หาเขาจะมาทำลายร่องรอยจริงๆ ไม่น่าจะรีบร้อนหลังจากที่เห็นนาง น่าจะหลบซ่อนตัว

นอกจากนี้ เขาช่างกล้าหาญชาญชับ ยังมีหน้ามาอยู่ตรงหน้านางหลังจากที่ทำลายร่องรอยไปแล้วอีก

แต่เรื่องนี้ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับนาง ส่วนซ่านเซิงหานหยิบปลาทั้งสองตัวขึ้นมา แล้วยื่นให้นางตัวหนึ่ง : “ร้อนนะ”

“อื้อ” กุ้อ้าวเวยรับปลาย่างมา พร้อมกับชำเลืองตาไปมองซ่านเซิงหาน เมื่อเห็นว่าเขายังดูมีท่าทางอิสระ จึงได้วางความระแวดระวังนั้นลง เพียงแต่ปลาตัวนี้ไม่มีเครื่องปรุงจึงเลยไม่อร่อยก็เท่านั้น

เมื่อกินปลาย่างเสร็จแล้ว เสื้อผ้านางก็แห้งไปกว่าครึ่งแล้ว 

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุบผาร้อยเสน่ห์