บุบผาร้อยเสน่ห์ นิยาย บท 415

บทที่ 415 แผนการสำเร็จ

“ทิงเฟิงโหลอพยพคนจำนวนไม่น้อยเลย คล้ายกับตัวตนของหยุนหว่านจะเปิดเผยเป็นแน่แล้ว”

องค์ชายสามโบกมือให้ผู้ใต้บัญชาที่มารายงานหน้าฉากกั้นลมถอยร่นไป และพูดเช่นนี้กับกู้อ้าวเวยที่อยู่ถัดไปจากฉากกั้นลมภูเขาธารมรกตแผ่นหนึ่ง

ด้านหลังฉากกั้นลมเงียบเชียบ กู้อ้าวเวยก้มหน้างุด ก็ไม่รู้ว่าตนวางแผนเรียกหยุนหว่านมาหาแบบนี้มันจะมีผลลัพธ์อย่างไรกันแน่

อีกประการ คล้ายกับเรื่องที่เห็นซ่านจินจื๋อในทุ่งดอกไม้จะยังคงโจมตีนางอยู่ไม่น้อยเลย

ช่วงเวลาที่นางอยู่ตระกูลหยุนไม่เคยรู้สึกว่าการหนีจากซ่านจินจื๋อคือความผิดอย่างหนึ่งเลย แต่ได้เห็นซ่านจินจื๋อมีท่าทีเช่นนั้นแล้ว ทั้งที่ในใจรู้ว่าทุกสิ่งนั้นเป็นความผิดพลาด แต่จนแล้วจนรอดก็ยังคงวางไม่ลง มันรบกวนจนจิตในนางไม่สงบสุขอยู่เรื่อยมา เรื่องดังกล่าวก็ยังไม่กล้าบอกแม้กระทั่งกุ่ยเม่ย กลัวเหลือเกินว่าเขาจะวิตก

ผ่านไปไม่นาน ก็มีผู้ใต้บัญชามารายงาน “พระองค์ นอกประตูมีสตรีสวมผ้าคลุมหน้าเดินเข้ามา บอกว่าเป็นคนที่ท่านต้องการตามหา ต้องให้นางปลดผ้าคลุมหรือไม่”

“ไม่ต้อง ต้อนรับนางเข้ามาเป็นอย่างดี อย่าให้ผู้อื่นรู้เด็ดขาด”

น้ำคำของซ่านเซิ่งหานเพิ่งจะสิ้นสุด กู้อ้าวเวยก็เหมือนกับฉุกคิดอะไรขึ้นมาได้

เมื่อครู่ตอนที่ตื่นขึ้นมาในห้องนั้น นางคว้ามือของหยุนหว่านเอาไว้ ทันใดนั้นพลันนึกถึงหญิงสาวสวมผ้าคลุมหน้าสีดำผู้นั้นที่เคยรับการรักษาในโรงหมอตำบลก่อนหน้านี้ ระหว่างสองคนดูคล้ายกันอย่างยิ่ง

หรือว่า...ตอนนั้นเคยเห็นกันมาแล้ว?

เมื่อนึกถึงเรื่องดังกล่าว นางก็ลอบโผล่หน้าออกไปดูตอนที่หยุนหว่านย่างเข้ามาในห้อง

ซ่านเซิ่งหานมองเห็นนาง กลับไม่กล้าให้หยุนหว่านหย่อนกายลงนั่งจริงๆ กลัวเหลือเกินว่านางจะมองเห็นคนที่อยู่หลังฉากกั้นลม

“คิดไม่ถึงว่าพระองค์จะหาข้าพบจนได้” หยุนหว่านปลดผ้าคลุมบนหน้าลง ผุดเผยโฉมหน้าที่แท้จริงด้านใน หากบอกว่ากู้อ้าวเวยสวยงาม เช่นนั้นหยุนหว่านก็มีเสน่ห์แล้ว น่าเสียดายก็แต่บนใบหน้าดูดีดวงนี้ กลับมีรอยแผลเป็นทางยาวหนึ่งแผล ดูน่าขยาดกลัวยิ่งนัก

ซ่านเซิ่งหานเลิกคิ้วน้อยๆ ขยิบตาให้กับผู้ใต้บัญชาหนึ่งที

ผ่านไปไม่นานนัก ชายฉกรรจ์ร่างใหญ่กำยำก็ถูกดันออกมา ชายร่างใหญ่เดินมาข้างกายหยุนหว่าน มองนางปราดหนึ่ง ก่อนพยักหน้าให้กับซ่านเซิ่งหาน “ไม่ผิดแน่ แนวคิดครอบครองภูเขาในฐานะราชาของพวกเราเมื่อก่อน ก็คือสิ่งที่นางเอ่ยออกมา”

หยุนหว่านมุ่นคิ้วพลางมองชายฉกรรจ์ ในดวงตายังเจือแววผิดหวังเล็กน้อย

กู้อ้าวเวยไม่เข้าใจ และไม่เคยพบเห็นชายร่างใหญ่ผู้นี้มาก่อน ส่วนซ่านเซิ่งหานหยัดตัวลุกขึ้นยืนเป็นที่เรียบร้อย เดินมาหยุดตรงหน้าหยุนหว่าน “ตอนนั้นข้าไปกำจัดรังโจรภูเขา ก็ได้รับข่าวคราวของท่านมาแล้ว ในตอนแรก เป็นท่านที่ผลักดันพวกเขาให้ยึดครองภูเขาในฐานะราชา ปรปักษ์ต่อชางหลาน ที่ข้าพูดมานั้นถูกต้องกระมัง”

สายตาของซ่านเซิ่งหานดุจดั่งคบเพลิง ส่วนหยุนหว่านยังคงรักษาความราบเรียบบนใบหน้าเอาไว้ “ถ้าหากไม่เป็นเช่นนี้ ชางหลานจะสังเกตเห็นพวกเขาได้อย่างไรกัน หลายร้อยศตวรรษถึงแม้จะพบกับจักรพรรดิปราดเปรื่อง แต่ท้ายที่สุดเขาก็สูงศักดิ์ ทำบุญสุนทานกับผู้คน ทั้งยังเข้าใจหัวใจของทวยราษฎร์”

บัดนั้นพลันรู้สึกอึดอัดเหมือนสำลักก็ไม่ปาน ซ่านเซิ่งหานรู้ดีว่าตนเองก็เคยเฉียบคมวิสัยทัศน์กว้างไกล เดินทางเยี่ยมเยียนทั่วสารทิศเพียงแต่หัวใจของประชาชน ทว่าจนแล้วจนรอดเขากลับประเมินวิถีชีวิตของประชาชนต่ำแตกต่างกับราษฎร

“ที่มาวันนี้ ก็ทำเพื่อลูกสาวของข้าเท่านั้น หากท่านต้องการกรรมวิธีของความเป็นอมตะ ข้าเอาให้ท่านก็สิ้นเรื่อง”

พูดถึงตรงนี้ มุมปากของหยุนหว่านก็กระตุกขึ้นวาดเป็นรอยยิ้ม ทว่าคนที่มองกลับเสียวสันหลังวาบ หนังศีรษะมึนชา

กู้อ้าวเวยที่อยู่เบื้องหลังฉากกั้นลมมองสีหน้าของหยุนหว่านไม่ชัด ทว่าในใจกลับมีความสงสัยต่อซ่านเซิ่งหานขึ้นมา หากว่าในตอนแรกซ่านเซิ่งหานรู้ว่าหยุนหว่านยังมีชีวิตอยู่ ทั้งยังรู้อีกว่านางมีอะไรอยู่ในมือ แต่กลับไม่เคยคิดตามหาเลย นี่มันเพราะอะไรกัน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุบผาร้อยเสน่ห์