บทที่ 418 พบกันที่ ร้านเห้าเทียน
ร้านเห้าเทียนแห่งนี้ยังคงเป็นกิจการของครอบครัวน้องเล็กไทเฮา ภายหลังส่งต่อไปยังรุ่นหลาน และภายหลังวิวาห์กับองค์หญิงหมิงจูแห่งราชวงศ์ อาจนับได้ว่ากองกำลังเบื้องหลังใหญ่หลวงยิ่งนัก ทว่า ร้านเห้าเทียนแห่งนี้คือสถานที่ทานอาหารร่ำสุรา ใช้พ่อครัวซึ่งถอนตัวออกจากวังหลวง ยามปกติรับเฉพาะพ่อค้านักธุรกิจ ไม่รับเจ้าหน้าที่ทางการเข้ามา และนับว่ารักษาความเป็นกลาง
ทว่าร้านเห้าเทียนตั้งอยู่ละแวกถนนสายเล็กๆ ในยามปกติมีคนจรผ่านน้อยมาก แต่ในตึกกลับมีคนแออัดทุกวัน
อย่างไรเสียผู้ที่ทำธุรกิจ จะไม่ชื่นชอบการสังสรรค์ได้อย่างไร มาถึงที่นี่ต่อให้จะเพียงแค่ดื่มชา แต่ขอเพียงบังเอิญพบชนชั้นสูงเข้า เกิดการเจรจาธุรกิจดีๆ สักอย่าง วันหน้าก็มีอนาคตอันสดใสแล้ว
วันนี้กู้อ้าวเวยเข้ามาในฐานะคุณชายหยุน นำองครักษ์คนหนึ่งเข้ามาด้วยย่อมไม่เกินจริงอยู่แล้ว
เด็กรับใช้เสี่ยวเอ้อร์ด้านในก็สวมชุดกรุยกราย มองสำรวจหยกขุ่นที่ช่วงเอวของกู้อ้าวเวย จากนั้นจึงยิ้มพิมพ์ใจ “เชิญคุณชายที่ด้านใน วันนี้มาเพื่อฟัง หรือว่าเที่ยวเล่น”
“แค่หาที่นั่งสักที่ก็พอ ไหนเลยจะต้องมีกฎเกณฑ์มากมายเพียงนี้” กู้อ้าวเวยเลิกเรียวคิ้ว แต่กลับพูดจาโผงผางเล็กน้อย
เด็กรับใช้เสี่ยวเอ้อร์ในที่นี้ยอมหักไม่ยอมงอ ยิ่งเป็นคนแข็งกระด้างมากเท่าไรเบื้องหลังยิ่งลุ่มลึก นับประสาอะไรกับหยกขุ่นประเมินมูลค่าไม่ได้แบบนี้ คิดว่าเป็นคุณชายใหญ่มาจากที่ไหน จึงรีบพาเขาไปยังสถานที่ค่อนไปตรงกลางทันที
เดิมอยากให้ซ่านเซิ่งหานนั่งลง ทว่าซ่านเซิ่งหานกลับชนแผ่นหลังของนางเบาๆ มองไปยังที่ๆ หนึ่ง “พี่ใหญ่ของเมิ่งซู่ก็อยู่ที่นี่ด้วย ทำการระวังๆ”
กู้อ้าวเวยนิ่งไปเล็กน้อย มองตามสายตาไป เห็นเพียงแต่คุณชายชุดสีเทานั่งอยู่ไม่ไกลออกไป กำลังดื่มสุราเล็กๆ กับแม่นางสองคน มีท่วงท่าเจ้าสำราญยิ่ง แต่ดวงตาคู่นั้นกลับแฝงแววสงบนิ่งอันแตกต่างจากมวลประชา แม่นางสองคนนั้นก็คล้ายกับเป็นคนฉลาด ไม่กี่คนเจือรอยยิ้มบนใบหน้า ที่พูดคุยกันส่วนใหญ่ก็เป็นเรื่องธุรกิจ
กู้อ้าวเวยสั่งอาหารอย่างรวดเร็ว ยัดเงินให้เด็กรับใช้เสี่ยวเอ้อร์คนนั้น “ข้ามาเทียนเหยียนหนแรก อยากจะเจรจาธุรกิจโรงหมอเสียหน่อย”
ดวงตาเด็กรับใช้เสี่ยวเอ้อร์วาววับ “คุณชายถ้าเช่นนั้นวันนี้ท่านก็มาถูกแล้ว ก็คุณชายที่นั่งถัดไปนั่นเอง เขาก็มีเจรจาธุรกิจโรงหมอเหมือนกัน เพียงแต่แม่นางสองคนนั้นกลับคิดว่าโรงหมอทำเงินไม่ได้ นั่นไง คุณชายท่านนั้นกำลังพูดอยู่เลยเชียว”
มองตามสายตาไป ก็เป็นพี่ใหญ่ของเมิ่งซู่นั่นเอง
บัดนั้นกู้อ้าวเวยนึกชื่อพี่ใหญ่ของเมิ่งซู่ไม่ออก เด็กรับใช้เสี่ยวเอ้อร์ด้านข้างกลับรีบพูดออกมา “คุณชายผู้นี้ยังเป็นพี่ใหญ่ของคุณชายเมิ่ง นามว่าเมิ่งซัว เป็นผู้ฉลาดหลักแหลมทีเดียว ถ้าหากคุณชายหยุนท่านสมัครใจจะ...”
กู้อ้าวเวยยัดเงินให้อีก เด็กรับใช้เสี่ยวเอ้อร์คนนี้จึงยิ้มแป้นเดินไปข้างกายของเมิ่งซัว วางกาสุราหนึ่งอันลง “คุณชายเมิ่ง คุณชายหยุนที่โต๊ะนั้นเรียนเชิญ บอกว่าอยากจะเจรจาเรื่องธุรกิจเสียหน่อย”
แม่นางสองคนสบตากัน ต่างทยอยออกไป คล้ายกับไม่แยแสกับเรื่องโรงหมอ
เมิ่งซัวกลับมองสำรวจกู้อ้าวเวยอย่างถี่ถ้วน แปลกใจว่าชายหนุ่มผู้นี้มีใบหน้ากลมดิก ดูกระดูกรูปร่างแล้วก็ผอมเพรียวเกินไป แต่กลิ่นไอไม่ธรรมดา แต่ก็ไม่วางท่า เดินมุ่งหน้าเข้ามาหย่อนตัวลง
ทั้งสองสบสายตากัน ซ่านเซิ่งหานรู้สึกผิดเล็กน้อย ส่วนกู้อ้าวเวยกลับเริ่มเจรจาธุรกิจขึ้นมาอย่างเป็นจริงเป็นจัง ผ่านไปสักพัก ทั้งสองจึงเริ่มชิดเชื้อกัน จากนั้นกู้อ้าวเวยจึงควักตั๋วเงินจำนวนห้าร้อยตำลึงออกมา วางลงบนโต๊ะ “คุณชายเมิ่ง ในเมื่อทำเพื่อโรงหมอโหย่วเว่ยแล้ว เช่นนั้นทางฝั่งของข้าก็ยินดีมอบเงินให้”
“คุณชายหยุนถ่อมตนนัก โรงหมอโหย่วเว่ยเป็นเพียงแค่โรงหมอที่ลุงของข้าเปิดเท่านั้น หากท่านต้องการปักหลักในเทียนเหยียนแห่งนี้จริงๆ พวกเราสามารถร่วมมือกันได้ เงินนี้ ก็ยังไม่ถึงคราวที่ข้าจะรับไว้” ดวงตาเมิ่งซัวหรี่ลงเล็กน้อย
กู้อ้าวเวยเองก็พลอยยิ้มตามบางๆ “ย่อมต้องถึงคราวท่านรับไว้แล้ว เงินนี้รบกวนคุณชายสืบข่าวเรื่องบางอย่างให้ข้า ถ้าหากสืบข่าวลุล่วง มันก็จะมีผลประโยชน์ต่อเส้นทางอาชีพของใต้เท้าเมิ่งเอง”
การเคลื่อนไหวของเมิ่งซัวชะงักลง รู้สึกประหลาด “คุณชายหยุนไม่ใช่คนพื้นที่เสียหน่อย...”
“แต่ข้าแซ่หยุน” ดวงตาของกู้อ้าวเวยวาววับเล็กน้อย ภายใต้สายตาของเมิ่งซัว กู้อ้าวเวยใช้น้ำชาเขียนคำว่า “จิ้ง” หนึ่งตัวลงไปบนโต๊ะ
เมิ่งซัวเห็นเข้า จึงตกใจเล็กน้อย “ท่านคือ...”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุบผาร้อยเสน่ห์
นางเอกเหมือนจะเก่งแต่ก็ยอมให้ผัวทำร้ายร่างกายตลอด...
บางคำแปลแบบ งงๆ อ่านแล้วเหนื่อยเรื่องนี้ พักก่อน...
สรุปแล้วใครคือพระเอก อ๋องจิ้งไม่เหมาะเลย ขอเป็นคนอื่นแทนได้ไหม...