บทที่ 501 บำรุงขวัญ
หยุดรอไม่ได้นาน นางเพียงขี่ม้าตัวหนึ่งออกจากคอกม้า ห่มตนเองด้วยเสื้อคลุมตัวหนาสีดำ มุ่งหน้าไปยังชายแดนโดยลำพัง
และองครักษ์ที่ตามคุ้มกันอยู่เบื้องหลังก็ตามติดไม่ได้หยุดฝีก้าว พวกเขารับคำสั่งมาจากซ่านจินจื๋อ ให้คอยติดตามเพื่อรักษาความปลอดภัยของนางเท่านั้นโดยไม่ก้าวก่ายการกระทำใด ๆของนาง
กู้อ้าวเวยคุ้นเคยกับการนอนกลางดินกินกลางทรายมานานแล้ว การนอนน้อยทำให้นางสามารถเดินทางบนท้องถนนได้นานขึ้น
จนกระทั่งให้นางได้ไปถึงตัวกุ่ยเม่ยโดยไม่มีอุปสรรค หากแต่ผ่านมากว่าสิบวัน ระยะหลังเกือบจะถึงสถานที่นัดหมายนางกลับถูกรั้งไว้ พานางเข้าไปอยู่ในโรงเตี๊ยมใกล้บริเวณนั้น แม้ว่ายังมีเสียงพูดจ้อไม่หยุด แต่กู้อ้าวเวยก็อดไม่ได้ที่จะทิ้งตัวลงบนเตียงและหลับลงอย่างสนิท
กุ่ยเม่ยถอนหายใจเบาๆ ช่วยถอดรองเท้าให้นางแล้วพาเข้าไปนอนในผ้าห่ม
ส่วนตนเองได้ออกมาจากโรงเตี๊ยม มายังปากทาง มองดูคนพวกนี้ที่ซ่านจินจื๋อส่งมาก็อดไม่ได้ที่จะพูด “พวกเจ้าไม่จำเป็นต้องตามไปแล้ว”
“พวกเราทำตามคำสั่งขององค์ชาย” คนหนึ่งก้าวออกมา “และขอให้ใต้เท้ากุ่ยเม่ยกรุณาอย่าได้ขัดขืนหรือมีเจตนาไม่ดีใด ๆกับองค์ชาย”
“......”
กุ่ยเม่ยลูบหน้าผากตนเองด้วยอาการปวดหัว ไม่อยากจะคิดด้วยซ้ำว่านางไปทำอย่างไรซ่านจินจื๋อถึงได้ติดงอมแงมได้ในระยะเวลาอันสั้น และเขาก็ยังปฏิบัติต่อนางประดุจญาติมิตร หากว่าเขาจะต้องแต่งเอาผู้หญิงแบบนี้เข้าบ้านจริง ๆ เกรงว่าจะไม่ต้องหลับต้องนอน มีแต่เพียงองค์ชายเท่านั้นที่จะทนได้
“ข้าไม่ทำอะไรหรอก....” ยังไม่ทันที่จะพูดจบ คนที่อยู่ตรงหน้าก็หายไป
กุ่ยเม่ยรู้สึกปวดหัวมากขึ้น เพียงแต่หันกลับไป ก็ได้พบชุดที่ใส่ไว้เรียบร้อยใต้ชุดคลุมตัวนั้น กำลังเดินเข้ามา นางคิดไม่ถึงว่านางจะยังรีบจนไม่มีอะไรเปลี่ยน แม้แต่คราบเลือดที่มุมกระโปรงก็ยังไม่ได้ทำความสะอาด เขาจึงได้แต่เคาะประตูร้านขายเสื้อผ้าในเวลาที่ดวงดาวกระจายเต็มท้องฟ้า
และในเมืองเทียนเหยียนที่ไกลออกไป
ซูพ่านเอ๋อกำลังเพลินหลงอยู่ในความฝัน ระหว่างที่หมอกปรากฏ นางมองเห็นกู้อ้าวเวยรีบเดินเข้ามาพร้อมมีดเล่มยาว นำหัวของคนในมือเข้ามาใกล้จนเกือบจะเข้าไปอยู่ในเบ้าตาของนาง เสียงเรียกของชิงต้ายดังเข้ามาในหูของนาง ตามมาด้วยอาการปวดอย่างรุนแรงบริเวณต้นขา
“อย่า!” ตกใจตื่นจากความฝัน ซูพ่านเอ๋อนำผ้าห่มออกทั่วทั้งตัวเต็มไปด้วยเหงื่อ
แผลที่ขาขวาปริออกอีกครั้ง สาวใช้ที่ได้ยินเสียงรีบวิ่งมาอย่างรีบเร่งพร้อมกับแสงเทียน เห็นว่าบาดแผลที่ขาข้าวขวาปริออก จึงรีบตามหมอมาอย่างรวดเร็ว แต่ซูพ่านเอ๋อกลับทุบหมอนอย่างแรง “ยังไม่รีบไปตามท่านพี่จื๋อมาอีก! เรียกหมอมาทำไม!”
“ค่ะ...” สาวใช้จับหมอนนั้นไว้ มันเกือบจะกระทบกับเปลวแสงเทียน แต่ยังไม่ว่างไปตามเรียกคน
และซูพ่านเอ๋อกลับบีบคอตัวเอง ตอนทืซ่านจินจื๋อในชุดเสื้อซับในเดินเข้ามานางก็กำลังร้องไห้สะอึกสะอื้น เขาได้แต่ขมวดคิ้ว ท้ายที่สุดก็ไม่ได้เข้าไป “ไปตามหมอมาดูอาการพระชายา”
“ท่านพี่จื๋อ...ข้าฝันถึงอีกแล้ว...” ซูพ่านเอ๋อลืมตาขึ้นด้วยความหวาดกลัว กอดแขนตัวเองและสั่นเบาๆ
ซ่านจินจื๋อเดินไปยังข้างเตียงด้วยสีหน้าที่ไม่เปลี่ยนแปลง พูดออกไปก่อน “เรื่องนี้จะบอกว่านางทำไม่ได้นะ”
“เป็นนางจริง ๆ!” ซูพ่านเอ๋อกัดฟันแน่น ดวงตาแดงก่ำ
“ตอนนั้น นางจากออกไปตั้งแต่กลางคืน ยิ่งไม่ต้องพูดถึง เจ้าไม่เห็นใบหน้าที่แท้จริงของคนร้าย” ซ่านจินจื๋อเก็บความโกรธไว้ในใจ ทำได้เพียงยกมือขึ้นวางบนไหล่ของนางเท่านั้น “เจ้าเคยใส่ร้ายนางข้าจะไม่สนใจอะไรอีก ตอนนี้หากเจ้ายังจะดื้อดึงไม่ยอมรับผิด ต้องการปั้นน้ำเป็นตัว วันหลังข้าคงต้องส่งกลับไปรักษาตัวที่แคว้นเอ่อตาน”
“ท่านพี่จื๋อ สรุปว่าท่านก็เชื่อว่าข้าเป็นลูกสาวของฮ่องเต้แคว้นเอ่อตานเหรอ!” ซูพ่านเอ๋อจับชายแขนเสื้อของซ่านจินจื๋อไว้แน่น “นางจะต้องมีแผนร้ายอะไรแน่ นางกลับมาเพื่อแก้แค้นข้า...”
นางจดจำค่ำคืนนั้นได้เสมอ ความทรงจำทั้งหมดเบลอไปเพราะกลิ่นหอมแปลกๆนั่น เมื่อนางมีสติกลับมา ผิวหนังของขาด้านขวาก็ฉีกเปิดออก ในจมูกเหลือเพียงกลิ่นอับชื้นกับกลิ่นคาวเลือดที่ไม่สามารถกลบได้ในคุกใต้ดิน
เป็นเวลาสามวันเต็ม นางถูกขังไว้ในสถานที่ซึ่งชิงต้ายถูกส่งไปยมโลก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุบผาร้อยเสน่ห์
นางเอกเหมือนจะเก่งแต่ก็ยอมให้ผัวทำร้ายร่างกายตลอด...
บางคำแปลแบบ งงๆ อ่านแล้วเหนื่อยเรื่องนี้ พักก่อน...
สรุปแล้วใครคือพระเอก อ๋องจิ้งไม่เหมาะเลย ขอเป็นคนอื่นแทนได้ไหม...