บทที่ 502 คำพูดอวดดี
อยู่กับกุ่ยเม่ย นาน ๆจะได้หลับอย่างรู้สึกปลอดภัย
แม้ว่าจะมีการกระแทกของรถม้า แต่นางก็ตื่นขึ้นมาอย่างรู้สึกสดชื่น ความรู้สึกจากฝันร้ายเลือนหายไป
ตลอดทางที่ผ่านมาไม่ใช่ฝีมือการขับของกุ่ยเม่ย แต่เป็นองครักษ์ที่ฮ่องเต้ส่งตัวมา พวกเขาอยู่ที่นี่ในระหว่างที่กุ่ยเม่ยถูกส่งตัวไปปฏิบัติงานข้างนอกเป็นเวลานาน ตอนนี้พวกเขาเป็นเพียงผู้ติดตามธรรมดาทั่วไป เปลี่ยนชุดของแคว้นเอ่อตาน เพื่อรับประกันความปลอดภัย
“ตื่นแล้วเหรอ” กุ่ยเม่ยกอดอกและลืมตาขึ้น เห็นว่านางกำลังลูบแขนที่เจ็บ และยังได้มอง
“ดูเหมือนว่าข้าจะหลับไปนานเลย” กู้อ้าวเวยยกปากขึ้นเล็กน้อย “ไปคราวนี้ ข้ามีเรื่องที่ต้องพูดกับกู้เฉิงอยู่หลายเรื่อง เจ้าไม่ต้องอยู่ใกล้ข้า ไม่เช่นนั้นจะยิ่งยากเวลาต้องการจะส่งข่าวสาร”
“การเดินทางครั้งนี้อันตรายนัก จะให้เจ้าไปเพียงลำพังได้ยังไงกัน” กุ่ยเม่ยขมวดคิ้ว
“คนของซ่านจินจื๋อก็ตามต่อไปไม่ได้ ไม่ดีเท่าเจ้าไปเป็นทูตของแคว้นเอ่อตาน มีที่พักผ่อนส่วนตัวที่หอส่งข่าว หากมีอะไรเกิดขึ้นในวันหน้า ข้าก็จะได้หาวิธีส่งข่าวไป ยิ่งไม่ต้องพูดถึง ในมือของข้ายังมีไพ่อีกสองใบ กู้เฉิงคงจะไม่สามารถมาหาเรื่องข้าได้ง่ายๆ แต่กลับจะต้องปฏิบัติกับข้าอย่างดี” กู้อ้าวเวยลูบคอของนาง
ไพ่สองใบนี้ ประการแรกคือหยุนหว่านได้ตายไปแล้ว นางเป็นลูกสาวคนเดียวของหยุนหว่านอาจจะเป็นไปได้ที่นางจะมีใบสั่งของตัวยาอายุวัฒนะ อีกใบหนึ่ง ด้วยสถานะของเขาในตอนนี้ กู้เฉิงเป็นคนฉลาด แม้ว่าจะตกอยู่ในอันตรายจากกองทัพ แต่กลับรู้ว่าควรจะปล่อยกู้อ้าวเวยไป เขาก็จะมีหนทางเอาตัวรอดได้อีกทางในภายหลัง จึงไม่คุ้มที่จะฆ่านาง
ครุ่นคิดอย่างรอบคอบ กุ่ยเม่ยจึงรู้สึกวางใจได้บ้าง
ตลอดทางที่เข้าเมือง กู้อ้าวเวยสังเกตเห็นว่ามีทหารอยู่ล้อมรอบมากมาย และแม่ทัพอ้ายหยินก็กำลังควบม้ามาในตอนนี้ หยุดขวางเส้นทางของพวกนาง “องค์หญิง”
เรียกแบบนี้อย่างเบาๆ กู้อ้าวเวยจึงเปิดม่านของรถออก ชำเลืองดูอย่างรวดเร็ว “อะไรกัน ครั้งนี้นายท่านของเจ้ายังจะให้เจ้ามาคุยเรื่องการค้ากับข้าอีกหรือ”
อ้ายหยินมีสีหน้าแข็งทื่อ แต่เพียงคิดว่าคนผู้นี้เป็นองค์หญิงหนึ่งเดียวของราชวงศ์แคว้นเอ่อตาน บรรดาผู้ได้ยินข่าวลือล้วนรู้ว่าฮ่องเต้ปฏิบัติต่อองค์หญิงดีเพียงใด สงครามกำลังหนักหน่วง โดยธรรมชาติแล้วไม่ควรจะขัดเคืองอะไรกัน ทางที่ดีคือการยิ้มให้กัน “ไม่ใช่เรื่องนั้นเลย ตอนนี้ข้ามาที่นี่ ก็เพื่อจะพาคนของข้าสองคนมาส่งท่านเข้าไปเมืองหลวง....”
“นั้นท่านแม่ทัพล่ายเสวียนหรือ” กู้อ้าวเวยกระโดดลงจากรถม้า มองไปยังอ้ายหยินอย่างยั่วยุ “เท่าที่ข้ารู้ คนที่ขึ้นไปพูดรายงานต่อหน้าฮ่องเต้ในตอนนี้ คงจะเป็นแม่ทัพล่ายเสวียนที่คอยอยู่เบื้องหลังสินะ”
สีหน้าของอ้ายหยินเปลี่ยนไปทันที
เดิมทีเขาก็เห็นองค์หญิงผู้นี้เป็นเพียงคนที่ไร้ความสามารถไม่เอาไหน
แต่ตอนนี้รู้สึกโกรธอยู่เล็กน้อย อ้ายหยินพูดไปอย่างเยือกเย็น “แม้ว่าเจ้าจะเป็นองค์หญิงเล็กของแคว้นเอ่อตาน แต่อย่าลืมนะ แม้ว่าเจ้าจะมอบอาวุธให้กับพวกเรา แต่อย่าลืมนะ ท้ายที่สุดเจ้าก็ไม่ใช่ลูกสาวคนของฮ่องเต้ และในความเป็นจริงเจ้าคือพระชายาจิ้งของแคว้นชางหลาน เจ้าไม่เกรงกลัวว่าจะต้องสูญเสียชีวิตหากเข้าไปยังเมืองหลวงหรือไม่”
ดูเหมือนว่าพวกเขาจะเข้าใจดี
“มีอะไรจะต้องกลัว” กู้อ้าวเวยเชิดหน้าขึ้นแล้วเดินไปหน้าอ้ายหยิน ยกมือขึ้นตบหัวม้าเบาๆ “อีกทั้งข้าก็มาแล้ว และในมือก็มีตั๋วเงินอยู่มากเพียงพอ”
“หากว่าท่านแม่ทัพอ้ายหยินมีความสามารถที่จะทำให้ข้าเอาตั๋วเงินพวกนี้ออกมาได้ ก็จะนับว่าเจ้ามีความสามารถ”
ดึงมือกลับ กู้อ้าวเวยแทบอยากจะฆ่าคนๆนี้ คนที่มีความคิดเยี่ยงทาสไม่ควรจะไปให้ความสนใจแม้แต่น้อย
ในกรณีนี้ มันเป็นเพียงแค่ต้องการบอกวาว่าอย่ามายุ่งกับตนเอง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุบผาร้อยเสน่ห์
นางเอกเหมือนจะเก่งแต่ก็ยอมให้ผัวทำร้ายร่างกายตลอด...
บางคำแปลแบบ งงๆ อ่านแล้วเหนื่อยเรื่องนี้ พักก่อน...
สรุปแล้วใครคือพระเอก อ๋องจิ้งไม่เหมาะเลย ขอเป็นคนอื่นแทนได้ไหม...