บุบผาร้อยเสน่ห์ นิยาย บท 68

สรุปบท บทที่ 68 หมู่บ้านศักดิ์สิทธิ์: บุบผาร้อยเสน่ห์

อ่านสรุป บทที่ 68 หมู่บ้านศักดิ์สิทธิ์ จาก บุบผาร้อยเสน่ห์ โดย ลิ่วเยว่

บทที่ บทที่ 68 หมู่บ้านศักดิ์สิทธิ์ คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายโรแมนซ์ บุบผาร้อยเสน่ห์ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย ลิ่วเยว่ อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

บทที่ 68 หมู่บ้านศักดิ์สิทธิ์

ค่ำที่ที่ไร้แสงมีดวงดาวระยิบระยับเต็มท้องฟ้า ภายใต้แสงจันทร์ที่สาดส่องลงมา กู้อ้าวเวยกลับเห็นได้ชัดว่าชายผู้นั้นใส่เสื้อเกราะไว้เหมือนทหาร

คนผู้นี้เหมือนจะเป็นแม่ทัพ

นางลูบหยินเอ่อเบาๆจากนั้นก็หันกลับไปมอง แม่ทัพร่างอ้วนท่วมเดินเข้ามาหานาง กลิ่นเหล้านั้นทำเอานางปวดหัว

“ไม่คิดว่าอยู่ที่นี้จะได้เจอหญิงงามด้วย เจ้ากลับขึ้นเรือไปกับผมไหม ไปทำอะไรสนุกๆกัน……”ชายร่างอ้วนท่วมคนนั้นเดินเข้ามาใกล้ กู้อ้าวเวยรีบถอยหลังและปัดมือเขาออก

“อย่ามาแตะข้า”นางบีบจมูกตัวเองไว้ วิ่งไปหลบหลังหยินเอ่อ แอบเอายาที่ตัวเองพึ่งผสมเสร็จกำไว้ในมือ

“ไม่คิดว่าเจ้านิสัยแย่เหมือนกันนะ ที่นี้เป็นกองทัพ เจ้าเป็นผู้หญิงกลับแอบเข้ามาในนี้ อยากจะ……”ชายผู้นั้นเดินเข้าไปใกล้อีก แต่พอพูดจบก็มีเงาอยู่ตรงหน้าเขา

คนผู้นั้นถูกเงาดำนั้นรวบตัวไว้ ข้างเอวมีดาบสองอัน ข้อมือยังมีดสั้น ในมือก็ถืบดาบยาวเอาไว้ เวลาต่อมาดาบเล่มนั้นก็อยู่ที่คอชายอ้วนคนนั้นแล้ว

ชายอ้วนคนนั้นสร่างเมาทันทีไม่กล้าขยับตัว

“เจ้าเป็นคนของท่านอ๋องเหรอ?”กู้อ้าวเวยถามเสียงเบา เดินออกมาจากหลังของหยินเอ่อ

ชายผู้นั้นพยักหน้า เขาไม่พูดอะไรแต่กลับเพิ่มแรงบนมือ ทำเอาชายอ้วนคนนั้นเข่าอ่อน

กู้อ้าวเวยเดินเข้าไปดึงมือเขาไว้ สัมผผัสได้ถึงกล้ามเนื้อที่กำยำแต่นางก็พูดต่อว่า: “เขาก็แค่แมทัพทั่วไป ปล่อยเขาไปเถอะ พรุ่งนี้เขาคงจะมาขอโทษข้าด้วยตัวเขาเอง”

“แม่หญิงปล่อยข้าไปเถอะ! แม่หญิงข้าขอโทษด้วย!”ชายร่างอ้วนรีบพูดตะโกน

“เรียกข้าแม่หญิงเกรงว่าจะไม่ดี ข้าชอบคนอื่นเรียกข้าว่าพระชายาจิ้งมากกว่า คืนนี้ดึกมากแล้ว เจ้ากลับไปเถอะ”กู้อ้าวเวยยกมือลากเขาออกมา มองดูชายร่างอ้วนคนนั้นวิ่งหางจุกตูดไป นางกลับไม่ได้ปล่อยชายคนนั้นไปและมองเขาสองตาของเขาอย่างนั้น

ชายคนนั้นไม่ได้ไปไหน เขาก็มองไปที่กู้อ้าวเวย เหมือนไม่เข้าใจ

“ซ่านจินจื๋อสั่งคนแอบตามข้ามากเท่าไหร่กัน?”กู้อ้าวเวยดึงมือเขาเข้ามา เฉิงยีเฉิงเอ้อหรือเฉิงซานไม่มีสายตาเฉียบคมเช่นนี้

“มีแต่เฉิงยีเฉิงเอ้อ ข้าบังเอิญผ่านมาทางนี้”ชายคนนั้นใช้มืออีกข้างเก็บดาบเข้าไป

กู้อ้าวเวยยักคิ้วจากนั้นก็ปล่อยมือเขาไป: “ข้าจะเชื่อเจ้า”

พูดจบนางก็ไปหยิบหญ้าแห้งมาให้หยินเอ่อกิน ชายชุดดำยืนที่เดิมมองดูนางสักพัก จากนั้นก็หายไปในความมืด

กู้อ้าวเวยดึงหยินเอ่อไปเดินเล้านมาจากนั้นก็ค่อยกลับเข้าลานเล็กๆนั้น

ซ่านจินจื๋อกำลังอ่านหนังสือ นางก็ดินเข้าไปผสมยาบนโต๊ะต่อ ไม่รบกวนใคร

แต่พอซ่านจินจื๋อเริ่มง่วง เขากลับเห็นกู้อ้าวเวยผสมยาต่ออย่างไม่ง่วงเลย กระดาษด้านข้างก็เขียนตัวหนังสือเต็มไปหมด และยังมีศัพท์บางตัวที่เขายังไม่เคยได้ยินเลย

“แต่……แต่ว่าข้าได้ยินมาว่าพระชายาจิ้งไม่ได้ความรักจากท่านอ๋องเสียหน่อย ท่านอ๋องจิ้งยังอยากจะมีอนุภรรยาอีก ทำไมวันนี้……”ชายอ้วนคนนั้นพูดติดๆขัดๆ กลับเห็นอ๋องจิ้งและพระชายาจิ้งคุยกันหยอกล้อกันเหมือนคู่รัก

ข่าวลือว่าอ๋องจิ้งเป็นคนเย็นชา จะยิ้มให้กับพี่น้องของตัวเองเท่านั้น พอมาวันนี้กลับยิ้มให้กับพระชายาจิ้งงั้นเหรอ

และพระชายาจิ้ง นางจูงหยินเอ่อออกมาจากคอกแล้วแต่กลับต้องนั่งอยู่บนม้าเดียวกันกับซ่านจินจื๋อ ม้าดำตัวนี้ชอบวิ่งไม่สงบเลย พอได้วิ่งแล้วก็หยุดไม่ได้เลย

นางยังอยากแอบหลับบนหลังม้า ครั้งนี้ก็ดีเลยสิเลยต้องทนความง่วงต่อไป

ซ่านจินจื๋อก็ไม่ชอบให้คนมานั่งม้าด้วย แต่ถ้าไม่ดูนางดีๆ เกรงว่าจะขี่หยินเอ่อไปทางไหนก็ไม่รู้ พอนึกถึงตรงนี้ก็ปวดหัวทันที

เซียวไห่ที่ตามมา มองเห็นแม่ทัพเฉิงที่ตามมาติดๆและพูดว่า: “พระชายามีความเห็นอย่างไรกับหมู่บ้านนั้น?”

กู้อ้าวเวยปิดปากไว้เพราะกำลังจะห่าว มองเข้าไปเห็นป่าด้านในก็พูดว่า: “ไม่มีความเห็นอะไรหรอก แต่มีข้อหนึ่งที่ข้าไม่เข้าใจ เกิดไฟป่าขึ้นมีพึ่งหนึ่งปี ป่าที่นี้ดูอุดมสมบูรณ์มาก”

เซียวไห่ก็ไม่มีความเห็นอะไร เขามองไปทางไกลๆ

ซ่านจินจื๋อถึงสังเกตเห็นและมองเข้าไปในป่าลึก มองไปในป่าลึก ถ้าไม้ที่นี้ไม่ถูกเผาก็ต้องมีคนมาควบคุมไฟไว้ได้ถึงปกป้องป่าผืนนี้ไว้ได้

“และในป่าชื้นแฉะ น่าจะมีพวกพิษอยู่มาก”กู้อ้าวเวยตาสว่างขึ้นมา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุบผาร้อยเสน่ห์