สรุปตอน บทที่ 72 ข้อถกเถียงของพันธมิตร – จากเรื่อง บุบผาร้อยเสน่ห์ โดย ลิ่วเยว่
ตอน บทที่ 72 ข้อถกเถียงของพันธมิตร ของนิยายโรแมนซ์เรื่องดัง บุบผาร้อยเสน่ห์ โดยนักเขียน ลิ่วเยว่ เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
บทที่ 72 ข้อถกเถียงของพันธมิตร
บนไหล่เขา กู้อ้าวเวยนั่งลงบนก้อนหินใหญ่ก้อนหนึ่ง
“พวกเขากำหนดไว้แล้วว่าทางด้านนู้นท่านยังต้องรับอนุ จึงจงใจมาเร่งรัดเวลา” กู้อ้าวเวยปรายตามองเขาแวบหนึ่ง นึกอยากใช้ต้นไม้ใบหน้าบนพื้นดินมาถักทำเป็นพวงหรีดอย่างไร้ชีวิตชีวายิ่งนัก
“เป็นตัวข้าเองที่ลืมเลือนไปสิ้น” ก่อนจะมา ซ่านจินจื๋อคิดไม่ถึงถึงต้นตอข้อนี้เลย
“อย่างไรเสียเมื่อครู่หลังจากพวกเราทำการแสดงไปแล้ว พวกเขาเพียงแต่คิดว่าท่านกำลังประจบข้า คงไม่งี่เง่าพอที่จะพูดถึงเรื่องการรับอนุอีกแน่นอน เพียงแต่ต่อไป พวกเราจะสืบหาเทพเจ้าภูเขา หรือว่าเลือกสืบเรื่องช่องทางลับก่อนกันแน่” กู้อ้าวเวยก้มหน้างุดจัดแจงดอกหญ้าในมือ และพยายามสานให้เป็นพวงหรีดหนึ่งอันให้สำเร็จจงได้
ซ่านจินจื๋อยืนอยู่ใต้ร่มไม้ มองยังกู้อ้าวเวย “เจ้ามีความเห็นเกี่ยวกับเรื่องเทพเจ้าภูเขาอย่างไร”
“ข้าไม่เชื่อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายใต้สถานการณ์ที่โหวเซ่อมีส่วนเกี่ยวข้อง บางทีเทพเจ้าภูเขานั่นอาจจะเป็นความเชื่อประเภทหนึ่ง หรือไม่ก็วิธีการที่พวกเขาโหวเซ่อใช้สื่อสารภายในแคว้นชางหลาน ส่วนวัตถุประสงค์ในการมีส่วนร่วมเรื่องนี้ของโหวเซื่อยังไม่เป็นที่รู้ชัด แต่เป็นอันแน่ใจว่าพวกเขาจะต้องทำข้อตกลงที่ไม่เลวกับทหารน้ำโล่เสียอย่างแน่นอน” กู้อ้าวเวยวางผลิตภัณฑ์ที่ล้มเหลวในมือเอาไว้ด้านข้าง ปีนลงจากก้อนหินและตัดสินใจจะเริ่มต้นอย่างที่สอง นางมักไม่ชอบให้มือของตนเองว่างงานเอาเสียเลย
“มีความเป็นไปได้” ซ่านจินจื๋อพยักหน้าเห็นด้วย แม่ทัพเฉิงอาจจะประจวบกับนำเรื่องนี้ไปเจรจามาต่อหน้าพวกเขาแล้วก็เป็นได้
“แต่แม่ทัพเซียวคิดว่าการค้าขายยาพิษไม่ได้ทำเงินเท่าใดนัก และยังคงตรวจสอบสาเหตุที่ลูกหลานเหล่านั้นเข้ามาเพื่อเป็นแม่ทัพเป็นแพทย์ทหารโดยไม่เปิดเผยตัวตนอยู่” กู้อ้าวเวยกล่าวต่อ
แม่ทัพเฉิงพยายามอย่างหนักเพื่อโยนสิ่งที่เกิดขึ้นในค่ายทหารไปให้เทพเจ้าภูเขาที่ไม่มีอยู่จริง ในขณะที่ทหารคนอื่นๆ มีความอดทนกล้ำกลืนปากเสียงไม่กล้าบอกความจริง แต่เจ้าหน้าที่อาวุโสและลูกหลานเหล่านั้นเสี่ยงอันตรายเพื่อผลิตยาพิษอยู่ที่นี่ จะต้องยังมีสาเหตุอื่นๆ อีกอย่างแน่นอน
ผ่านไปสักพัก ราวกับซ่านจินจื๋อฉุกคิดอะไรขึ้นได้ ก่อนมองทางกู้อ้าวเวย “คืนวานเจ้าวางยาพิษให้เจ้าอ้วนกลมหวางฮุยคนนั้น?”
“ใช่แล้ว ทำไรหรือ” ในที่สุดกู้อ้าวเวยก็เงยหน้ามองเขาด้วยความฉงน
“ทำเพิ่มอีกนิด แล้วทำให้พวกเขาคิดว่ามีคนวางยาพิษ อย่างไรเสียหมอของที่นี่ก็อาจจะเป็นเพียงหมอต้มตุ๋นหรือไม่ก็หมอทำพิษก็เป็นได้ เจ้าสามารถให้ยาพิษที่ใช้กับกว่างเสียนก่อนหน้านี้แก่พวกเขาก็ได้” ซ่านจินจื๋อเดินไปยังข้างกายของนาง
“เข้าใจแล้ว ถึงเวลานั้น พวกเขาจะตรงดิ่งเข้ามาหาพวกเราและบอกความจริงเอง หากรู้ว่าง่ายขนาดนี้ตั้งแต่แรก คืนวานข้าคงช่วยคนออกมาแล้ว” กู้อ้าวเวยกำหมัดแน่นอย่างช่วยไม่ได้
“ถ้าหากคืนวานเจ้าช่วยคนออกมา บรรดาคนที่รู้ความจริงจะต้องหนีออกไปตลอดทั้งคืน ลอยตามกระแสน้ำไปยังปลายน้ำ ซึ่งไม่ใช่ผลดีอะไรเลยกับพวกเรา” ซ่านจินจื๋อปริปากเอ่ยเสียงทุ้ม แต่เมื่อเปรียบเทียบกับท่าทางแล้วดูเหมือนกับกำลังออกคำสั่งกับเหล่าทหารอารักขาที่ซุกซ่อนอยู่รอบๆ ข้างกาย
กู้อ้าวเวยปีนขึ้นไปบนหยินเอ่อ ลากสายบังเหียนและเดินตามหลังซ่านจินจื๋อด้วยความเร็วไม่ช้าไม่เร็วจนเกินไป
เมื่อครู่ เขากำลังปลอบใจตนเองอยู่หรอ
การเคลื่อนไหวของหยินเอ่อแพร่กระจายตามกีบม้าที่วิ่งลาดเขาลงไปขจัดความคิดของนาง ซ่านจินจื๋อควบม้าตามมาจนถึงข้างกายนางอย่างไม่รีบไม่ร้อน เห็นว่าคางของนางแนบอกแน่นมองลงยังพื้นดิน จึงเอ่ยคำต่อ “ต้องการวัสดุยาอะไร”
“ส่งข้ากลับไปยังเทียนเหยียน รอหลังจากข้าทำเสร็จแล้วจะส่งยากลับมา ให้เวลาข้าสามวัน” กู้อ้าวเวยยังคงจ้องยังปลายเท้าอย่างเอาเป็นเอาตาย กลัวสุดขีดว่าหยินเอ่อที่ไม่ค่อยมั่นคงจะโยนนางเทลงไป
ไปกลับสองวันสองคืนเต็มๆ มีเพียงวันเดียวที่ทำยา อย่างไรเสียที่นี่ยังคงขาดแคลนวัชพืชพิษอยู่เล็กน้อย
“นี่คือค่ายทหาร ไม่อนุญาตให้สร้างปัญหาอย่างไร้เหตุผล” ซ่านจินจื๋อดึงนางเข้าไปใกล้ ก่อนหน้าที่กู้อ้าวเวยจะปริปากเอ่ยต่อ เขาก็มองตรงไปทางนายทหารที่อยู่ด้านข้าง “เอาม้าของพระชายาไปผูกไว้ในคอกใกล้ๆ ปิดให้สนิท”
“กล้าดีอย่างไร!” กู้อ้าวเวยสะบัดมือของเขาออกสุดแรงเกิด “นี่คือม้าของข้า ตอนนี้ข้าจะขี่หยินเอ่อกลับจวน!”
สีหน้าของซ่านจินจื๋อเดี๋ยวซีดเดี๋ยวเขียว นายทหารข้างกายถอยห่างสามโยชน์ มีเพียงเซียวไห่ที่มาส่งข่าวและชายฉกรรจ์ที่มีเคราเดินเข้ามาเบื้องหน้า ยังคงห้ามปรามอย่างหัวเด็ดตีนขาด
ใครจะรู้ว่าสองคนนี้ยิ่งมีปากเสียงยิ่งโครมคราม ฟังดูแล้วเหมือนกับกำลังทะเลาะกันด้วยเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ผ่านไปสักพัก ซ่านจินจื๋อก็จับข้อมือของนางเอาไว้แน่นอย่างจนปัญญา กล่าวเสียงต่ำ “ข้าให้คนไปส่งเจ้าที่จวน เรื่องของกู้จี้เหยาวันหน้าพวกเราค่อยพูด ดีหรือไม่”
บัดนั้นกู้อ้าวเวยตาแดงก่ำ ควบม้าวิ่งไปด้านนอกย่างโกรธขึ้งไม่พึงใจ
เซียวไห่มองทางซ่านจินจื๋อแวบหนึ่งอย่างสนเท้ห์ ราวกับอยากพูดอะไร ซ่านจินจื๋อกลับทำเพียงขยิบตาให้เขาครั้งเดียว เขาก็รีบปิดปากทันควัน ดูท่าเรื่องราวเหล่านี้เป็นสิ่งที่พวกเขาวางแผนกันมา
“ท่านอ๋อง พระชายาทำเยี่ยงนี้...” แม่ทัพเฉิงรีบร้อนก้าวมาต้อนรับ
“ข้าจัดกำลังคนให้ไปส่งนางกลับไปแล้ว พักนี้ยังต้องตรวจสอบเรื่องดังกล่าวเป็นอย่างดี” ซ่านจินจื๋อ นวดหว่างคิ้วอย่างจนปัญญา มองส่งเงาร่างของกู้อ้าวเวยจนลับสายตา
ดวงตาของแม่ทัพเฉิงวาววับขึ้นมา ทักษะการแพทย์ของพระชายา ช่างข่มขวัญพวกเขาได้มากเสียจริงๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุบผาร้อยเสน่ห์
นางเอกเหมือนจะเก่งแต่ก็ยอมให้ผัวทำร้ายร่างกายตลอด...
บางคำแปลแบบ งงๆ อ่านแล้วเหนื่อยเรื่องนี้ พักก่อน...
สรุปแล้วใครคือพระเอก อ๋องจิ้งไม่เหมาะเลย ขอเป็นคนอื่นแทนได้ไหม...