บุบผาร้อยเสน่ห์ นิยาย บท 73

สรุปบท บทที่ 73 บุกจับ ณ เทียนเหยียน: บุบผาร้อยเสน่ห์

อ่านสรุป บทที่ 73 บุกจับ ณ เทียนเหยียน จาก บุบผาร้อยเสน่ห์ โดย ลิ่วเยว่

บทที่ บทที่ 73 บุกจับ ณ เทียนเหยียน คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายโรแมนซ์ บุบผาร้อยเสน่ห์ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย ลิ่วเยว่ อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

บทที่ 73 บุกจับ ณ เทียนเหยียน

คนที่จวนเฉิงเสี้ยงส่งมากลับไม่เห็นร่องรอยของกู้อ้าวเวยออกจากค่ายธารทหารเลยสักนิด  

ในป่าลึกทางฝั่งถนนใต้ภูเขา กู้อ้าวเวยเพียงแค่จูงหยินเอ่อหยุดอยู่บริเวณที่สูงชัน มองยังกลุ่มคนของจวนเฉิงเสี้ยงนำข่าวคราวออกไปคนชุดดำยืนอยู่ข้างกายของนาง และบอกแก่นาง “ตามคนของจวนเฉิงเสี้ยงออกไป คงทำได้เพียงถ่วงเวลาของพวกเราเท่านั้น”

“เฉิงยีและเฉิงเอ้อเล่า?” กู้อ้าวเวยดึงสายบังเหียนเปลี่ยนทิศทางอย่างไม่ใคร่จะเต็มใจนัก  

“พวกเขาไปเอาม้าสักพักคงตามมา” คนชุดดำมุ่นหัวคิ้ว ก่อนที่กู้อ้าวเวยจะตอบสนองก็กระโดดขึ้นบนหลังของหยินเอ่อ รับสายบังเหียนในมือของกู้อ้าวเวยมาควบสะบัดออกไปแล้ว

หดตัวลงบนหลังม้าอย่างน้อมรับชะตา นางย่อมรู้ดีว่าด้วยความเร็วของนางเองคงไม่มีวิธีกลับถึงเทียนเหยียนได้อย่างเร็ววันเป็นแน่แท้  

เพื่อเป็นการกระชับเวลา พวกเขาเพียงพักบนถนนเป็นเวลาสองชั่วยามก่อนจะออกเดินทางอีกครั้ง รุ่งเช้าวันถัดมาตอนที่ประตูเมืองเปิดกว้างก็เดินทางทะลุผ่านกลางเมืองเทียนเหยียน กลับสู่โรงยา   

ฉีหรัวเพิ่งตื่นขึ้นมาเมื่อครู่ กำลังอุ้มพุทราอยู่ก็เห็นกู้อ้าวเวยกระโจนเข้าสู่โรงยา หน้าประตูยังมีคนที่แต่งกายด้วยชุดสีดำทั้งตัวตามมาด้วยหนึ่งคน

ส่วนคนที่จวนเฉิงเสี้ยงส่งไปยังค่ายธารทหารก็กลับสู่จวนเฉิงเสี้ยงอีกครั้ง  

ครั้นกู้เฉิงได้ยินว่ากู้อ้าวเวยบันดาลโทสะใส่อ๋องจิ้งในค่ายธารทหาร บัดนั้นก็โกรธจนหน้ามืด ไม่สนใจคำทัดทานของฮูหยิน ส่งคนรับใช้ตรงดิ่งไปจวนอ๋อง หมายจะเรียกกู้อ้าวเวยกลับมาถามไถ่ให้รู้ความสักรอบ

ชิงต้ายในจวนอ๋องมายังโรงยาอย่างหมดหนทาง ขัดจังหวะการทำยาของกู้อ้าวเวย “แต่เดิมนายท่านก็รู้สึกโกรธด้วยเรื่องที่หลังจากคุณหนูจี้เหยาถอนงานแต่งจะต้องเข้าสู่จวนอ๋องจิ้งอยู่แล้ว เมื่อครู่ได้ยินว่าท่านบันดาลโทสะใส่อ๋องจิ้งที่ค่ายธารทหารซ้ำอีก ตอนนี้กำลังโกรธอยู่เลยเชียว”

กู้อ้าวเวยไม่เงยหน้า สองมือคู่ปราดเปรียวยังคงเคลื่อนไหวอยู่บนโต๊ะต่อไป “ไม่ว่าง ปฏิเสธไปก่อน”   

“แต่...อย่างไรเสียนั้นก็เป้นถึงบิดาของท่านเชียวนะ คุณหนู” ชิงต้ายปริปากเอ่ยต่ออย่างจนปัญญา “แม้นท่านไม่ไปแล้วล่ะก็ นายท่านจะต้องไม่เป็นอันจากไปโดยเด็ดขาด...”

ทอดถอนใจฮาวหนึ่งเฮือก แต่สุดท้ายก็วางวัสดุยาในมือลง

“ข้าจะไปที่นั่น”

   ……

ท่ามกลางจวนเฉิงเสี้ยง กู้จี้เหยานั่งอยู่ด้านข้าง ส่วนกู้อ้าวเวยนั่งถัดจากตำแหน่งที่นั่งหลัก จิบชาหนึ่งอึกอย่างระแวดระวัง มองทางกู้เฉิงอย่างจนปัญญา “บิดา ข้าทะเลาะกับท่านอ๋องก็ไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่โตอันใด อีกหน่อยข้าเข้าไปขอโทษก็สิ้นเรื่องแล้ว”

“แน่นอนว่าต้องขอโทษแล้ว นั่นเป็นถึงท่านอ๋องแห่งแคว้นชางหลานเชียวนะ” กู้เฉิงหน้าแดงก่ำ แม้นกู้อ้าวเวยมิใช่พระชายาอ๋อง ตอนนี้เขาคงอดรนทนไม่ไหวที่จะชี้หน้าด่าลูกสาวคนโตของเขาไปแล้ว “วันหน้าไม่อนุญาตให้อารมณืเสียใส่ท่านอ๋องอีก ต้องฟังคำสั่งสอนของสามีอย่างว่าง่าย นี่ถึงจะเป็นหน้าที่ขั้นพื้นฐานที่สตรีนางหนึ่งพึงมี!”

“ทราบแล้วเจ้าค่ะ” กู้อ้าวเวยวางถ้วยชาในมือลง ยันกายลุกขึ้นหมายจะเดินจากไป กู้จี้เหยากลับก้าวมาขวางทางนางเอาไว้ ปลายตาแดงก่ำ หยาดน้ำตาหลั่งริน

“ท่านพี่ ท่านอ๋องไม่อยากสู่ขอข้าใช่หรือไม่” น้ำคำที่เรียกพี่สาวนั้นเอื้อนเอ่ยอย่างจริงใจที่สุด

“ม่รีรอให้กู้อ้าวเวยปริปาก กู้เฉิงที่อยู่ด้านหลังรีบก้าวฉับๆ มาเบื้องหน้า ดึงกู้จี้เหยามาอยู่ด้านข้าง พลางกล่าวอย่างพิโรธ “เจ้ามันแพศยา! หน้าตาของตระกูลกู้ของพวกเราถูกพวกเจ้าสองพี่น้องทำขายหน้าไปหมดแล้ว”

“บิดา!” กู้จี้เหยาร้องลั่นขึ้น  

“อย่าเรียกข้าว่าพ่อ! เมื่อครู่เจ้าเพิ่งถอนสัญญาการแต่งงานกับตระกูลฉีไป ประเดี๋ยวยังวิงวอนให้อ๋องจิ้งรับเข้าจวนเป็นอนู ดีร้ายเจ้าก็เป็นถึงลูกสาวรองของข้ากู้เฉิง นึกอยากอ้อนวอนไปเป็นนางอนุให้ท่านอ๋อง! ช่างทำให้ข้าขายหน้าขายตาไปหมดเลยจริงๆ!” กู้เฉิงกระชากนางไปยังด้านข้าง ต่อว่าไม่หยุด

กู้จี้เหยาร่ำไห้กลายเป็นคนเจ้าน้ำตา ท่ามกลางจวนเฉิงเสี้ยงแห่งนี้ บิดาเคยดุด่านางเยี่ยงนี้เสียเมื่อไหร่? 

“ล้างออกไปเรียบร้อยแล้ว” กู้อ้าวเวยยิ้มและวางใบสั่งยาล้างพิษใส่ในมือของหยุนฟู หลังจากที่หยุนฟูอ่านดูแล้วก็แย้มรอยยิ้มออกมา “หากเป็นเยี่ยงนี้ นายท่านคงจะรอท่านกลับไปที่หลิ่งหนานตระกูลหยุน หนังสือโบราณในอาคารแปดเหลี่ยมนี้ก็มอบให้คุณหนูเช่นกัน”

“หยุนฟู เจ้ายังจำเรื่องของโหวเซ่อได้หรือไม่”

หยุนฟูทำเพียงแต่ยิ้มไม่เอ่ยคำ กู้อ้าวเวยกลับไม่ได้ซักไซ้ต่อ ทำเพียงเอ่ยกำชับ “รอประเดี๋ยวให้หยินเชี่ยวเข้ามา เอาหนังสือและสิ่งของเหล่านี้ส่งกลับไปยังโรงยา จะดูแลอย่างดิบดี”

“เข้าใจแล้วเจ้าค่ะ คุณหนู” หยุนฟูยิ้มพลางพยักหน้าหงึกหงัก กระโจนเข้าไปในอาคารแปดเหลี่ยมเล็กๆ

ทอดมองไปยังลานว่างเปล่า กู้อ้าวเวยมุ่นหัวคิ้วอย่างช่วยไม่ได้

ตาทวดจากไปเพราะเหตุอันใด มีส่วนเกี่ยวข้องกับโหวเซ่อด้วยหรือไม่  

นึกไม่ออก แต่นางกลับสามารถทิ้งปัญหาเหล่านี้ไว้ได้ชั่วคราว รีบสาวเท้ากลับไปยังโรงยา ฉีหรัวช่วยนางจัดการชั่งวัสดุยาเป็นที่เรียบร้อย เฉงยีเฉิงเอ้อเองก็ให้ความช่วยเหลือ มีเพียงชายชุดดำคนนั้นที่ยืนไม่พูดไม่จาอยู่ด้านข้าง  

นางเดินไปข้างหน้าหลายก้าว ยังไม่ทันเอ่ยคำ แต่ได้ยินเสียงกังวานหลานครั้ง ลูกดอกและหินหลายๆ ก้อนตกอยู่ปลายเท้าในเวลาเดียวกัน คนชุดดำได้กระโจนมายังข้างกายนางเป็นที่เรียบร้อย ยกมือขึ้นขวางให้นางอยู่ด้านหลังกาย “เฉิงยีเฉิงเอ้อ”

เฉิงยีส่งฉีหรัวเข้าไปใต้โต๊ะ เฉิงเอ้อได้โถมขึ้นไปบนกำแพงตั้งแต่ทีแรกแล้ว  

“เกิดอะไรขึ้น” ฉีหรัวกระซิบกระซาบ กู้อ้าวเวยรีบวิ่งเข้าไปหลบอยู่ใต้โต๊ะด้วยกันกับนาง มีคนในชุดสามัญหลายคนกระโดดเข้ามาจากฝั่งกำแพง และล้อมรับชายชุดดำกับเฉิงยีและเฉิงเอ้อ

สายตาของกู้อ้าวเวยหรี่ลง คนเหล่านี้ จะต้องเป็นคนที่โหวเซ่อส่งมาอย่างแน่นอน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุบผาร้อยเสน่ห์