บุบผาร้อยเสน่ห์ นิยาย บท 74

บทที่ 74 รูปทรงของเทพเจ้าภูเขา

ปล่อยให้ลูกศรพุ่งมาจากที่มืด ชายชุดดำยังคงสามารถรับมือกับมันได้อย่างอิสระ และร่างกายของเขาก็เคลื่อนไหวไปเรื่อยๆ 

เห็นได้ชัดว่าผู้บุกรุกร่างกายอ่อนแอ และมีถึงสามคนที่ตายคามือของชายชุดดำ แต่กลับไม่ได้พบเจอกับกู้อ้าวเวยแม้เพียงเสี้ยววินาที ประเมินจากสายตาแล้วพวกเขากำลังเตรียมตัวจะจากไป

ในวินาทีต่อมา กู้อ้าวเวยเผยตนด้วยตัวเอง เดินมายังข้างกายของชาชุดดำ และกะพริบตาอย่างซุกซน  

ชายชุดดำเคลื่อนไหวฉาดหนึ่ง กู้อ้าวเวยเทผงที่เตรียมเอาไว้ออกไป คนของโหวเซ่อประหลาดใจโดยไม่รู้ตัว แต่กลับมาเพียงคนเดียวที่ตอบสนองได้ทันท่วงที ฉวยโอกาสตอนที่ชายชุดดำยังไม่ทันมีปฏิกิริยาตอบกลับ ตรงดิ่งเข้ามาคว้าหมับที่กู้อ้าวเวยเอาไว้

“คุณหนูกู้” ฉีหรัวร้องลั่นขึ้น  

ชายชุดดำตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง รีบเร่งตามเข้าไป แต่คนของโหวเซ่อก็ถลาเข้ามาราวกับไม่ต้องการชีวิตแล้ว เฉิงยีเฉิงเอ้อกรูเข้ามาดักคนเอาไว้โดยไม่ต้องยั้งคิดและชายชุดดำที่ที่ควรจะอยู่ในลานกลับอันตรธานหายตัวไป  

รอจนกระทั่งตอนที่กู้อ้าวเวยตอบโต้ นางได้ถูกยัดเข้าภายในรถม้าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และคนที่จับตัวนางมาทำหน้าตึงเครียดตลอดเวลา หลังจากที่ผ้าในปากและผ้าสีดำตรงดวงตาของนางถูกนำออกไปแล้ว คนผู้นั้นจึงเปิดปากพูด “ตามข้ากลับโหวเซ่อแต่โดยดี”  

“ก่อนหน้านี้คนของพวกเจ้าถึงกลับอยากจะสังหารข้า ไฉนวันนี้เปลี่ยนใจไปแล้ว?” มือสองข้างของกู้อ้าวเวยถูกมัดอยู่ด้านหลัง ขาทั้งสองข้างกูถูกเชือกหน้าเท่าหัวแม่โป้งพันรอบสี่ห้าทบ แต่พวกเขายังไม่ได้เตรียมการจะสังหารนาง

“แน่นอน ก่อนหน้านี้เจ้าเคยได้รับพิษออกฤทธิ์ช้าของตระกูลหยุน ย่อมไม่อาจเป็นผู้สืบทอดได้เป็นธรรมดา แต่วันนี้กลับไม่เหมือนกัน พิษของเจ้าได้รับการล้างมาแล้ว วันหน้าตระกูลหยุนยังมีเจ้าอยู่ทั้งคน พวกเราโหวเซ่อ ต้องการคนที่คู่ควรพอ” ชายผู้นั้นหัวเราะเบาๆ และยกมือขึ้นอุดปากนางเอาไว้อีกครั้งหนึ่ง

นางค่อนข้างอธิบายไม่ถูก แต่กลับได้ยินนายทหารบางส่วนกำลังพูดคุยกับคนขับรถม้าจากด้านนอก

ดูท่า คงจะเตรียมการออกจากเมืองแล้วกระมัง?  

อีกประการ ผู้อารักขาประตูเมืองเหล่านั้นดูเหมือนจะไม่มีท่าทีเข้ามาตรวจดูในรถม้าเลยสักแอะ ข้อนี่ยิ่งทำให้นางเพิ่มความแปลกประหลาดใจมากขึ้น ผ่านไปสักพัก คนผู้นั้นก็ปล่อยริมฝีปากของนาง และกล่าวพลางหัวเราะเบาๆ “ลูกหลานของตระกูลหยุนของพวกเจ้าไม่ว่าจะไปยังแห่งหนใด ก็ล้วนเต็มไปด้วยลักษณะของเมฆจางๆ เต็มไปหมดจริงๆ สินะ”  

“ในเมื่อรู้ว่าคนอื่นช่วยชีวิตข้าไม่ได้ ข้ายังจะร้องแหกปากตะโกนลั่นให้เสียเวลาทำไมกันเล่า” ในใจกู้อ้าวเวยได้นึกถึงอะไรบางอย่างเป็นที่เรียบร้อยแล้ว  

คนเหล่านี้ในเมื่อสามารถบอกจุดประสงค์ของพวกเขาแก่นางฟังอย่างไม่เห็นแก่ตัว ซ้ำยังสามารถออกจากเทียนเหยียนได้อย่างเรียบง่ายและง่ายดายเยี่ยงนี้ นอกจากนี้คนของค่ายธารทหารนั้นยังมีส่วนเกี่ยวข้องกับโหวเซ่อ เช่นนั้นล่ะก็ คนที่ร่วมมือกับโหวเซ่จะต้องเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงของราชสำนักเป็นแน่

“เจ้านี่ช่างมองทะลุจริงๆ” ชายผู้นั้นยิ้มเยาะ

“เจ้าก็เหมือนกัน ถึงกับบอกถ้อยคำของพวกเจ้าให้ข้าฟังตรงๆ” กู้อ้าวเวยเองก็ยิ้มตามเบาๆ “ฐานที่มั่นใกล้ๆ กับค่ายธารทหารโล่เสียของพวกเจ้า สูญเสียไปแล้วช่างน่าเสียดายจริงๆ ใช่หรือไม่”   

บัดนั้นดวงตาของชายหนุ่มก็คมกริบขึ้นมา และปรี่เข้ามาบีบลำคอระหงของกู้อ้าวเวย “มันน่าเสียดายจริงๆ เพียงแต่คิดไม่ถึงว่าเจ้าจะค้นพบมันเข้า”  

“อย่างไรเสียค่ายธารทหารเองก็เป็นของชางหลาน ไม่ใช่ทุกคนที่จะช่วยพวกเจ้าเก็บกำความลับไว้ได้หรอก ที่นั่นมีแต่คนทึ่มทั้งนั้น” กู้อ้าวเวยยังคงยิ้มอย่างเปิดเผย และไม่ต้องใช้ความพยายามเค้นความโกรธแค้นต่อบุรุษเบื้องหน้า “แต่ข้าไม่รู้จุดประสงค์ของพวกเจ้าว่าคืออะไรกันแน่...”

“ล้วนทำเพื่อล้างหนี้และชดเชยเลือดให้แก่ตระกูลหยุนของพวกเจา” ชายผู้นั้นลงน้ำหนักมือ มองดูกู้อ้าวเวยไออย่างหนักหลายๆ ครั้งอย่างพึงพอใจ จึงค่อยเอ่ยต่อไป “แต่ว่า ข้ารู้เจ้าไม่ได้เติบโตในตระกูลหยุน แต่เป็นตระกูลกู้ อีกทั้งอ๋องจิ้งเองก็ไม่ได้เอ็นดูเจ้าอย่างที่จินตานาการเอาไว้ขนาดนั้น แต่พวกเราโหวเซ่อสามารถช่วยเจ้าได้ ไม่ว่าจะเป็นหัวใจของอ๋องจิ้ง หรือว่าตำแหน่งฮองเฮาในภายภาคหน้า”

“พวกเจ้าช่างบังอาจยิ่งนัก” กู้อ้าวเวยหัวเราะเบาๆ แต่สายตากลับมองตกไปยังด้ามดาบบนเอวของเขา ตรงนั้นวาดรูปเทพเจ้าภูเขาที่บิดเบี้ยว เหมือนกับที่เห็นในค่ายธารทหาร เป๊ะทุกประการ

ที่แท้นึกอยากชักจูงนางโต้งๆ แต่น่าเสียดาย เจ้าของร่างเดิมนี้ไม่อยู่ตั้งนานแล้ว  

“แน่นอน พวกเราอยู่เฉยๆ มาหลายร้อยปี ขอเพียงเจ้านำความลับหายากและสูตรตัวยาของตระกูลหยุนมาร่วมกับพวกเรา สิ่งที่เจ้าปรารถนา วันหน้าพวกเราสามารถมอบให้เจ้าได้ทั้งสิ้น” ชายผู้นั้นเอ่ยคำต่อไป ดวงตาบ้าคลั่ง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุบผาร้อยเสน่ห์