บุบผาร้อยเสน่ห์ นิยาย บท 92

ตอนที่ 92 องค์ชายจิตใจทะเยอะทะยาน

คนที่นั่งหลังชนกับนางได้ลุกขึ้น

กู้อ้าวเวยตัวแข็งทื่อ ไม่นึกไม่ฝันว่าจะเจอองค์ชายสาม ซ่านเซิ่งหาน ที่นี่ แต่องค์ชายก็ยังตั้งใจบรรจงนั่งลงตรงที่ที่ฉีเฟยนั่งเมื่อครู่ ดูเหมือนว่าเขาจะได้ยินเรื่องราวเมื่อครู่หมดแล้ว แต่ใบหน้าของเขาก็ยังคงมีความอบอุ่นและรอยยิ้ม

“องค์ชายสาม ท่านมาที่นี่ได้อย่างไร?”นางแกล้งไอสองสามที แกล้งทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ถึงอย่างไรก็ไม่ใช่นางเป็นคนพูดความลับในตำหนักอ๋องจิ้งออกไป ถ้าหากว่าเรื่องถึงหูซ่านจินจื๋อจริงๆละก็ ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับนาง

“วันนี้ ฟ้าหลังฝนช่างสดใสยิ่งนัก ก็เลยอยากจะออกมาเดินเล่น ไม่นึกว่าจะได้มาพบพระชายาจิ้งในร้านอาหารป่ายเว่ย ซ้ำยังได้ทราบเรื่องลับๆของของตำหนักอ๋องจิ้งด้วย ” ซ่านจินจื๋อพูดด้วยน้ำเสียงเย็นๆ แล้วก็สั่งให้ลูกน้องไปเอาถ้วยกับตะเกียบมาอีกชุด สั่งเหล้าและกับแกล้มเล็กน้อย ราวกับว่าจะคุยนาน

ฝั่งตรงข้ามเปิดหัวข้อคุยมาชัดขนาดนี้ กู้อ้าวเวยก็ได้แต่ คุยต่อไป “องค์ชายสามก็คิดเสียว่าไม่ได้ยินเรื่องราวทั้งหมดก็ได้ มันก็เป็นแค่เรื่องราวระหว่างข้ากับอ๋องจิ้ง ก็เท่านั้น”

“ท่านลุง ใจร้ายกับเจ้าถึงเพียงเลยหรือ?”ซ่านเซิ่งหาน เงยหน้าขึ้น และบังเกิดสายตาแห่งความเป็นห่วงขึ้น

เอามือแตะๆที่ขอบแก้วเหล้า กู้อ้าวเวยรู้สึกว่าเริ่มเจ็บคอมากขึ้น “ถ้าหากองค์ชายสามอยากฟังความจริงละก็ ก็จะบอกให้ว่ามันเป็นความจริง”

“เหตุใดเจ้าถึงไม่โกรธ ถ้าเจ้าเอาเรื่องนี้ไปบอกกับฮ่องเต้และฮองเฮา ละก็ พวกท่านต้องคืนความเป็นธรรมให้กับเจ้าแน่” คำพูดขององค์ชายสามเริ่มเร็วขึ้น

“ความยุติธรรมคือจิตใจของมนุษย์ ที่พวกเขาช่วยข้า ก็เพราะว่าในอนาคตข้าสามารถช่วยเหลือซ่านจินจื๋อได้ พูดไปพูดมา ก็เพื่ออ๋องจิ้ง ถ้าข้าบอกไป ท่านอ๋องก็จะเสียคนที่รักไป ข้าก็มีชีวิตอยู่ต่อไปไม่ได้เช่นกัน” กู้อ้าวเวยจิบเหล้าในจอกเล็กน้อย เงยหน้าดึงคิ้วขึ้นมองไปที่องค์ชาย “ถึงแม่ว่าในโลกนี้จะไม่มีจิตใจที่ยุติธรรมให้กับข้า แต่ว่าข้ายังไม่อยากตาย เหตุผลนี้ดีพอฟังขึ้นมั้ย?”

ครั้งนี้ถึงคราวที่ซ่านเซิ่งหานต้องใจเต้นบ้างแล้ว

ถึงแม้จะคุยกันเรื่องนี้ สายตาของกู้อ้าวเวยก็ไม่มีความแค้นแม้แต่น้อย มีแต่ความซื่อตรงและยอมรับชะตากรรม และความทะเยอะทะยานที่ส่งออกมา

นางดูเป็นคนที่ชัดเจนมาก สมแล้วที่เป็นคนในวัง

“ก่อนหน้านี้ได้ยินว่าพระชายาจิ้งเป็นคนใช้อำนาจบาตรใหญ่ ทำอะไรตามใจตัวเอง จากที่เห็นวันนี้ สิ่งกล่าวมาล้วนเป็นการแสดงของเจ้า แต่ว่าข้าก็สงสัย เจ้าเป็นถึงลูกสาวคนโตของจวนเฉิงเสี้ยง ทายาทตระกูลหยุน ทำไมถึงยอมใช้ชีวิตอย่างไม่ได้รับความเป็นธรรมเช่นนี้” ซ่านเซิ่งหาน อดใจที่สืบความจริงไม่ได้ ว่าพระชายาจิ้งคนนี้เป็นผู้หญิงอย่างไรกันแน่

“ยศศักดิ์สวรรค์กำหนด แต่ชะตากรรมนั้นคนเลือกเดิน ข้าไม่คิดว่ายศถาบันดาศักดิ์เหล่านี้จะทำให้ชีวิตข้าอยู่สุขสบาย ข้าไม่เคยใช้มันเลย แต่ตำแหน่งพระชายาจิ้งนี้ ข้าค่อนข้างชอบนะ ปกติก็ใช้มั่วซั่วอยู่ แต่ข้าก็ไม่ได้รู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม เพียงแต่องค์ชายสามมองไม่เห็นเท่านั้นเอง ” กู้อ้าวเวยหัวเราะขึ้น เสียงทื่อๆฟังแล้วก็ดูน่ารักดี

ปกติแล้วอยากทำอะไรก็ทำ ที่ไปสู้กับพวกจวนอ๋องนั่นก็แค่เพราะว่าทำอะไรไม่ถูกแล้ว

ผู้คนมากมายบนโลกนี้ มีใครบ้างที่ไม่เคยมาถึงทางตัน นางอดกลั้นไว้เสียที่ไหน

ซ่านเซิ่งหานมองแล้วก็อดที่จะยิ้มมุมปากไม่ได้ “แต่ พระชายาจิ้งไม่โกรธแค้นอ๋องจิ้งสักนิดเลยหรือ?”

“ก็แค้นอยู่” กู้อ้าวเวยรีบเอามามือเท้าคางลงโต๊ะ ให้คนรับใช้เสี่ยวเอ้อเอาเหล้าและกับแกล้มมาเสริฟ แถมยังมีขนมเล็กๆน้อยๆด้วย

“เช่นนั้นเจ้ายังช่วยเขาแก้ปัญหาเรื่องค่ายในน่านน้ำอีก ปกติก็ปกป้องเขา หรือว่าพระชายาจิ้งไม่จะอยากหาคนร่วมอุดมการณ์ใหม่หรือ?” ซ่านเซิ่งหานดันจานขนมมาไว้ตรงหน้านาง

ดึงคิ้วมองไปที่เขา กู้อ้าวเวยรู้สึกประหลาดใจขึ้นมา

ซ่านเซิ่งหานผู้นี้ ปกติแล้วจะไม่สนใจเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับตน งานล่าสัตว์ก็ไม่เข้าร่วมไปเอาใจฮ่องเต้ ปกติแล้วยากที่จะได้รับรู้เรื่องราวของเขาจากปากซ่านจินจื๋อและคนอื่นๆ ส่วนมากจะได้ยินว่าเขาอยู่แต่ในจวน ไม่สนใจโลกภายนอก

“ข้ายังมองไม่ออกว่าใครจะร่วมมือกับข้าได้” ทว่า องค์ชายสามก็ไม่เลวนะ

ถึงอย่างไรก็ตาม ได้เจอกับองค์ชายสามครั้งแรก ก็ถือว่าสนุกดี

“พระชายาจิ้งเป็นฉลาดแต่แกล้งโง่” ซ่านเซิ่งหานสั่นหัวด้วยความระอา

“ก็นะ แต่ว่าความสัมพันธ์ของข้าและองค์ชายสี่ดีกว่าเจ้า เจ้าเอาอะไรมาคิดว่าข้าจะร่วมมือกับองค์ชายที่เพิ่งเจอหน้าไม่กี่ครั้ง? ”กู้อ้าวเวยวางแก้วเหล้าลง สายตาจริงจังมาก “ลองให้เหตุผลมาซิ”

“มีเพียงข้า ที่จะขึ้นตำแหน่งฮ่องเต้ได้” ซ่านเซิ่งหานยังคงนิ่งเช่นเดิม

หัวเราะกราวครู่หนึ่ง กู้อ้าวเวยถึงขั้นต้องไอออกมา มองไปยังแสงสว่างนอกหน้าต่าง ดูเหมือนว่าจะสว่างขึ้น แล้วลุกขึ้นอย่างช้าๆ “ไม่นึกว่าการพบกันไม่ค่อยดีนักในครั้งนี้ข้าจะได้เพื่อนใหม่ วันหลังถ้ามีเรื่องอะไรก็เอาของมาให้กับหยินเชี่ยวและหยุนฝู ก็แล้วกัน”

“เจ้าเชื่อข้ารึ?”ซ่านเซิ่งหานก็ลุกขึ้นบ้าง

“เหตุใดจึงไม่เชื่อเล่า? เจ้าเก็บตัวมานมนาน แต่ก็ยังมีความทะเยอะทะยาน แต่ข้ามองไม่เห็นความเมตตาของเจ้า คงต้องรอดูก่อนต่อไป” กู้อ้าวเวยเอามือจับหน้าผากเบาๆ เดินออกไปจากร้านอาหารป่ายเว่ยอย่างไว

ไม่รู้ว่ากุ่ยเม่ยเดินตามมาทันตอนไหน กู้อ้าวเวยเรียกเขาออกมา “ กุ่ยเม่ย เจ้าติดตามข้าทุกวัน ข้าจะหาเพื่อนใหม่สักก็ไม่มีความเป็นส่วนตัวเลยหรือ?”

“ไม่ใช่เช่นนั้น ข้าน้อยเพียงแค่ทำหน้าที่อารักขาพระชายา เรื่องอื่นๆนั้น ไม่เกี่ยวกับข้า ”ดูเหมือนว่ากุ่ยเม่ยจะงงอยู่

“ท่านอ๋องสอนเจ้ามาได้ดีจริงๆ ข้าถึงได้ชอบเจ้ามากกว่าชอบเฉิงซาน” กู้อ้าวเวยกระโดดโลดเต้นเข้าไปในฝูงชนในตลาด กุ่ยเม่ยก็ได้แต่รับตามให้ทัน

นางอยากจะลองดูว่าองค์ชายสามผู้นี้ มีค่าพอให้นางใช้งานหรือไม่

แค่สตรีนางหนึ่ง นางมีอิสระมาโดยตลอด ไม่สนใจอำนาจยศศักดิ์ แต่นางก็ไม่ติดใจที่ซื่อสัตย์ต่อคนอื่นเพื่อความเป็นอิสระ อีกอย่าง นางก็อยากจะเห็นการเปลี่ยนแปลงของราชวงศ์ ดูว่าหลายปีหลังจากนี้ จะเจริญรุ่งเรื่องหรือเกิดสงครามไม่หยุดหย่อน

ทว่า เรื่องเกี่ยวกับฉีเฟย นางต้องกลับมานั่งขบคิดเสียหน่อย

วิ่งเหยาะๆมาจนถึงร้านยาเหย้า กุ่ยเม่ยที่ตามมาด้านหลังไม่มีแม้แต่รอยยับของเสื้อ แต่นางถึงกับต้องพิงวงกบประตูหายใจแทบไม่ทัน แลกกับคำเยอะเย้ยจากฉีหรัวที่นั่งอุ้มพุทราอาบแดดอยู่ในร้าน “ถ้าหากว่ามีคนตามฆ่าเจ้า เจ้าไม่สู้ล้มลงกลางทางให้พวกมันฆ่าเสียดีกว่า”

กู้อ้าวเวย จ้องไปที่นาง ทำอะไรไม่ได้ ก็นิสัยนางดูเหมือนจะไม่ค่อยดีไปสักนิด

ฉีหรัวอุ้มพุทราไว้แล้วกวักมือเรียกนาง “พี่ใหญ่ข้าพูดอะไรกับเจ้าบ้าง”

“มีแต่ประจบข้า ” กู้อ้าวเวยส่ายหัวอย่างทำอะไรไม่ถูก นั่งลงบนเก้าอี้หินข้างฉีหรัว ข้างๆมือมีหนังสือการแพทย์วางอยู่

ตอนที่กู้เฉิงและกู้ฮูหยินเดินมาถึง ก็เห็นภาพทั้งสองนั่งลงเช่นนี้แล้ว

แต่ทว่าเป็นหยินเชี่ยวที่เพิ่งมาจากห้องหนังสือเห็นกู้เฉิงที่ปากประตูก่อน ก็เลยรีบเดินไปข้างประตูแล้วทำความเคารพ “นายท่าน ฮูหยิน!”

คำนี้ ดึงสติของกู้อ้าวเวยและฉีหรัวกลับมา ฉีหรัวลืมตาขึ้นอย่างช้าๆ เห็นเฉิงเสี้ยงและฮูหยิน จำเป็นต้องลุกขึ้นทำความเคารพอยู่แล้ว

มีแต่กู้อ้าวเวยที่เอาหนังสือปิดไว้ แล้วค่อยๆมองผ่านหนังสือออกมา “ท่านพ่อและท่านแม่เล็กมาตั้งแต่เมื่อไหร่?”

สีหน้าของกู้เฉิงไม่ค่อยดีนัก แค่เชิญกู้ฮูหยินเดินเข้ามา มาถึงก็จะบ้องหูกู้อ้าวเวยสักฝ่ามือหนึ่ง โชคดีที่เฉิงยีมาห้ามไว้ได้ทัน แล้วบอกว่า “ไม่ว่าใครก็ทำร้ายพระชายาไม่ได้”

“นางลูกสาวไม่รักดี!ไม่ไปอยู่บ้านสามีที่ทำไว้ให้ มีอย่างที่ไหนกัน!” หลังจากที่กู้เฉิงจับมือห้ามไว้แล้ว ก็ยังคงโมโหไม่หยุด

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุบผาร้อยเสน่ห์