บทที่ 182 ศิษย์เอ๋ย โจมตีข้าให้สุดกำลังเลย!
เมื่อเห็นเสิ่นเทียนตอบตกลงจะนำทัพแล้ว เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ก็ปลื้มใจมาก
สารภาพตามตรง แค่รางวัลนำทัพไม่มีค่าพอสำหรับเกราะศักดิ์สิทธิ์หุบเหวมังกรเลย
เหตุที่เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ให้เกราะศักดิ์สิทธิ์หุบเหวมังกรเป็นรางวัลก็เพราะความคิดเดียว!
ตั้งแต่ที่เขากับเจ้าพุทธะเสียงอัสนีแยกกันไปรับหน้าที่เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์กับเจ้าพุทธะแล้ว ก็แอบประชันกันลับๆ มาหลายร้อยปีแล้ว
ในเมื่อสองคนเป็นคู่ต่อสู้กันก็รู้กัน เมื่อประกายเซียนหรือประกายพุทธสั่นไหว แสดงว่าคาดเดาได้ว่าอีกฝ่ายกำลังคิดไม่ดีอะไรอยู่
เจ้าเทียนซิ่วแสดงออกชัดเจนว่าถูกใจลูกศิษย์ดีของข้า คิดจะแอบดึงเขาไปออกบวชใช่หรือไม่ อย่าได้คิดเลย ข้าให้เกราะนักรบระดับศักดิ์สิทธิ์ดึงตัวเขาไว้แล้ว วางมาดใหญ่โตเช่นนี้แล้ว!
เมื่อคิดได้ดังนั้น ประกายเซียนบนผิวกายเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ก็กระเพื่อมยิ่งขึ้นเรื่อยๆ
เขาเอ่ยนิ่งๆ ว่า “เทียนเอ๋อร์ เกราะนักรบนี่ระดับสูงมาก เจ้าบีบโลหิตบริสุทธิ์มาหยดหนึ่ง ข้าจะช่วยเข้าหลอมรวมมันด้วยตัวเอง”
เสิ่นเทียนรีบพยักหน้า เขานึกถึงป้ายคำสั่งเจ้ากระบี่ในตอนแรก ตอนนั้นตนพลังบำเพ็ญต่ำเกินไป เลยต้องใช้โลหิตบริสุทธิ์เป็นชามใหญ่ถึงจะฝืนเป็นนายได้ ทำให้เขาอ่อนแรงไปสักระยะเลย
ส่วนเกราะศักดิ์สิทธิ์หุบเหวมังกรนี่เป็นของวิเศษอริยะของแท้ เหนือกว่าสมบัติวิญญาณอีก ถ้าให้เขาหลอมรวมเอง เกรงว่าต่อให้เป็นโรคโลหิตจางแล้วก็คงไม่มีหวัง
เสิ่นเทียนบีบโลหิตบริสุทธิ์มาหยดหนึ่งตามที่เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ชี้แนะ
เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ดูดโลหิตบริสุทธิ์หยดนี้เข้าไปในเกราะศักดิ์สิทธิ์หุบเหวมังกร จากนั้นสายฟ้าประกายเซียนเข้มข้นก็หลั่งไหลเข้าไปในเกราะศักดิ์สิทธิ์หุบเหวมังกร ทำการชะล้างมัน
ไม่นานสัญลักษณ์ของเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์บนเกราะศักดิ์สิทธิ์นี้ก็ถูกสลายไป กลายเป็นสัญลักษณ์ของเสิ่นเทียนแทน
ทางด้านเสิ่นเทียนรู้สึกได้ชัดเจนว่าตนกับเกราะศักดิ์สิทธิ์ชุดนี้เกิดการเชื่อมต่อกัน
เขาเคลื่อนความคิดไป เกราะศักดิ์สิทธิ์สีทองสว่างระยิบระยับพลันแยกร่างออก จากนั้นพุ่งมาหาเสิ่นเทียนทีละส่วน เกราะนักรบได้ห่อหุ้มเขาไว้ทั้งตัวในพริบตาสั้นๆ
พละกำลังแก่กล้าที่ไม่เคยมีมาก่อนหลั่งไหลจากเกราะนักรบเข้าไปในกายเสิ่นเทียน นั่นคือพลังแห่งสายฟ้า
เกราะศักดิ์สิทธิ์หุบเหวมังกรเป็นเกราะนักรบตอนเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ยังหนุ่ม เดิมทีหลอมขึ้นสำหรับคุณสมบัติกายเทพอัสนีหยางอยู่แล้ว
ทองคำห้าชนิดที่ใช้หลอมเกราะนักรบชุดนี้เป็นทองคำวิญญาณระดับสูงสุด ทั้งยังสอดคล้องกับปัญจธาตุ ภายในเกราะนักรบยังแกะสลักตราเวทเสริมพลังระดับสูง สามารถเพิ่มกำลังรบได้
เมื่อสวมเกราะนักรบชุดนี้ กำลังรบของเสิ่นเทียนพลันเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว
แน่นอน กำลังรบเพิ่มขึ้นเป็นเรื่องรอง เรื่องที่สำคัญที่สุดคือความเท่!
ตอนนี้เสิ่นเทียนสวมเกราะศักดิ์สิทธิ์ทองคำ เปล่งแสงสว่างจ้าทั้งตัว อัสนีกำเนิดฟ้าขยับประกายวูบวาบ
ผ้าคลุมขาวสะอาดดั่งหิมะคลุมลงมาจากบนบ่า ส่งเสียงดังพึ่บพั่บ อธิบายคำว่าเด่นตาได้อย่างสมบูรณ์แบบ!
เมื่อมองเด็กหนุ่มตรงหน้าแล้ว ดวงตาภายใต้ประกายเซียนของเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ยังฉายแววตกใจวูบหนึ่ง
ราชาศักดิ์สิทธิ์หนุ่มชัดๆ เทียนเอ๋อร์สวมเกราะนักรบนี้แล้วองอาจห้าวหาญเป็นหนึ่งแห่งยุคเลย บุคลิกลักษณะเช่นนี้มากพอจะทำให้สตรีศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดในแดนบูรพาต้องล้มลง!
ใบหน้าเทียนเอ๋อร์ไม่ด้อยไปกว่าข้าเลย เขาสวมเกราะศักดิ์สิทธิ์นี่ได้แบบไม่ต้องละอายใจ!
เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์พูดนิ่งๆ “เทียนเอ๋อร์ รู้สึกอย่างไรบ้าง เกราะนักรบนี่ตรงตามใจเจ้าพอดีเลย”
เสิ่นเทียนพยักหน้า “ขอบคุณอาจารย์ เกราะนักรบนี่แกร่งมาก ศิษย์รู้สึกว่าตอนนี้มีพลังไปทั้งตัวเลย!”
เสิ่นเทียนสำแดงวิชาเล็กๆ อย่างวิชากระจกน้ำ ก่อนจะมองตัวเองในกระจกด้วยความพอใจ
ทั้งตัวคลุมด้วยเกราะศักดิ์สิทธิ์ทองคำ เผยเพียงใบหน้าหล่อเหลา
ตอนนี้ ในที่สุดเสิ่นเทียนก็หลุดพ้นจากความกลัดกลุ้มในเรื่องรูปร่างภายนอกและพลังอำนาจแล้ว
เป็นอย่างที่คิดไว้จริงๆ เรื่องอุปกรณ์พวกนี้จะคำนึงถึงความดูดีกับการใช้งานจริงพร้อมกันไม่ได้หากเงินไม่พอ!
ว่าเกราะเต่าดำกับหมวกเกราะเต่าดำทรงไม่สวยรึ เจ้าดูเกราะหุบเหวมังกรข้านี่
สัญลักษณ์ทองคำตรงหน้าอกนี่ดูเท่เลยใช่หรือไม่! ของวิเศษอริยะก็คือของวิเศษอริยะ แบบนี้ต้องยกนิ้วให้!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน