บทที่ 215 นกยูงนี่ไม่ใช่นกดีอะไร!
บุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์สารชั่วทำเช่นนี้กับข้า!
จินอวี่สวมชุดเกราะเก่าที่เก็บมาได้จากในสนามรบบรรพกาล ใบหน้าเต็มไปด้วยความโกรธแค้นและอับอาย
เขาเป็นถึงโอรสสวรรค์เผ่าอินทรีสวรรค์ดินแดนทักษิณผู้ยิ่งใหญ่ เป็นปักษาเหนือปักษามาตั้งแต่เล็กจนเติบใหญ่ ไปที่ใดมีใครไม่ต้อนรับด้วยความเคารพบ้าง
ปรากฏว่าครั้งนี้เดินทางไกลจากดินแดนทักษิณมาโจมตีดินแดนบูรพา เดิมทีคิดจะล้างความอัปยศให้เผ่าอินทรี แต่กลับโดนเสิ่นเทียนปล้นไปจนหมดตัว
และที่สำคัญกว่านั้นคือทุกอย่างอยู่ในสายตาข่งเมิ่ง
นี่ทำให้ความโอหังในใจจินอวี่รับไม่ได้เลย รู้สึกเป็นบ้าไปแล้ว
‘บัดซบ เสิ่นเทียนเจ้ารังแกกันเกินไปแล้ว!’
จินอวี่กัดฟันด้วยความโมโห ทั่วร่างแผ่เปลวไฟสีทองออกมา ‘ต้องมีสักวันที่ข้าจะเหยียบเจ้าอยู่ใต้เท้า!’
ช่วงที่จินอวี่เกิดความคิดนี้ขึ้นในใจ เขาพลันหน้าเปลี่ยนสีไป มองไปอีกทางของหุบเขามารโลหิตด้วยสีหน้าจริงจัง
เขารู้สึกไม่ดีบางอย่าง!
ความหวาดกลัวรุนแรงทะลักขึ้นมาในใจ
เขารู้สึกได้ว่าเหมือนมีบางสิ่งที่ชั่วร้ายกำลังซ่อนอยู่ในหุบเขามารโลหิต
จินอวี่เปล่งแสงสีทองยิ่งกว่าเดิม เตรียมพร้อมรับมือกับข้าศึก แต่สภาพเขาตอนนี้ไม่ดีเลย!
ทันใดนั้นจินอวี่ก็หมุนตัวหนีไป
เขาพลันกระพือสองปีกบินกลับไปวงในของหุบเขามารโลหิต เพราะจินอวี่เห็นมารโลหิตสูงสิบกว่าจั้งตัวหนึ่งขวางอยู่ตรงหน้า
มารโลหิตตัวนี้มีขนาดและกลิ่นอายพลังไม่ด้อยไปกว่ามารโลหิตตัวนั้นที่พวกจินอวี่ห้าคนสังหารไปเลย หรือก็คือเจ้านี่มีกำลังรบเทียบเท่าระดับดวงจิตดรุณ!
ต้องรู้ว่าตอนนี้อยู่ในสนามรบบรรพกาล ระดับพลังของสิ่งมีชีวิตข้างนอกทั้งหมดจะถูกจำกัดไว้ต่ำกว่าแก่นพลังทอง ต่อให้เป็นจินอวี่ในสภาพสมบูรณ์ก็ไม่มีทางปราบมารโลหิตนี่ได้ด้วยตัวคนเดียว แต่อาจจะโดนมันสูบกินเหือดแห้งด้วยซ้ำ
มิหนำซ้ำ จินอวี่ในตอนนี้พลังปราณเดิมบาดเจ็บสาหัส ถ้าปะทะกับมารโลหิตนี่จริงๆ เกรงว่าคงไม่มีแม้แต่โอกาสหนี
จินอวี่ร้องแย่แล้วในใจ เป็นนกจะซวย ดื่มน้ำเย็นยังติดซอกฟันเลยจริงๆ
การฝึกฝนบนสนามรบบรรพกาลทุกครั้งในอดีตไม่มีกระทั่งวิญญาณมรณะดวงจิตดรุณสักตัว เหตุใดครั้งนี้ถึงโผล่มาติดๆ กันเช่นนี้
ตอนนี้ได้แต่กลับไปรอบในของสนามรบบรรพกาลก่อน จากนั้นค่อยหาทางอื่นหนีไป
จินอวี่กระพือปีกเต็มที่ มุ่งหน้ากลับไปทางหุบเขาอย่างสุดกำลัง ทว่าตอนที่เขาจะบินออกจากหุบเขามารโลหิตหนีพ้นจากอันตรายนั้น ก็ปรากฏมารโลหิตตัวที่สองขึ้นตรงหน้า
มีความสูงสิบกว่าจั้งเช่นกัน แผ่กลิ่นอายพลังแข็งแกร่งเช่นกัน มันขวางหน้าจินอวี่ไว้เช่นนี้ ก่อนจะตบฝ่ามือเข้ามา
ทันทีที่มันตบฝ่ามือ จินอวี่รู้สึกว่ากระแสลมรอบตัวเขาถูกพลังงานไร้รูปดึงไว้ ยากจะหลบได้อย่างคล่องแคล่ว
ข้างหน้ามีมารโลหิต ข้างหลังก็มีมารโลหิต สองข้างเป็นผาที่ไม่อาจหลบเลี่ยงได้ นี่คือสถานการณ์เลวร้ายที่มากพอจะทำให้เจ้านกสิ้นหวัง!
นัยน์ตาเขาเผยความเฉียบคม ใช้ปีกเป็นดาบฟันใส่ฝ่ามือมารโลหิตนั้นทันที
“เก้าตัดสังหารปักษาสวรรค์ ตัดที่หนึ่ง…ตัดภูผานที!”
แสงสีทองสว่างจ้าเหมือนกับดวงตะวันสีทองชนเข้ากับโลหิตหนืดนั้น ต่อมา…ก็ถูกจมหายไป
“อ๊าก!”
จินอวี่ส่งเสียงร้อง โดนฝ่ามือตบกลิ้งไปกับพื้น ชักกระตุกอยู่กับที่ไม่หยุด ปากพ่นฟองสีขาวออกมา
มารโลหิตตัวข้างหลังตามมาเช่นกัน ก่อนยื่นสองมือมาหิ้วสองปีกของจินอวี่ขึ้นมาเหมือนกับหิ้วลูกนก
“ปล่อยข้า ปล่อยข้า! สารเลว จะฆ่าก็ฆ่า อย่าแตะรักแร้ข้า! มันจั๊กจี้จะตายอยู่แล้ว! จั๊กจี้มาก เอามือสกปรกเหนียวหนืดของเจ้าออกไป!
นี่ข้าก่อกรรมอะไรไว้ ถึงต้องมาตายในมือมารโลหิตวิญญาณร้ายสกปรกเช่นนี้!”
ชั่วขณะที่จินอวี่กำลังดิ้นไปมาในมือมารโลหิตไม่หยุดนั้น เด็กหนุ่มชุดคลุมดำก็เดินออกมาจากเงามืดช้าๆ
เขามองจินอวี่เชิงหยอกล้อ “โอรสสวรรค์ของเผ่าพญาอินทรีปีกทอง มีสายเลือดพญาอินทรีปีกทองที่แทบจะบริสุทธิ์ทั้งหมด หาได้ยากจริงๆ
เจ้าเป็นเครื่องเซ่นที่ดีที่สุด รวมกับโอรสสวรรค์มากมายเป็นหินฐานรากให้ข้าไปสู่จุดสูงสุดและได้รับเกียรติยศ! เจ้าลูกนก เจ้ารู้ตัวแล้วสิ!”
เมื่อเอ่ยจบ เฮยหยวนก็ประสานมุทรา
ผิวกายมารโลหิตเกิดคลื่นกระเพื่อมโลหิตขึ้น จากนั้นยัดจินอวี่เข้าไปในท้องน้อยของมัน
กลิ่นคาวเลือดรุนแรงโชยเข้ามา ทำให้จินอวี่อยากจะอาเจียนหลายครั้ง “เจ้าชั่ว จะฆ่าก็ฆ่าเลย ไฉนต้องหยามเกียรติข้า!
เหม็นมาก! อย่า อย่ายัดเข้าไป เจ้าฆ่าข้าเลยเถอะ! ทำให้มันจบๆ ไป! หายใจไม่ออกแล้ว คาวมากเหม็นมาก อยากจะอ้วก อ้วก~ อ้วกๆ~ อ้วกๆๆ~”
สุดท้ายจินอวี่ก็ยังถูกขังอยู่ในตัวมารโลหิตเหมือนกับพวกศิษย์น้องพวกนั้น
ทางด้านเฮยหยวนหลังจากจับจินอวี่แล้วก็เข้าไปในเงามืดอีกครั้ง ซุ่มในหุบเขามารโลหิตรอคอยโอกาสมาถึง
เขากำลังรอการเซ่นไหว้ครั้งใหญ่ มนุษย์และเผ่าปีศาจพวกนี้เป็นของเซ่นไหว้ และบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์คือเครื่องเซ่นที่เขาอยากได้มากที่สุด!
“บุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เสิ่นเทียน รีบมาเถอะ ข้าคิดถึงเจ้าจะตายอยู่แล้ว!”
………..
ตัดภาพไปอีกที่ ตอนนี้เสิ่นเทียนกับข่งเมิ่งเพิ่งออกจากมิติแสงเทพ
ผนังที่ตอนแรกมีแต่ภาพนกยูงห้าสีค่อยๆ เกิดรอยร้าวและถล่มลง
ข่งเมิ่งมองผนังที่ถล่มลงนั้นพลางแสดงความเคารพ นัยน์ตาขยับประกายแสงสว่างห้าสี
ตอนนี้นางแข็งแกร่งกว่าก่อนหน้านี้อีก เพราะได้รับต้นกำเนิดแสงเทพของนกยูงสายเลือดบริสุทธิ์ระดับผู้อริยะ นี่มีประโยชน์กับนางอย่างที่ไม่มีอะไรมาเปรียบได้
ขอแค่ข่งเมิ่งดูดซับต้นกำเนิดแสงเทพวกนี้ทั้งหมด ก็จะไม่มีคอขวดในก่อนบรรลุผู้อริยะอีก!
อีกทั้ง นางเหมือนจะได้รับสมบัติศักดิ์สิทธิ์พัดแสงเทพห้าสีด้วย
นั่นคือสมบัติศักดิ์สิทธิ์ มีเพียงผู้อริยะที่ฝ่าด่านเคราะห์ภัยสวรรค์สามครั้งขึ้นไปเท่านั้นถึงจะพอหลอมสร้างมันขึ้นมาได้ ต่อให้เป็นผู้อริยะ การจะหลอมสร้างสมบัติศักดิ์สิทธิ์ชิ้นหนึ่งก็ไม่ใช่ว่าจะสำเร็จได้ง่ายๆ จะต้องตั้งใจบ่มเพาะหลายปีถึงจะสำเร็จออกมาได้
แม้แต่ในผู้สูงศักดิ์สวรรค์ระดับหลอมรวมเทพ คนที่มีสมบัติศักดิ์สิทธิ์ได้ล้วนเป็นบุคคลหายาก แทบจะไร้พ่ายในระดับเดียวกัน
เดิมทีข่งเมิ่งเป็นอันดับหนึ่งในรายนามแก่นพลังทองของดินแดนทักษิณอยู่แล้ว ตอนนี้ได้พัดแสงเทพห้าสีมาอีก จึงเหมือนกับเสือติดปีก
ดูท่าแม้แต่ในแก่นพลังทองทั้งหมดของห้าดินแดน ข่งเมิ่งในตอนนี้ก็สามารถบุกลุยฝ่าไปได้แล้ว!
ส่วนสิ่งที่เสิ่นเทียนได้รับ มองจากระดับบางอย่างแล้วไม่ได้ด้อยไปกว่าข่งเมิ่งเลย ถึงอย่างไรนั่นก็เป็นสิ่งมหัศจรรย์ฟ้าดินอันดับแปดในรายนามทองคำเซียน ซึ่งเรียกได้ว่าล้ำค่าที่สุดในตัวเสิ่นเทียนตอนนี้แล้ว
ตอนแรกในกลีบปอดเขามีกระบี่ฟ้าสังหารอยู่ก็จริง แต่ความแข็งแกร่งหลักๆ ของกระบี่ฟ้าสังหารคือผู้สร้างหลอมให้มันแข็งแกร่งทนทาน แต่ตัวกระบี่เป็นเพียงทองคำเตรียมเซียนเท่านั้น เทียบกับทองคำเซียนปีกปักษาไม่ได้
ตอนนี้เสิ่นเทียนหยดโลหิตเป็นนายทองคำเซียนปีกปักษาแล้ว ทองคำเซียนจึงถูกดูดเข้าไปในกายเสิ่นเทียน เข้าไปในกลีบปอดอีกข้าง
ทองคำเซียนปีกปักษาอยู่ทางซ้าย กระบี่ฟ้าสังหารอยู่ทางขวา ขณะเดียวกันยังแผ่กลิ่นอายธาตุทองลำดับเจ็ด ขัดเกลากลีบปอดของเสิ่นเทียน
ตอนนี้เสิ่นเทียนไม่กล้าหายใจแรงแล้ว กลัวว่าไอกระบี่จะตัดศีรษะของสหายเสียเรียบเตียน
….
ตอนนี้เอง ป้ายคำสั่งบุตรศักดิ์สิทธิ์ในอกเสื้อของเสิ่นเทียนสั่นไหวเบาๆ
เขาหยิบป้ายคำสั่งบุตรศักดิ์สิทธิ์ออกมา ก่อนจะอึ้งไป “ศิษย์น้องอวิ๋นตี๋เรียกข้า เหมือนจะเร่งด่วนมากด้วย”
ป้ายคำสั่งบุตรศักดิ์สิทธิ์ปรากฏแสงสีแดงแปดสาย นี่หมายความว่าฉินอวิ๋นตี๋ติดต่อหาเสิ่นเทียนผ่านป้ายคำสั่งในมือตนแปดครั้งแล้ว
เกิดเรื่องด่วนอะไรขึ้น พวกเขาถึงต้องเร่งรีบเช่นนี้
เสิ่นเทียนใช้วิชากับป้ายคำสั่งบุตรศักดิ์สิทธิ์ ทันใดนั้นก็ปรากฏร่างฉินอวิ๋นตี๋ลอยขึ้นจากป้ายคำสั่ง
เมื่อเห็นว่าในที่สุดก็ติดต่อได้แล้ว ฉินอวิ๋นตี๋ก็ดูโล่งอกไปอย่างเห็นได้ชัด “ศิษย์พี่ เหตุใดท่านไม่รับข้อความกัน พวกเราเป็นห่วงกันมากเลย”
เสี่ยวหลิงเซียนกับไข่มังกรดำข้างฉินอวิ๋นตี๋เห็นข่งเมิ่งหน้าตาสดใสข้างเสิ่นเทียนแล้ว ตอนนี้สีหน้ากับสีไข่แปลกมาก ออกเป็นสีดำนิดๆ
เจ้าข่งเมิ่งไปทำอะไรกับเสิ่นเทียนกันแน่
สองคนแอบทำอะไรลับๆ กัน ติดต่อไปก็ไม่รับ ตอนนี้ยังดูมีความสุขเช่นนี้อีก!
บัดซบจริงๆ!
นางนกยูงห้าสีนี้ไม่ใช่นกดีอะไรเลยจริงๆ!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน