บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน นิยาย บท 236

บทที่ 236 อาจารย์ลุงของเขา…บาดเจ็บสาหัสจริงๆ หรือ

ประมุขโลหิตใช้โลหิตบริสุทธิ์ของตัวเองเซ่นไหว้เพื่อแทงทวนที่แข็งแกร่งที่สุด

ทุกที่กลางฟ้าดินมีแต่เงาทวน อานุภาพของทวนทุกเล่มมากพอจะตอกสังหารผู้แข็งแกร่งระดับหลอมรวมเทพธรรมดาได้

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์ตันอู่เห็นนักพรตชราสู้กับประมุขชุดคลุมโลหิต นางก็มีสีหน้ากังวลขึ้นมาทันที “สู้เข้า”

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวขาวเร่งรัดป้ายคำสั่งติดต่อเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์อย่างบ้าคลั่ง เพราะไม่ว่าอย่างไรประมุขชุดคลุมโลหิตก็เป็นผู้แข็งแกร่งระดับฝ่าด่านเคราะห์

แม้ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตจะเคยใช้ระดับพลังหลอมรวมเทพสังหารผู้อริยะ แต่นั่นต้องอาศัยพลังการระเบิดกายเทพ อีกทั้งตอนนั้นผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตยังเป็นผู้ฝึกศาสตร์หลอมปราณ

หลังจากย้ายไปฝึกหลอมกาย ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตต่อสู้สุดกำลังน้อยมาก ปกติจะฟาดกระบอง ซุ่มโจมตีหรือซ่อนไพ่ตายไว้

ดังนั้นแม้แต่ศิษย์พี่ศิษย์น้องฝ่ายเดียวกันพวกนั้นก็ยังไม่รู้ศักยภาพที่แท้จริงของผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกต

ตอนนี้กว่าจะออกมือไม่ใช่ง่ายๆ ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวขาวจึงตัดสินใจติดต่อเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ทันที แต่นางก็ต้องจนปัญญา เพราะในระยะพันลี้ถูกผนึกไว้หมด

ป้ายคำสั่งในมือนางไม่อาจส่งจิตสื่อสารถึงเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ได้อีก ถูกตัดขาดไปอย่างสมบูรณ์

“วิชาทวนแข็งแกร่งมาก ข้าดูถูกเจ้าไปแล้ว”

ตอนนี้เองมีเสียงร้องดังขึ้นในความว่างเปล่า พบว่าทวนยาวสีโลหิตนั้นแทงใส่บ่าทางซ้ายของนักพรตชรา

โลหิตสีทองไหลออกมาจากบาดแผลของนักพรตชรา ย้อมชุดเซียนยันต์แปดทิศของเขาจนเป็นสีทอง ทำให้ดูค่อนข้างองอาจและเข้มแข็ง

“มารร้าย วันนี้ต่อให้ข้าสิ้นชีพตายตกไป ก็จะไม่มีวันให้มารร้ายอย่างเจ้าทำอะไรเทียนเอ๋อร์ได้แม้แต่ขนเส้นเดียว!”

นักพรตชราตะโกนด้วยความโกรธ มือคว้าทวนยาวสีโลหิตนั้นไว้แน่น กำปั้นมือขวาพลันขยายใหญ่ขึ้นสิบเท่า

ปัง~!

เขาตบใส่ประมุขชุดคลุมโลหิตอย่างแรงจนร่างปลิวออกไป

ปราการคุ้มกันสีโลหิตที่คลุมผิวกายประมุขชุดคลุมโลหิตสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงด้วยฝ่ามือของนักพรตชรา

“ไม่พังรึ”

เมื่อสัมผัสได้ถึงพลังที่ส่งผ่านมาจากปราการสีโลหิตแล้ว ประมุขชุดคลุมโลหิตอึ้งไป

จากนั้นก็แสยะยิ้ม “เหอะๆ ไม่นึกเลยว่าตอนนี้เจ้าจะได้แค่นี้ ฉู่หรงเหอ ยุคสมัยของเจ้ามันผ่านไปแล้ว เจ้าในตอนนี้ไม่ใช่สุดยอดโอรสสวรรค์ที่ใช้ระดับหลอมรวมเทพสังหารผู้อริยะคนนั้นอีกแล้ว รู้สำนึกแล้วละสิ!”

เมื่อเอ่ยจบ ประมุขชุดคลุมโลหิตก็ทำพ่นลมหายใจออกจมูก “วันนี้ข้าจะสังหารเจ้าล้างแค้นให้อาจารย์! ขอแค่ข้าหิ้วหัวเจ้ากลับลัทธิศักดิ์สิทธิ์ได้ ท่านเจ้าลัทธิจะต้องมอบรางวัลให้ข้าอย่างงาม เจ้าจงรู้สำนึกเสีย!”

พูดจบ ทวนยาวในมือประมุขชุดคลุมโลหิตก็เปล่งแสงโลหิตยิ่งขึ้น ไอทวนพุ่งเข้าใส่รอบตัวผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตราวกับพายุห่าฝน

โลหิตสีทองบนบ่าของผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตยังคงหลั่งไหล แต่เขากลับไม่มีสีหน้าหวาดกลัวแม้แต่น้อย

เขาควงกระบองยาวสีทองและเข้าปะทะกับทวนยาวสีโลหิตอย่างไม่ลังเล โลหิตสาดกระจายบนฟ้า วีรบุรุษไร้ความกลัว

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์ตันอู่ตกระบอกตาร้อนผ่าวไปนานแล้ว “เพื่อช่วยข้า ศิษย์พี่ฉู่เหอถึงกับต่อสู้อาบโลหิตกับผู้อริยะอีกแล้ว ข้าเองที่ถ่วงขาศิษย์พี่ตลอด!”

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์ตันอู่จึงกัดฟันและร่วมวงต่อสู้ด้วย สู้เคียงข้างผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกต ต้านประมุขชุดคลุมโลหิตด้วยกัน

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวขาวมีแววตาจริงจัง นางประสานมุทราอย่างรวดเร็ว สำแดงวิชาลับให้กับนักพรตชราและผู้สูงศักดิ์สวรรค์ตันอู่

นั่นคือวิชาลับเยียวยา ‘ยอดวิชาหวนคืนปราณ’สามารถฟื้นฟูอาการบาดเจ็บและพลังปราณเดิมของผู้ฝึกบำเพ็ญได้ในระดับสูงสุด

สำหรับผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวขาวที่ไม่ชำนาญการต่อสู้แล้ว นี่ก็เป็นขีดจำกัดที่นางจะทำได้เต็มที่แล้ว

“นี่ใช่อาจารย์ลุงใหญ่ที่ข้ารู้จักรึ”

เสิ่นเทียนมองนักพรตชราที่อาบเลือดต่อสู้พลางอดพึมพำกับตัวเองไม่ได้

ทว่าในความคิดเขากลับมีเสียงของเยี่ยฉิงชางดังขึ้นอย่างไม่คิดเช่นนั้น “เจ้าหนูโง่ พันปีมาแล้วไม่เปลี่ยนไปเลย ก็ยังหนังหน้าหนาเช่นนี้ เจ้าอย่าโดนเจ้านี่หลอกเชียว เขากำลังเสแสร้ง!”

อย่าโดนเจ้านี่หลอกเชียวหรือ

หมายความว่าอย่างไรกัน เสิ่นเทียนไม่เข้าใจนิดๆ

ตอนนี้เองถึงเห็นว่าประมุขชุดคลุมโลหิตคว้าช่องโหว่ได้ ทวนยาวสีโลหิตแทงไปที่คอหอยของผู้สูงศักดิ์สวรรค์ตันอู่

ทวนนี้รวดเร็วถึงขีดสุด และยังโหดเหี้ยมอย่างยิ่ง

พลังงานสีโลหิตเข้มข้นคุมตัวผู้สูงศักดิ์สวรรค์ตันอู่ไว้ ดิ้นไม่หลุดเลย

พริบตาต่อมา ทวนยาวสีโลหิตกำลังจะทะลวงคอหอยของผู้สูงศักดิ์สวรรค์ตันอู่ ทว่าตอนนี้เองนักพรตชรามาปรากฏตัวตรงหน้าผู้สูงศักดิ์สวรรค์ตันอู่

มือซ้ายเขาขยายใหญ่ขึ้นทันทีก่อนจะคว้าปลายทวนกระดูกสีโลหิตไว้ ถูกคมกรีดโลหิตอาบชุ่ม

อานุภาพของทวนกระดูกสีโลหิตลดลงเล็กน้อย ก่อนจะแทงที่บ่าซ้ายของนักพรตชรา ยกเขากระเด็นลอยไปร้อยจั้ง

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์ตันอู่ตาแดงยิ่งกว่าเดิม แต่ใบหน้าของประมุขชุดคลุมโลหิตกลับเต็มไปด้วยความลำพองใจ

“ยุคสมัยของเจ้ามันผ่านไปแล้ว รู้สำนึกเสียฉู่หรงเหอ!”

ประมุขชุดคลุมโลหิตฮึกเหิมขึ้นมา รู้สึกว่าตนได้เริ่มยุคสมัยใหม่แล้ว

ทว่าตอนนี้ฉู่หรงเหอโจมตีด้วยกระบองยาวในมือขวา ฟาดเข้าที่ศีรษะประมุขชุดคลุมโลหิต

ตึง~!

ประมุขชุดคลุมโลหิตรู้สึกมีเสียงวิ้งๆ ดังในความคิดดัง กลางกระหม่อมเหมือนจะแตกออก

ปราการคุ้มกันผิวกายต้านกระบองนี้ไม่ได้

‘ไม่ใช่ เจ้านี่จงใจรับทวนของข้า’

ประมุขชุดคลุมโลหิตหน้าเปลี่ยนสีอย่างรุนแรง ก่อนจะรีบคิดถอย ทว่าก็ไม่ทันการแล้ว กระบองรัวเข้ามาจากทุกสารทิศปานพายุห่าฝน

ประมุขชุดคลุมโลหิตที่โดนฟาดจนสมองดังวิ้งๆ ดวงจิตสั่นไหวนั้น รู้สึกว่าตรงหน้ามีแต่ดาวสีทอง แล้วจะต้านไหวได้อย่างไร

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน