บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน นิยาย บท 253

บทที่ 253 วิชากระบองของผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกต

สองเท่าหรือ

เมื่อได้ฟังการเรียกราคาของดวงจิตหอคอย ฟางฉางก็ชะงักไป

“ไฉนแซ่ฟางจะท้าประลองกับจักรพรรดิฮวงสือต้องจ่ายของเดิมพันเพิ่มเป็นเท่าตัวด้วย”

ถึงฟางฉางจะชอบการต่อสู้ แต่เขาก็ไม่โง่

นั่นคือร่างเงาตอนเยาว์วัยของจักรพรรดิฮวงสือ เขาจะใช่คู่ต่อสู้หรือ

อย่าคิดว่าแก่นพลังทองเก้ารอบจะเจ๋งอะไรขนาดนั้น เมื่ออยู่ต่อหน้าจักรพรรดิฮวงสือก็เป็นแค่เมฆลอยเท่านั้น

เมื่อหลายพันปีก่อน แดนทวีปกลางก็มีโอรสสวรรค์แก่นพลังทองเก้ารอบคนหนึ่ง ไม่เห็นใครในสายตา พูดจายั่วยุท้าทายอำนาจของตำหนักศึกษาข้าวฟ่าง

ตอนนั้นมีผู้ฝึกศาสตร์หลอมกายเทพมารระดับกายทองแปดรอบคนหนึ่งออกมาจากตำหนักศึกษาข้าวฟ่าง ก่อนจะทุบโอรสสวรรค์แก่นพลังทองเก้ารอบคนนี้เละ

แก่นพลังทองนั้นถูกทุบแตก

เล่าลือว่าผู้ฝึกศาสตร์หลอมกายเทพมารคนนั้นเป็นเพียงศิษย์ในนามของจักรพรรดิฮวงสือเท่านั้น

โอรสสวรรค์แก่นพลังทองเก้ารอบที่เรียกว่าสุดยอด เรียกได้ว่ายากจะพานพบได้ในพันปีของทั้งดินแดนบูรพา กระทั่งมองไปทั้งห้าดินแดน คนระดับนี้ก็ยังปรากฏออกมาหลายร้อยปีต่อคน

ทว่าเมื่ออยู่ต่อหน้าจักรพรรดิฮวงสือก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะอวดดีเลย!

ฟางฉางรู้ดีว่าต่อให้ตนสู้กับเด็กชายนั่นอีกครั้ง ก็จะยังพ่ายแพ้อย่างอนาถ

จ่ายเงินให้โดนทุบตี ทั้งยังต้องจ่ายเพิ่มเป็นอีกเท่าตัวเพื่อให้ถูกทุบตีหรือ

นี่มันหลักการอะไรกัน

เมื่อเห็นฟางฉางเหมือนไม่เข้าใจ ดวงจิตหอคอยจึงอธิบาย “ตามหลักแล้ว การต่อสู้เดิมพันทุกครั้งจะต้องสุ่ม หอคอยเทพสงครามก็มีกฎของตัวเอง ก่อนหน้านี้ที่ข้าช่วงชิงโอกาสมาให้เจ้าได้เสียพลังต้นกำเนิดไปจำนวนมากแล้ว

ดังนั้นครั้งนี้จึงไม่อาจแหกกฎให้เจ้าได้อีก หากเจ้าจะท้าประลองกับฮวงสือต่อ ก็ได้แต่ต้องจ่ายเป็นสองเท่า ขอแค่เจ้าเอาชนะฮวงสือได้ ก็จะได้แต้มเทพสงครามสองพันแต้มคืนไป”

หรือก็คือขอแค่เอาชนะจักรพรรดิฮวงสือ ก็จะเอาแต้มเทพสงคราม…

ฟางฉางหน้ามืดลงมา เขาจะสู้ไหวรึ!

น่าขายหน้า น่าขายหน้าเกินไปแล้ว!

เดิมทีคิดว่าตนสำเร็จแก่นพลังทองเก้ารอบแล้วจะถือว่าเป็นโอรสสวรรค์ระดับสุดยอด แต่ไม่นึกเลยว่าแม้แต่จักรพรรดิฮวงสือตอนอายุห้าหกขวบยังเอาชนะไม่ได้ ข้าฟางฉางไม่สมกับเป็นศิษย์พี่ใหญ่เทพสวรรค์เลย!

………

“แซ่ฟาง แซ่ฟางขอท้าประลองกับโอรสสวรรค์ห้าดาวฝึกมือก่อนเถอะ!”

หลังจากขยี้ดวงตาน้อยใจแล้ว ชายร่างกำยำคนนี้ก็เลือกยอมรับความจริง

ของเดิมพันสองเท่า เขาเล่นด้วยไม่ได้จริงๆ!

ทันทีที่เห็นฟางฉางไม่ติดกับ เยี่ยฉิงชางบนชั้นเจ็ดหอคอยเทพสงครามก็แอบดูหมิ่น เฮ้อ ผู้คลั่งไคล้ปลอม! ไม่ยอมกระทั่งจ่ายเงินให้ขวัญใจ อย่างเจ้านี่เรียกว่าผู้คลั่งไคล้หรือ คิดจะหน้าด้านไม่ยอมจ่ายเงินอย่างนั้นรึ

ท้าประลองกับโอรสสวรรค์ห้าดาวรึ ดี ข้าจะจัดให้เจ้าอย่างงามเลย

“ตกลง กำลังจับคู่โอรสสวรรค์ห้าดาว…จับคู่เสร็จสิ้น เริ่มการประลองได้!”

เมื่อแสงสว่างบนเวทีประลองเทพสงครามหุบกลับไป ก็ปรากฏชายหนุ่มอายุราวยี่สิบปีตรงหน้าฟางฉาง หนุ่มคนนี้แบกกระบองยาวไว้ข้างหลัง ทั้งตัวปกคลุมอยู่กลางประกายสายฟ้าสีทอง พลังเอ่อล้นฟ้า

ฟางฉางมองผ่านประกายสายฟ้าส่องสะท้อนนั้นไปเห็นใบหน้าที่ทั้งคุ้นตาและแปลกตา

“หืม นี่ร่างเงาของอาจารย์ลุงบัวมรกตรึ”

ฟางฉางอดรู้สึกตื่นเต้นอยากลองมิได้ “ดวงดีใช้ได้! หากได้อัดอาจารย์ลุงบนเวทีประลองสักครั้ง แล้วบันทึกภาพไปให้อาจารย์ดู อาจารย์จะต้องดีใจมากแน่ บางทีจากนี้อาจจะไม่สั่งให้ข้าคัดกฎสำนักอีก แต่ว่า…อาจารย์ลุงเป็นแค่วิชากาย ไม่เป็นวิชาสายฟ้าไม่ใช่รึ! ไฉนอาจารย์ลุงตอนนี้ถึงมีอัสนีเทพสีทองด้วย อีกทั้งกลิ่นอายพลังยังคุ้นมากด้วย”

ทันใดนั้น ฟางฉางชำเลืองตามองศิลาเทพสงครามด้านข้าง มองไปที่นามอันดับห้า

รอเดี๋ยว เหตุใดนามของอาจารย์ลุงบัวมรกตถึงอยู่อันดับห้า

ต้องรู้ว่าขนาดอาจารย์ยังไม่ติดห้าอันดับแรกเลย!

แย่แล้ว~

ลางสังหรณ์ไม่ดีรุนแรงหลั่งไหลขึ้นมาในใจ

และตอนนี้เองชายหนุ่มตรงหน้าหยิบกระบองยาวสีทองข้างหลังออกมาแล้ว

“สวรรค์ไม่ให้กำเนิดข้าฉู่หรงเหอ วิถีกระบองนิจนิรันดร์ดั่งราตรียืนยาว! จงสั่นกลัวอยู่ใต้กระบองยาวของข้าโอรสสวรรค์เถอะ!”

ประกายสายฟ้าดังเปรี๊ยะๆ ขยับวูบไหวบนผิวกายชายหนุ่ม ก่อนรวมขึ้นเป็นเกราะนักรบส่องแสง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน