บทที่ 256 ใครคือลัทธิชั่วร้ายกันแน่
“เจ้าคิดว่าข้าจะกลัวรึ”
ประมุขชุดคลุมโลหิตพยายามสงบใจลงและทำเสียงขึ้นจมูก
ทว่าเขาเพิ่งพูดอย่างหัวดื้อ ก็มีสีหน้าตกใจลนลานขึ้นมา
เพราะเขาเห็นว่ามีประตูมิติปรากฏตรงหน้าตน อีกด้านของประตูมุ่งไปสู่ป่าเขา
แต่นี่ไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุด สิ่งที่สำคัญที่สุดคือกลางป่าเขานั้นยังเห็นวานรสีแดงหลายตัว
วานรพวกนี้สูงจั้งกว่า แผ่กลิ่นอายร้อนระอุทั้งตัว แขนขาทั้งห้าหนามาก
ผู้อริยะเสวี่ยซารู้จักสัตว์อสูรพวกนี้ พวกมันเป็นเพียงสัตว์อสูรขั้นหนึ่งธรรมดา เทียบเท่ากับผู้ฝึกบำเพ็ญระดับหลอมปราณ
หากยังมีระดับพลัง ผู้อริยะเสวี่ยซาจะไม่สนใจวานรอสูรดั่งมดปลวกนี่เลย แค่ชี้นิ้วก็สังหารพวกมันได้ทั้งหมด
แต่ตอนนี้ผู้อริยะเสวี่ยซาถูกผนึกระดับพลังผู้อริยะอย่างสมบูรณ์ กระทั่งยังโดนสายฟ้าพันธนาการร่าง ขยับตัวได้ยาก จึงไม่ใช่คู่ต่อสู้ของวานรพวกนี้
หากเพียงเท่านั้นผู้อริยะเสวี่ยซาคงไม่ตื่นตระหนก เพราะเขาก็มีกายเนื้อระดับผู้อริยะ แม้จะถูกผนึกระดับพลังทั้งหมด วานรพวกนี้ก็สังหารเขาได้ยาก
แต่สิ่งที่น่ากลัวที่สุดสัตว์ร้ายพวกนี้ไม่ชอบฆ่าคน ในทางตรงข้าม พวกมัน…ชอบคนมาก
วานรอสูรชนิดนี้เรียกว่า ‘วานรคู่อัคคีชาด’ มีความราคะมาแต่กำเนิด จะชอบรุกรานเผ่ามนุษย์ที่อยู่นอกป่า และที่ไร้เหตุผลไปกว่านั้นคือวานรคู่อัคคีชาดจะรุกรานเผ่ามนุษย์โดยไม่แบ่งชายหรือหญิง
แก่นอสูรในตัววานรชนิดนี้เป็นวัตถุดิบระดับสูงสุดในการหลอมโอสถประเภทของอารมณ์ นักหลอมโอสถส่วนมากจะล่าสัตว์อสูรชนิดนี้เป็นบางครั้ง กระทั่งบางสำนักยังเลี้ยงเอาไว้บ้าง
“จะ…จางหลงหยวน นี่เจ้าคิดจะทำอะไร”
เสียงของประมุขเสวี่ยซาสั่นไหวเบาๆ
ทั้งสองคนเป็นจิ้งจอกพันปี ไม่มีใครไร้เดียงสาไม่รู้อะไรทั้งนั้น
เมื่อเห็นวานรคู่อัคคีชาดปรากฏตรงหน้า ประมุขเสวี่ยซาก็ตื่นตระหนกแล้ว
หนึ่งตัว สองตัว สามตัว สี่ตัว ห้าตัว…
มองไปแวบแรก มีวานรตัวผู้อย่างน้อยสิบกว่าตัว อีกทั้งยังมีขนสีแดงทั้งตัว เห็นได้ชัดว่ากำลังอยู่ในช่วงแสดงกำหนัด
จางหลงหยวนเจ้าคนใจดำให้ข้ามาดูวานรคู่อัคคีชาดพวกนี้ คงไม่ได้เตรียมจะเลี้ยงสมองลิงข้าหรอก!
นะ…นะ…นี่คือสิ่งที่ฝ่ายทางการมีชื่อเสียงอย่างพวกเจ้าทำกันจริงๆ หรือ
ไม่อยากเชื่อว่าจะคิดวิธีชั่วร้ายเช่นนี้ได้ นี่ใครเป็นลัทธิชั่วร้ายกันแน่!
สายฟ้าประกายเซียนบนผิวกายเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์กระเพื่อมเบาๆ เสียงยังคงเฉยชา
เขาเอ่ยเนิบนาบว่า “สหายเสวี่ยซาไม่ต้องตกใจไป วานรคู่อัคคีชาดพวกนี้เป็นเพียงสัตว์อสูรขั้นหนึ่ง ทำร้ายเจ้าไม่ได้ ในเมื่อสหายยึดมั่นไม่ยอมเผยอะไรเลย ข้าก็จะไม่บังคับ แต่จะให้เจ้าอยู่กับวานรคู่ที่ศิษย์พี่บัวมรกตเลี้ยงเอาไว้
วานรคู่อัคคีชาดพวกนี้เป็นมิตรอย่างกับไฟ สหายเสวี่ยซาก็น่าจะชอบมากน่าดู”
เมื่อเอ่ยจบ ประตูมิตินั้นก็ส่งเสียงดังฟิ้ว ก่อนผู้อริยะเสวี่ยซาจะพุ่งออกไปอย่างรวดเร็ว
โครม~
ประมุขเสวี่ยซาที่ถูกมัดสองแขนสองขาถูกผนึกระดับพลังทั้งหมดตกลงมากลางฝูงวานร
อู้
อู้ๆๆ!
อ้าๆๆๆๆ!
ทุกสายตามองมาทางประมุขเสวี่ยซา ไม่นานก็กลายเป็นเร่าร้อนอย่างยิ่ง
วานรคู่อัคคีชาดสูงใหญ่หลายตัวทุบอกที่มีแต่ขนของตัวเองอย่างบ้าคลั่ง
มนุษย์ มนุษย์ตัวนุ่มนิ่ม ชอบมาก!
ประมุขเสวี่ยซาสิ้นหวังแล้ว เขาเห็นว่าบนฟ้ายังมีผลึกก้อนหนึ่งลอยอยู่ นั่นคือผลึกบันทึกภาพ เป็นสิ่งที่เอามาซ้ำเติมกันได้
แผ่นดินสั่นสะเทือน ประมุขเสวี่ยซาตัวสั่น
เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์รุ่นนี้ไม่ใช่คน แต่เป็นมารร้าย มารร้าย!
ไม่อยากเชื่อว่าจะคิดวิธีการลงโทษที่ชั่วร้ายเช่นนี้ได้ ทำให้คนหนาวสั่น!
ตัวใหญ่ขนาดนี้ใครจะรับไหว ก็ได้ เขาอาจจะรับไหว
ถึงอย่างไรประมุขเสวี่ยซาก็มีกายเนื้อของผู้อริยะ แต่…แต่รับไหวนี่ไม่ใช่เรื่องดีอะไรเลยจริงๆ!
มารร้าย มารร้าย มารร้าย!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน