บทที่ 260 นี่คือต้นแบบสุดยอดกระบี่แห่งยุค
เจ้ากระบี่ธารนิรันดร์หลี่ชางหลันใช่ว่าจะไม่รู้จักเสิ่นเทียนเลย
ความจริงก่อนที่เสิ่นเทียนจะเข้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ หลี่ชางหลันก็รู้จักเสิ่นเทียนแล้ว
กระทั่งว่าหากไม่ใช่เพราะจางอวิ๋นซีกับผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตโผล่มา เสิ่นเทียนก็เกือบจะ ‘ถูก’ พาเข้าแดนเทวาดาวประกายพรึกแล้ว
เดิมทีหลี่ชางหลันไม่รู้สึกดีอะไรกับเสิ่นเทียนคนนี้
ถึงอย่างไรเขาก็เป็นบิดาหวงลูกสาวที่มีชื่อเสียงในดินแดนบูรพา!
รู้สึกดีกับเครื่องสังหารเด็กสาวอย่างเสิ่นเทียนนี่สิถึงจะแปลก
ทว่าเมื่อได้เผชิญหน้ากับเสิ่นเทียน หลี่ชางหลันรู้สึกว่าตนรีบตัดสินจนเกินไป ดังคำกล่าวว่าคนงามเพราะแต่ง พระพุทธงามเพราะทอง เด็กหนุ่มคนนี้เป็นบุรุษรูปงามที่หาได้ยากจริงๆ
โดยเฉพาะเอกลักษณ์เหนือธรรมดานั้น ทำให้หลี่ชางหลันเหมือนเห็นตัวเองตอนหนุ่มๆ
เป็นเด็กหนุ่มที่สะโอดสะองใช้ได้!
แน่นอนว่าเจ้ากระบี่ธารนิรันดร์ผู้ยิ่งใหญ่ย่อมไม่ใช่คนที่มองแต่เปลือก หน้าตาไม่ว่า แต่ท่วงทำนองแท้จริงแห่งวิถีกระบี่ที่แผ่มาจากเสิ่นเทียนอย่างลับๆ ต่างหากที่ทำให้หลี่ชางหลันตกใจที่สุด
กระบี่ฟ้า!
ใช่ไม่ผิดแน่ กายเทพกระบี่ฟ้าในตำนาน!
ภายใต้สถานการณ์ปกติ มีเพียงตระหนักในวิถีกระบี่ถึงระดับสูงสุดจนได้รับการยอมรับจากฟ้าดินเท่านั้นถึงจะเหนี่ยวนำเจตจำนงกระบี่ฟ้าลงมาได้ ก่อนจะผลัดเปลี่ยนเป็นกายเทพกระบี่ฟ้าอีกที
ตลอดหมื่นปีมานี้ของดินแดนบูรพามีสุดยอดนักกระบี่ไม่รู้เท่าไร แต่คนที่มีกายเทพกระบี่ฟ้าน้อยมาก คนที่มีคุณสมบัติกายเช่นนี้แทบจะเป็นผู้อริยะกระบี่ที่แกร่งที่สุดในยุคหนึ่ง
หนึ่งกระบี่มากพอจะชายตามองแปดทิศ
……
หลี่ชางหลันมีความมั่นใจจะฝ่าด่านเคราะห์เป็นผู้อริยะตั้งแต่ร้อยปีก่อนแล้ว ทว่าเขาก็ยังไม่เหนี่ยวนำเคราะห์อัสนีมา ด้านหนึ่งคืออยากจะเสริมรากฐานให้มั่นคงต่อไป เพิ่มอัตราความสำเร็จให้มากขึ้นอีกหลายส่วน
อีกด้านหนึ่งคือหวังว่าจะยกระดับเจตจำนงกระบี่ของตนขึ้นไปอีกครั้งก่อนฝ่าด่านเคราะห์ จากนั้นอาศัยพลังของเคราะห์สวรรค์สำเร็จกายเทพกระบี่ฟ้า
แต่เขาไม่คาดคิดเลยว่าคุณสมบัติกายที่ตนเฝ้าใฝ่หา เสิ่นเทียนกลับได้ไป!
นี่หมายความว่าเจ้าหนูนี่เป็นเมล็ดพันธุ์กระบี่ที่เป็นหนึ่งในวิถีกระบี่ เป็นต้นฉบับกระบี่ที่สุดแห่งยุคอย่างไม่ต้องละอายใจ
หากรับเขาเป็นศิษย์ หลี่ชางหลันรู้สึกว่าตนจะสั่งสอนให้เกิดผู้อริยะกระบี่ที่สุดแห่งยุคที่มองห้าดินแดนด้วยความโอหังได้ กระทั่งเป็นเซียนกระบี่สุดยอดแห่งยุคสมัย!
ใช่แล้ว สารภาพตามตรง หลี่ชางหลันสำนึกเสียใจภายหลัง
หากเมื่อหลายเดือนก่อนเขาไม่ให้เจ้าโง่จื่อหยางไปอาณาจักรต้าเหยียน แต่ไปด้วยตัวเองละก็ บางทีอาจจะได้เห็นคุณสมบัติกายเทพกระบี่ฟ้าของเสิ่นเทียน
เช่นนั้นต่อให้ต้องสู้ตายกับผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกต เขาก็ต้องตีมึนเป็นอาจารย์ของเสิ่นเทียนให้ได้
เฮ้อ เสียใจ!
รอข้ากลับไปก่อนจะต้องฝึกฝนเจ้าโง่จื่อหยางผู้ตาไม่มีแววนั่นอย่างหนัก!
……
“เจ้า คือเสิ่นเทียนรึ”
ผ่านไปนาน หลี่ชางหลันถึงเอ่ยขึ้นเนิบๆ
เสิ่นเทียนคาดเดาฐานะของหลี่ชางหลันได้คร่าวๆ แล้ว
เขาจึงรีบพูดด้วยความเคารพ “เสิ่นเทียนขอคารวะผู้อาวุโสหลี่ ข้าเลื่อมใสชื่อเสียงของผู้อาวุโสมานานแล้ว”
ในสายตาเสิ่นเทียน นี่คือบิดาหวงลูกสาวที่ล่วงเกินไม่ได้มากที่สุดในโลก
ถึงอย่างไร หากบิดาหวงลูกสาวโมโหขึ้นมา เช่นนั้นไม่ว่าเรื่องใดก็ทำได้ทั้งหมด
เสิ่นเทียนเคยใกล้ชิดกับบุตรสาวเขามาก่อน นี่ทำให้เวลาที่เขาเผชิญหน้ากับหลี่ชางหลันมักจะรู้สึกใจฝ่อเหมือนหมูที่กำลังกินหัวไชเท้าดีไปเจอกับเจ้าของโรงนาเข้า
แต่ก็เหนือความคาดหมายเสิ่นเทียน หลี่ชางหลันไม่ได้สะบัดหน้าใส่เขา
ในทางตรงข้าม นักกระบี่อันดับหนึ่งของดินแดนบูรพาคนนี้กลับพยักหน้าอย่างปลื้มใจ “มีมารยาทดีมาก สหายน้อยเสิ่นเทียนช่วยเหลียนเอ๋อร์เปิดได้เมล็ดน้ำเต้าเซียนเจ็ดสมบัติในสวนหมื่นวิญญาณ แซ่หลี่ติดค้างน้ำใจเจ้าแล้ว
เอาอย่างนี้แล้วกัน! แซ่หลี่เห็นว่าสหายน้อยเสิ่นเป็นอัจฉริยะกระบี่ที่ยากจะพานพบได้ในพันปี หากเจ้ายินดี แซ่หลี่จะถ่ายทอดวิถีกระบี่ให้เจ้า
เจ้ากับข้าไม่ใช่ศิษย์และอาจารย์กัน วันใดที่ประสบความสำเร็จยิ่งใหญ่ในวิถีกระบี่ ก็ออกจากแดนเทวาดาวประกายพรึกได้ตลอด ว่าอย่างไร”
ไปเรียนกระบี่ที่แดนเทวาดาวประกายพรึกสามเดือนหรือ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน