บทที่ 279 บุรุษก็ต้องใหญ่!
ทุกคนรู้ว่าแก่นพลังทองมีความหมายลึกซึ้งที่จะเปลี่ยนไปตามวิชาที่ผู้บำเพ็ญฝึกฝน
ยิ่งวิชาที่ผู้บำเพ็ญฝึกแข็งแกร่งมากเท่าไร ลายเทพที่ได้ตอนทะลวงแก่นพลังทองก็จะยิ่งแข็งแกร่งมากเท่านั้น
ศิษย์แกนหลักของแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ฝึกฝนเคล็ดห้าอัสนีฟ้าเที่ยงธรรม ปกติจะสำเร็จแก่นพลังทองสามรอบขึ้นไป
ตามหลักแล้วเสิ่นเทียนรวมแก่นพลังทองด้วยเคล็ดห้าอัสนีฟ้าเที่ยงธรรมระดับสมบูรณ์ รวมปัญจธาตุหยินหยางครบถ้วน ก็ไม่มีทางด้อยกว่าจางอวิ๋นซีแน่นอน
ทว่าเสิ่นเทียนไม่คาดคิดเลยว่าแก่นพลังทองที่ลอยอยู่เหนือศีรษะตนตอนนี้จะไม่มีลายเทพเลยสักลาย
ใช่ เขาขยี้ตาหลายรอบ มั่นใจว่าตนเองมองไม่ผิด
แก่นพลังทองที่ลอยอยู่เหนือศีรษะตอนนี้ไม่มีลายเทพเลยจริงๆ
แต่นี่ไม่ได้หมายความว่าแก่นพลังทองของเสิ่นเทียนธรรมดา ในทางตรงข้าม แก่นพลังทองของเขาไม่ธรรมดาเลยสักนิด กระทั่ง…กระทั่งยังเป็นที่น่าตื่นตกใจ
มองไปทั้งห้าดินแดนตลอดหมื่นปีมานี้ มีแก่นพลังทองของใครบ้างที่ไม่มีขนาดเท่าตามังกร
ต่อให้เป็นแก่นพลังทองที่เหนือชั้นกว่านั้น ก็แค่มีปรากฏการณ์กับลายเทพรอบๆ แก่นพลังทองต่างกันเท่านั้น ขนาดไม่ได้เปลี่ยนไป
แต่เสิ่นเทียนพบว่าแก่นพลังทองของตนกลับมีขนาดเท่าผลแอปเปิล วัดจากขนาดแล้วใหญ่กว่าแก่นพลังทองของคนปกติสิบเท่า
แก่นพลังทองนี้เปล่งแสงสีทองสว่างจ้าทุกส่วน ไม่มีลายเทพแกะสลักใดๆ แต่กลับมีสายฟ้าวนเวียน
สายฟ้าวนเวียนรอบแก่นพลังทองของเสิ่นเทียนไม่หยุด แผ่ความน่าเกรงขามเด่นชัด
กระทั่งทำให้แก่นพลังทองของเสิ่นเทียนดูคล้ายกับลูกสายฟ้าพอควร
………
เมื่อเห็นลูกสายฟ้าสีทองเด้งไปเด้งมาเหนือศีรษะของตนแล้ว เสิ่นเทียนถึงกับมุมปากกระตุก
เจ้านี่เรียกว่าแก่นพลังทองได้หรือ แก่นพลังทองบ้านใครใหญ่ขนาดนี้บ้าง
และยังมีแก่นพลังทองลงท้อง ชะตาข้าข้าลิขิตเองมิใช่สวรรค์อีก
ใช่ คำพูดนี้พูดไว้ไม่มีผิดเลย
หากกินก้อนใหญ่ขนาดนี้ลงไป ดีไม่ดีได้กลับสวรรค์จริงๆ แน่
แต่ก็มีหมื่นโชคในความโชคร้าย เสิ่นเทียนยื่นมือไปคลำแก่นพลังทองลูกใหญ่ของตน
เขาพบว่าสายฟ้ากำเนิดฟ้าที่วนเวียนรอบผิวแก่นพลังทองไม่ทำอันตรายต่อเขาเลย แต่ทำให้ดูรู้สึกสบายด้วยซ้ำ
อีกทั้งถึงแก่นพลังทองนี่จะมีขนาดเท่าแอปเปิล ในสถานการณ์ปกติคงจะกินลงไปไม่ได้ แต่มันก็หลอมรวมเข้าไปในตันเถียนของเสิ่นเทียนได้ในทันที
หลังจากหลอมรวมเข้าไปแล้ว ตันเถียนขยายใหญ่ขึ้นนิดๆ มักจะรู้สึกว่าหากออกแรงก็อาจคายมันออกมาได้
เยี่ยฉิงชางยิ้ม ไม่รู้ว่ากำลังมีความสุขที่เห็นคนอื่นเป็นทุกข์หรือไม่ ตอนนี้พูดปลอบใจ “เทียนเอ๋อร์ไม่ต้องกังวล แก่นพลังทองชนิดนี้น่าจะเป็นแก่นพลังทองแบบแปลก ถึงจะพบเห็นได้ยากในโลกข้างล่าง แต่ในโลกเซียนไม่ได้หายากเลย
ก็แค่แก่นพลังทองใหญ่หน่อยเดียวไม่ใช่รึ! มีคำกล่าวไว้ว่าแรงเยอะอิฐลอยขึ้นฟ้า บุรุษก็ต้องใหญ่ด้วย!
ความพิเศษที่มากที่สุดของระดับแก่นพลังทองคือใช้แก่นพลังทองรวมเป็นเขตแดนคุ้มกันได้ ขณะเดียวกันยังเสริมอานุภาพของวิชาได้
ลายเทพบนผิวแก่นพลังทองเป็นเพียงการแสดงให้เห็นรูปแบบเท่านั้น ไม่ใช่รากฐาน รากฐานต่างหากที่เสริมกำลังรบ เจ้าลองดูอานุภาพของมันสิ!”
แม้คำปลอบใจของเยี่ยฉิงชางจะขอไปที แต่มีคนปลอบใจก็ดีกว่าไม่มีเลย
เสิ่นเทียนถอนหายใจ ปล่อยแก่นพลังทองลูกใหญ่ของตนออกมาอีกครั้ง และเริ่มศึกษาวิธีใช้งาน
สิ่งที่ผู้บำเพ็ญแก่นพลังทองมองดูมากที่สุดคือเขตแดนเวทแก่นพลังทอง ว่าจะเริ่มรวมเขตแดนกฎเกณฑ์นอกผิวกายได้หรือไม่
แม้เขตแดนกฎเกณฑ์ของระดับแก่นพลังทองจะคนละความหมายกับเขตแดนกฎเกณฑ์ของผู้อริยะ แต่ก็เป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญ
เสิ่นเทียนสงบจิตใจลงและเริ่มสัมผัสการเปลี่ยนแปลงของตนเองเงียบๆ
ไม่นาน อากาศรอบตัวเสิ่นเทียนในระยะหลายจั้งก็เกิดการเปลี่ยนแปลง
สายฟ้าสีทองขยับวูบไหวในอากาศ สวยงามอย่างยิ่ง กระทั่งมีเงามายาสัตว์เทพลอยขึ้นมารางๆ
เสิ่นเทียนยืนอยู่ตรงกลางอย่างเฉยชาประหนึ่งราชาเทพผู้ควบคุมสายฟ้า องอาจเหนือธรรมดา ทำให้จิ่วเอ๋อร์ด้านข้างตาเป็นประกายดาว
“นายท่านสุดยอดมาก~ แรงกดดันของเขตแดนสายฟ้านี่แกร่งมาก!”
เสิ่นเทียนหลอมรวมแก่นพลังทองไปเจ็ดวันเต็มๆ
เจ็ดวันนี้จิ่วเอ๋อร์ก็ไม่ได้ว่าง นางเองก็ได้รับมหาโชคลิขิตสะท้านฟ้าอย่างหนึ่ง ตอนอยู่ในแดนปรโลกนั้น เยี่ยฉิงชางรับปากว่าจะให้โชคลิขิตกับจิ่วเอ๋อร์ ตอนนี้ทำตามสัญญาแล้ว
เขาเด็ดกลีบดอกจักรพรรดิบุปผาฟากฝั่งมากลีบหนึ่ง ให้มันหลอมรวมเข้าไปในกายผีสาวจิ่วเอ๋อร์ และยังถ่ายทอดคัมภีร์ภูตผีเงามืดให้ส่วนหนึ่ง
เดิมทีจิ่วเอ๋อร์เป็นสตรีหยินบริสุทธิ์ที่มีรูปแบบชะตาพิเศษอยู่แล้ว เทียบกับผีสาวปกติแล้วเหมาะจะฝึกวิชาเงามืดลับมากกว่า
พลังของดอกไม้ฟากฝั่งยังถือว่าเป็นมหาโชคลิขิตที่หาได้ยากในหมื่นปีสำหรับผู้บำเพ็ญภูตผี
เจ็ดวันนี้ จิ่วเอ๋อร์ย้ายไปฝึกมรดกคัมภีร์ภูตผีเงามืด หลอมรวมพลังของกลีบดอกไม้ฟากฝั่งนั้นเรียบร้อย
ไม่ใช่แค่ระดับพลังพุ่งพรวดไปถึงจุดสูงสุดระดับแก่นพลังทองเท่านั้น แต่ยังเปลี่ยนร่างภูตผีปกติในตอนแรกเป็นคุณสมบัติกายพิเศษ
ตอนนี้นางรับความสามารถส่วนหนึ่งของดอกไม้ฟากฝั่งมา สามารถเปลี่ยนกายเนื้อระหว่างหยินหยางและความจริงกับมายาได้
ไม่ใช่แค่ศักยภาพเพิ่มขึ้นอย่างมาก ใบหน้า รูปร่าง และเอกลักษณ์ยังเย้ายวนมากขึ้นอีก
ไม่ว่าจะขมวดคิ้วหรือยิ้มก็มากพอจะทำให้คนถูกกระชากวิญญาณได้
จากคำอธิบายของเยี่ยฉิงชาง หากหญิงคนนี้อยู่ในโลกเซียน โอรสสวรรค์เผ่าภูตผีพวกนั้นจะต้องคลุ้มคลั่งอย่างแน่นอน
จิ๊ๆ ทำให้เจ้าหนูนี่ลำบากเสียแล้ว
……
“ยอดค่ายกลพิทักษ์ ปรับเป็นการโจมตีระดับสองใส่ข้า”
เสิ่นเทียนคุมป้ายคำสั่งบุตรศักดิ์สิทธิ์ เริ่มสั่งการให้สายฟ้าพิทักษ์ของยอดเขาบุตรศักดิ์สิทธิ์โจมตีตัวเอง
เขาอยากทดสอบว่าพลังป้องกันของเขตแดนเวทแก่นพลังทองของตนจะแข็งแกร่งเพียงใด ตอนนี้บนยอดเขาบุตรศักดิ์สิทธิ์ไม่มีใคร ไม่มีอะไรเหมาะไปกว่าการใช้ยอดค่ายกลพิทักษ์ทดสอบแล้ว
ยอดค่ายกลพิทักษ์ยอดเขาบุตรศักดิ์สิทธิ์รูปแบบที่สองเทียบเท่ากับการโจมตีของผู้แข็งแกร่งระดับดวงจิตดรุณ มากพอจะต้านแขกที่ไม่ได้รับเชิญส่วนใหญ่ที่มาบุกยอดเขาบุตรศักดิ์สิทธิ์
ยามนี้เสิ่นเทียนเร่งรัดยอดค่ายกลพิทักษ์ให้โจมตีตัวเอง ทันใดนั้นก็เกิดสายฟ้าขึ้นบนยอดเขาบุตรศักดิ์สิทธิ์ อัสนีเทพต่างๆ รวมตัวกันอย่างรวดเร็ว
อัสนีเทพธาตุไม้ลำดับหนึ่ง อัสนีเทพธาตุไม้ลำดับสอง อัสนีเทพธาตุไฟลำดับสาม อัสนีเทพธาตุไฟลำดับสี่…
สายฟ้าสีสันต่างๆ ผ่าลงมายังเสิ่นเทียน นั่นคือการโจมตีของระดับดวงจิตดรุณ
จิ่วเอ๋อร์หลบไปด้านข้างนานแล้ว แม้ด้วยคุณสมบัติกายและระดับพลังของนางในตอนนี้จะต้านผู้บำเพ็ญระดับดวงจิตดรุณส่วนใหญ่ได้
แต่การโจมตีของยอดค่ายกลพิทักษ์สวรรค์ถือว่าค่อนข้างแข็งแกร่งในผู้สูงศักดิ์ดวงจิตดรุณ อีกทั้งการโจมตีธาตุสายฟ้ายังเป็นปฏิปักษ์กับผู้บำเพ็ญภูตผี
ตอนนี้จิ่วเอ๋อร์เพิ่งหลอมรวมพลังส่วนหนึ่งของดอกไม้ฟากฝั่ง ยังไม่คุ้นชินดี จึงไม่กล้าบุ่มบ่ามเผชิญหน้ากับค่ายกลนี้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน