บทที่ 327 สุสานมหาจักรพรรดิอีกาทองปรากฏ!
แดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์แห่งดินแดนบูรพา ยอดเขาบุตรศักดิ์สิทธิ์
จางอวิ๋นซียืนอยู่บนยอดเขา มองทอดไกลออกไป
เหนือศีรษะนางมีแก่นพลังทองส่องแสงก้อนหนึ่งลอยอยู่ อีกทั้งยังมีเก้ารอบแล้ว
เป็นหนึ่งในหลายคนที่ได้รับแก่นรากอัสนีเทพกำเนิดฟ้ามาคนแรกสุด จางอวิ๋นซีจึงได้เปรียบเหนือกว่าทุกทาง
ประกอบกับแรงกดดันมหาศาลที่เสิ่นเทียนมอบให้ ทำให้ความคิดที่จะเพิ่มศักยภาพภายในใจนางรุนแรงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
ส่วนเหตุใดเสิ่นเทียนถึงสร้างแรงกดดันให้นางมากขนาดนั้น
ดูพวกไก่กาพวกนั้นข้างกายเขาก็รู้แล้ว หญิงสารเลวที่อยากจะครองครอบศิษย์น้องมีมากเกินไปจริงๆ โดยเฉพาะหญิงมังกรอายุหมื่นกว่าปีบางตัว มีศักยภาพพรสวรรค์และหน้าตาสูงมาก!
เมื่ออยู่ต่อหน้าเอ๋าปิง จางอวิ๋นซีไม่กดดันก็คงยากแล้ว
ในหลายเดือนที่เสิ่นเทียนเดินทางไปทะเลอุดรนี้ จางอวิ๋นซีฝึกบำเพ็ญอย่างหนักมาตลอด
ในที่สุดนางก็ทะลวงแก่นพลังทองเก้ารอบสำเร็จ กลายเป็นหนึ่งในผู้โดดเด่นไม่กี่คนที่มีพรสวรรค์แกร่งที่สุดในดินแดนบูรพา
ทั้งยังใช้คัมภีร์จักรพรรดิอัสนีเทพสวรรค์กับอัสนีเทพกำเนิดฟ้าช่วย ทำให้กำลังรบแท้จริงของจางอวิ๋นซีแทบจะเทียบเท่ากับผู้แข็งแกร่งแก่นพลังทองสิบรอบ
หากประเมินรายนามแก่นพลังทองอีกครั้ง นางก็จะติดสามอันดับแรกได้อย่างง่ายดาย!
นี่ยังเป็นเพราะโอรสสวรรค์ยุคนี้แข็งแกร่งกันมากด้วย ฟ้ากดขี่อยู่เหนือทุกคน
หากเป็นรายนามแก่นพลังทองเมื่อสิบปีก่อน จางอวิ๋นซีก็แทบจะติดอันดับหนึ่งได้สบายๆ
ด้วยศักยภาพของจางอวิ๋นซีตอนนี้ เรียกนางว่าสตรีศักดิ์สิทธิ์ธิดาสวรรค์ที่แกร่งที่สุดในดินแดนบูรพาก็ไม่เกินจริงเลย!
“เดือนที่สองหลังศิษย์น้องเดินทาง ข้าทะลวงแก่นพลังทองรอบที่เก้าสำเร็จ เดือนที่สามหลังศิษย์น้องเดินทาง ศิษย์พี่ใหญ่ทุบแก่นเป็นดรุณสำเร็จ เป็นผู้สูงศักดิ์แล้ว
เดือนที่ห้าหลังศิษย์น้องเดินทาง พี่ชายข้าก็ทะลวงแก่นพลังทองเก้ารอบเช่นกัน ฝึกกายเทพอัสนีหยางสำเร็จ และแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ ด้วยการสนับสนุนจากยันต์ระเบิดอัสนีหยินหยาง ทำให้ศิษย์ชนชั้นรากฐานแข็งแกร่งขึ้น ได้รับประสบการณ์มากขึ้น
ศิษย์น้อง เหมือนอย่างที่เจ้าบอกตอนเพิ่งเข้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เลย เจ้าอยากให้แดนศักดิ์สิทธิ์นี้ ทุกคนเป็นดั่งมังกร!
ตอนนี้ทุกอย่างในแดนศักดิ์สิทธิ์เรียบร้อยดี แต่เจ้ากำลังผจญภัยในทะเลอุดร ตอนนี้สบายดีหรือไม่ หญิงมังกรแก่นามเอ๋าปิงนั่น ได้ให้ชาวเผ่าของนางสร้างความลำบากให้เจ้าหรือไม่”
……….
สตรีศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์จางอวิ๋นซี คือหญิงงามภูเขาน้ำแข็งที่มีชื่อเสียงโด่งดัง
โอรสสวรรค์ธรรมดาอยู่ตรงหน้านาง แม้แต่ให้นางชายตามองยังเหมือนกับเรื่องเพ้อฝัน
ทว่าตอนนี้ในใจนางกลับนึกถึงบุรุษคนหนึ่ง กระทั่งขณะมองไปรอบๆ ยังมีความคับแค้นใจนิดๆ
ข้างล่างยอดเขาเป็นสมาชิกแกนหลักของกลุ่มสวรรค์พิทักษ์ที่เสิ่นเทียนอนุญาตให้ย้ายมาฝึกบำเพ็ญที่ยอดเขาบุตรศักดิ์สิทธิ์ได้
อืม ผักกุยช่ายก็ต้องเลี้ยงดูอย่างใกล้ชิด
ทุกคนมองแผ่นหลังเด็กสาวที่ยืนบนยอดเขาเพียงลำพังนั้น เวลานี้ทั้งถอนหายใจและปลงอนิจจัง
ทุกคนย่อมรู้ว่าสตรีศักดิ์สิทธิ์มาฝึกบำเพ็ญบนยอดเขาบุตรศักดิ์สิทธิ์ทุกวันเพื่ออะไร ก็เพื่อรอปรมาจารย์สวรรค์กลับมา
และคนที่คิดถึงบุตรศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้มีเพียงนางคนเดียว
กุ้ยกงกงสวมชุดคลุมยาวสีแดงตัวใหญ่ ระดับพลังพัฒนากว่าก่อนเข้าแดนศักดิ์สิทธิ์ชัดเจนมาก
หลังจากใช้โอสถชั้นเลิศอย่างว่านโลหิตมังกรและของเหลวศักดิ์สิทธิ์นิพพานชะล้างกระดูก ผนวกกับตำรามหัศจรรย์สะท้านโลกอย่างคัมภีร์มารสู่สุริยัน ทำให้กุ้ยกงกงกับฉินเกาทยอยกันรวมแก่นพลังทองสำเร็จ
อีกทั้งในผู้ฝึกบำเพ็ญระดับแก่นพลังทอง ระดับพลังของสองคงไม่ถือว่าอ่อนแอเลย เป็นผู้โดดเด่นที่มีกำลังรบแข็งแกร่งอย่างยิ่ง
ศักยภาพเช่นนี้ กุ้ยกงกงตอนอยู่ในพระราชวังอาณาจักรต้าเหยียน ขนาดฝันยังไม่กล้าคิด
“องค์ชายเดินทางไปทะเลอุดรหกเดือนแล้ว สตรีศักดิ์สิทธิ์เข้าฌานฝึกบำเพ็ญบนสุดยอดเขาบุตรศักดิ์สิทธิ์มาหกเดือน ช่างมีความรักและซื่อสัตย์อันลึกซึ้งจริงๆ”
กุ้ยกงกงมองร่างของจางอวิ๋นซีพลางพึมพำกับตัวเอง “หากพระสนมรู้ว่ามีสตรีรักองค์ชายเช่นนี้ จะต้องยิ้มร่าไปทั่วแดนปรโลกอย่างแน่นอน”
ฉินเกาพยักหน้าช้าๆ “ลุงกุ้ยพูดถูก!”
จ้าวเฮ่าแบกกระบี่ยาวไว้ข้างหลัง รอบตัวคลุมด้วยประกายสายฟ้าสีแดงฉาน
ช่วงนี้เขาฝึกคัมภีร์กระบี่สุริยะฟ้าสำเร็จแล้ว ระดับพลังรุดหน้าในทีเดียวทะลวงแก่นพลังทอง
กระทั่งตอนนี้ยังคุมไม่ให้ศักยภาพพุ่งขึ้นได้ยากนิดๆ มีอัคคีอรุณใต้ส่องสว่างและเข้มข้นวนเวียนอยู่รอบตัว เขาที่มีไฟศักดิ์สิทธิ์มีศักยภาพไม่เป็นรองกุ้ยกงกงกับฉินเกาเลย กระทั่งศักยภาพแฝงยังลึกล้ำยิ่งกว่ากุ้ยกงกงกับฉินเกา
ขอแค่ให้เวลาเขามากพอ ถึงขั้นมีหวังจะหลอมรวมคัมภีร์กระบี่สุริยะฟ้ากับเคล็ดห้าอัสนีฟ้าเที่ยงธรรมได้ เดินบนเส้นทางของตนเองได้
ถึงตอนนั้นก็อาจจะติดสิบอันดับแรกในรายนามแก่นพลังทองดินแดนบูรพา กลายเป็นโอรสสวรรค์ระดับม้ามืดอีกตัวของแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ก็ได้
กระทั่งตอนนี้ในผู้อาวุโสของแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ยังมีคนพูดหยอกเล่นว่าห้าโอรสสวรรค์แห่งแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์รวมกันครบแล้ว
มังกรเขียวจางอวิ๋นถิง พยัคฆ์ขาวจางอวิ๋นซี กิเลนฟางฉาง วิหคชาดจ้าวเฮ่า…
ส่วนเต่าดำล่ะ!
ตอนแรกกำหนดไว้ว่าเป็นเสิ่นเทียน ถึงอย่างไรตอนที่เสิ่นเทียนเพิ่งเข้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ ภายในกายก็มีต้นกำเนิดน้ำมวลหนักปฐมกาล
อีกทั้งตอนที่เสิ่นเทียนฝึกฝนอัสนีเทพเต่าดำธาตุน้ำลำดับแปด ยังเหมือนกับฝึกฝนพลังวิเศษชีวิต ฝึกฝนได้ราบรื่นจนไม่รู้จะราบรื่นอย่างไรอีก
กระทั่งเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ยังถูกใจเสิ่นเทียน มอบเกราะเต่าดำกับหมวกเกราะเต่าดำสองชิ้นให้อย่างไม่เสียดาย
แต่พวกเขาไม่นึกเลยว่าดวงชะตาของเสิ่นเทียนจะเหมือนกับใช้สูตรโกง ในไม่กี่เดือนสั้นๆ ก็รวมสิ่งมหัศจรรย์ฟ้าดินปัญจธาตุครบ
และที่น่าตื่นตกใจกว่านั้นคือผู้ฝึกบำเพ็ญระดับแก่นพลังทองตัวเล็กๆ อย่างเสิ่นเทียนกลับหลอมรวมสิ่งมหัศจรรย์ปัญจธาตุไว้ในร่างกาย
การกระทำอันบ้าคลั่งเช่นนี้ ต่อให้เป็นผู้อริยะลองดูบ้าง จะต้องตัวระเบิดตายอย่างแน่นอน
ทว่า เสิ่นเทียนกลับทำได้
ดังนั้น ฉายา ‘เต่าดำ’ เล็กจ้อยนี่ จึงไม่คู่ควรกับบุตรศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เลย
พลังชีวิตเขา ไม่ใช่สิ่งที่เต่าดำจะเทียบได้
…….
แผ่นดินสั่นไหวเบาๆ หุ่นเหล็กกล้าสูงหลายจั้งเดินมาช้าๆ
มันหลอมขึ้นจากแร่เหล็กวิญญาณทั้งตัว ล้ำค่าอย่างยิ่ง กระทั่งเทียบกับอาวุธวิญญาณมากมายแล้ว ยังถูกสังหารในพริบตา
ด้านหลังหุ่นเหล็กกล้านี้แบกเสาเหล็กไส้กลวงยาวหลายจั้งต้นหนึ่ง ด้านบนแกะสลักภาพลวดลายลึกลับหลายอย่าง
ตรงเอวของหุ่นเหล็กผูกลูกกลมเหล็กสีเงินขนาดเท่าศีรษะคนไว้หลายลูก เปล่งแสงเย็นเยือกออกมา
ปัง~
ส่วนศีรษะของหุ่นเหล็กแยกออกช้าๆ เผยใบหน้าหล่อเหลาออกมา
เขามีเส้นผมสีทอง ภายใต้แสงตะวันส่องสะท้อนดูระยิบระยับ งดงามเป็นพิเศษ
นี่คือบุรุษรูปงามหายาก มีสิ่งเดียวที่ทำให้รู้สึกแปลกๆ คือมีกลิ่นอายของบุรุษด้อยไปเล็กน้อย กระทั่งมีเสน่ห์แฝงอยู่นิดๆ
ร่างผอมแห้งกับเกราะนักรบเหล็กกล้าแข็งแกร่งเกิดเป็นการเปรียบเทียบกันอย่างชัดเจนยิ่ง
ใจมีพยัคฆ์ร้าย ดอมดมบุปผา
“ศิษย์พี่บุตรศักดิ์สิทธิ์ยังไม่กลับมาอีกรึ”
ฉินอวิ๋นตี๋หรี่ตาลง ยิ้มน้อยๆ “หลายเดือนมานี้ข้าทุ่มกำลังศึกษามรดกในตำหนักพันโชคเต็มที่ โยงกับการศึกษาพัฒนากฎเกณฑ์ระเบิดอัสนีหยินหยาง จนในที่สุดก็สร้าง ‘หุ่นรบ’ อย่างที่ศิษย์พี่บอกได้
ท่านแม่แกะสลักตราเวทหลายอย่างเช่น ‘สอดแนม’ ‘ป้องกัน’ ‘เหาะเหิน’ ‘สะกดรอย’ เป็นต้นเอาไว้ในหุ่นรบ อีกทั้งยังติดตั้งกระสุนอัสนีกำเนิดฟ้าที่แกร่งที่สุดด้วย
ถึงหุ่นรบนี่จะยังเทียบกับหุ่นกระบอกพวกนั้นที่แกร่งที่สุดในตำหนักพันโชคไม่ได้ แต่ข้ารู้สึกว่ามันมีศักยภาพแฝงสูงมาก หากได้คำแนะนำจากศิษย์พี่บุตรศักดิ์สิทธิ์ ข้าจะต้องสร้าง ‘หุ่นรบ’ ออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบในเร็ววันแน่!
เฮ้อ ศิษย์พี่ไม่อยู่หกเดือนแล้ว คิดถึงเขาจัง!”
……….
ใช่ คิดถึงเขา!
เสิ่นเทียนอยู่แดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ไม่กี่เดือน ก็หามหาโชคลิขิตมาให้แดนศักดิ์สิทธิ์แทบไม่เคยขาด
ยันต์ระเบิดอัสนีเอย หอคอยเทพสงคราม เถาจองจำเซียน ว่านมังกรโลหิต ทุกอย่างทำให้การแข่งขันของศิษย์แกนหลักแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์สูงขึ้นเป็นเท่าตัว
อีกทั้งก่อนไปเสิ่นเทียนยังถ่ายทอด ‘เครื่องปั่นไฟพลังงานลม’ และ ‘เครื่องปั่นไฟพลังงานน้ำ’ ให้กับฉินอวิ๋นตี๋ อาศัยพลังงานลมและน้ำที่มีอยู่ทุกที่ สร้างพลังงานไฟฟ้าได้ไม่จำกัด
เมื่อสร้างเครื่องปั่นไฟมามากขึ้น ความต้องการในการใช้ศิลาวิญญาณฝึกบำเพ็ญของแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ก็ลดน้อยลงอย่างมาก
ประหยัดการฝึกบำเพ็ญได้มากขึ้น นั่นหมายความว่าจะประหยัดศิลาวิญญาณไปทำอย่างอื่นได้มากขึ้น อย่างเช่นเที่ยวซ่องนางโลม…
ถุยๆๆ อย่างเช่นใช้ซื้อวัตถุดิบในการหลอมอาวุธและหลอมโอสถ และศึกษาค่ายกลเป็นต้น
สรุปคือ แดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ไม่เคยรุ่งเรืองเช่นนี้มาก่อนในตลอดหมื่นปีมานี้ กำลังแข็งแกร่งขึ้นในทุกๆ วัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน