บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน นิยาย บท 348

สรุปบท บทที่ 348 ผู้สูงศักดิ์สวรรค์ฟ้าคราม แตงใหญ่พันปี (2): บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน

ตอน บทที่ 348 ผู้สูงศักดิ์สวรรค์ฟ้าคราม แตงใหญ่พันปี (2) จาก บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 348 ผู้สูงศักดิ์สวรรค์ฟ้าคราม แตงใหญ่พันปี (2) คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายจีนโบราณ บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน ที่เขียนโดย novelones เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

บทที่ 348 ผู้สูงศักดิ์สวรรค์ฟ้าคราม แตงใหญ่พันปี (2)

นอกจากสี่อัจฉริยะเทพสวรรค์แล้ว ผู้อาวุโสแกนหลักของกลุ่มสวรรค์พิทักษ์อย่างกุ้ยกงกง ซ่งฟู้กุ้ย หลิวไท่อี่ เจินจื้อเจี่ย สยงเหมิ่งและพวกฉินเกาย่อมอยู่ในนั้นด้วย

คนพวกนี้ปกติจะเป็นผู้จงรักภักดีของเสิ่นเทียน ช่วงที่เสิ่นเทียนไม่อยู่แดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ก็ได้พวกเขาคอยดูแลสถานการณ์มาตลอด

และภายใต้การช่วยของมหาโชคลิขิตอย่างหอคอยเทพสงครามและชาตระหนักรู้ ทำให้ศักยภาพและระดับพลังของคนพวกนี้พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว

เดิมทีดวงชะตาและพรสวรรค์ของคนพวกนี้ ชาตินี้ก็อาจจะไม่มีโอกาสรวมแก่นพลังทองด้วยซ้ำ แต่ตอนนี้เพิ่งผ่านไปปีเดียว พวกซ่งฟู้กุ้ยและหลิวไท่อี่ต่างอยู่ในช่วงรวมแก่นอย่างสมบูรณ์แล้ว

กุ้ยกงกงกับฉินเกายังฝึกคัมภีร์มารสู่สุริยันไปถึงระดับสูงสุด ควบแน่นแก่นพลังทองไปถึงหกรอบแล้ว

แม้จะมีเพียงหกรอบ แต่ก็อาศัยความเร็วเหนือชั้นกับวิชากระบี่แปลกประหลาด ทำให้สองคนร่วมมือกันแล้ว แม้แต่จ้าวเฮ่าในระดับแก่นพลังทองแปดรอบยังรับมือไม่ได้

มองไปทั้งดินแดนบูรพาจนถึงห้าดินแดน คนพวกนี้ถือว่าเป็นโอรสสวรรค์ที่โดดเด่นอย่างยิ่ง

ตอนนี้ทุกคนเดินเข้ามาอย่างองอาจห้าวหาญ นั่นเรียกว่าความมั่นใจในตนเอง!

“องค์ชาย ในที่สุดท่านก็ออกด่านบำเพ็ญแล้ว!”

กุ้ยกงกงสวมชุดคลุมยาวสีแดงตัวใหญ่ มองเสิ่นเทียนด้วยความเป็นห่วง “การปิดด่านบำเพ็ญครั้งนี้ ทุกอย่างราบรื่นดีหรือไม่”

เสิ่นเทียนพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม “ยกระดับพลังได้บ้าง เพิ่งสำเร็จกายทองแปดรอบ หากไม่มีอะไรผิดพลาด จบการผจญภัยครั้งนี้ก็จะเตรียมทะลวงพลังแล้ว”

กายทองแปดรอบรึ

ทุกคนอึ้งไปเล็กน้อย ก่อนจะมองหน้ากัน!

บุตรศักดิ์สิทธิ์เพิ่งว่าอะไรนะ มั่นใจนะว่ากายทองแปดรอบ ไม่ใช่แก่นพลังทองเก้ารอบน่ะ

แม้พวกเขาจะไม่เคยได้ยินมาก่อนว่าห้าดินแดนจะมีใครทะลวงกายทองเก้ารอบสำเร็จ แต่นี่คือปรมาจารย์สวรรค์เชียว!

หากบอกว่าโลกนี้มีใครที่ทะลวงกายทองเก้ารอบได้จริงๆ เช่นนั้นก็คงเป็นท่านปรมาจารย์สวรรค์!

กายทองแปดรอบก็จะทะลวงพลัง นี่ต่ำเกินไปกระมัง!

ซ่งฟู้กุ้ยกับหลิวไท่อี่มองหน้ากัน คนแรกเผยรอยยิ้มเหมือนมีความคิดบางอย่าง

ซ่อนพลัง!

ต้องซ่อนพลังแน่ๆ!

ท่านปรมาจารย์สวรรค์ชอบทำอะไรเงียบๆ มาตลอด เห็นๆ อยู่ว่ามีพรสวรรค์ที่ไม่มีใครทัดเทียมได้ แต่กลับไม่ให้ป่าวประกาศ

แต่ซ่งฟู้กุ้ยคิดว่าตนเป็นผู้อาวุโสใหญ่ของกลุ่มสวรรค์พิทักษ์ก็น่าจะรู้ใจสวรรค์ ระดับพลังของท่านปรมาจารย์สวรรค์ไม่ได้หยุดอยู่แค่กายทองแปดรอบแน่นอน

เพราะหากเป็นเพียงกายทองแปดรอบ ท่านปรมาจารย์สวรรค์ผู้ภาคภูมิจะไม่เตรียมทะลวงระดับนิพพาน แต่จะตกตะกอนต่อไป

ในเมื่อท่านปรมาจารย์สวรรค์พูดปาวๆ ว่าเขาเตรียมทะลวงพลัง เช่นนั้นจะต้องไม่ใช่แค่กายทองแปดรอบ!

อย่างน้อยก็ต้องกายทองเก้ารอบ กระทั่งบางทีอาจจะเป็นสิบรอบ!

อะไร ตามทฤษฎีกายทองบอกไว้ว่าสูงสุดแค่เก้ารอบ ไม่มีสิบรอบอะไรนั่นไม่ใช่รึ

นั่นคือขีดจำกัดของคนธรรมดา ท่านเซียนเป็นคนธรรมดารึ

นี่คือตัวเอกแห่งยุค ไม่มีขีดจำกัด!

‘แต่ในเมื่อท่านเซียนประกาศเองว่าตนอยู่กายทองแปดรอบ บางทีอาจจะใคร่ครวญเอาไว้แล้ว คนฉลาดควรรู้จักการสังเกตสิ่งในใจผู้อื่น ไม่ควรพูดในสิ่งที่ไม่ควร’

เถ้าแก่ซ่งแอบวางแผนในใจ ก่อนจะเดินตามข้างกายเสิ่นเทียนอย่างว่าง่าย

…..

เสิ่นเทียนมองจ้าวเฮ่าแล้วตาเป็นประกายขึ้นมา

เขากระแอมไอเบาๆ “ระดับพลังของศิษย์น้องจ้าวลึกล้ำขึ้นทุกคืนวัน น่ายินดีจริงๆ”

จ้าวเฮ่าเกาศีรษะก่อนพูดอย่างเขินอาย “ศิษย์พี่บุตรศักดิ์สิทธิ์พูดเล่นแล้ว ระดับพลังอันน้อยนิดของข้าเทียบกับศิษย์พี่แล้วไม่มีค่าให้เอ่ยถึงจริงๆ หากไม่ได้ปีศาจเปลวไฟบนเกาะมหานทีให้กำเนิดผลึกวิญญาณเพลิงพิเศษชนิดหนึ่งออกมา เพิ่มศักยภาพของผู้ฝึกบำเพ็ญธาตุไฟอย่างสูง ข้าคงทะลวงพลังไม่ได้เร็วเช่นนี้”

ผลึกวิญญาณเพลิงรึ

เสิ่นเทียนผงะไปเล็กน้อย “นั่นคืออะไร”

จ้าวเฮ่าข้างกายยังไม่ทันอธิบาย เถ้าแก่ซ่งก็ส่งม้วนหยกที่เตรียมไว้อย่างดีมาตรงหน้าเสิ่นเทียนด้วยความว่องไว “ท่านปรมาจารย์สวรรค์ นี่คือข้อมูลเกี่ยวกับเกาะมหานที”

หลิวไท่อี่มุมปากกระตุกเล็กน้อย กระทืบเท้าด้วยความเสียดาย!

เขาก็ว่าแล้ว!

หลายวันมานี้ตาแก่ซ่งเอาม้วนหยกออกมาบันทึกอะไรบางอย่าง ทั้งยังกลัวเขาเห็น

ที่แท้ก็คิดจะประจบคนเดียวนี่เอง!

หลักแหลม หลักแหลมยิ่งนัก!

ในเมื่อให้กำเนิดหลิวไฉนต้องให้กำเนิดซ่ง ในเมื่อให้กำเนิดหลิวไฉนต้องให้กำเนิดซ่งด้วย!

เสิ่นเทียนปลื้มใจกับความรอบด้านของเถ้าแก่ซ่งมาก ทัดเทียมกับกุ้ยกงกงเลย

หากไม่ใช่เพราะนี่อยู่ในสำนักฝึกบำเพ็ญเซียน ไม่ใช่ราชวงศ์ธรรมดา คนสนิทรู้ใจอย่างเถ้าแก่ซ่งจะต้องได้เลื่อนขั้นเป็นผู้ดูแลในวังอย่างแน่นอน

เสิ่นเทียนเก็บความคิดก่อนจะเริ่มอ่านเนื้อหาในม้วนหยก

ถึงเกาะมหานทีจะเพิ่งปรากฏมาไม่นาน แต่สำหรับขุมอำนาจใหญ่ที่มาเยือนในตอนนี้ ก็ยังมีแรงดึงดูดที่ค่อนข้างมาก

ก่อนอื่น บนเกาะนี้ซ่อนปีศาจเปลวเพลิงที่เกิดขึ้นจากการรวมพลังวิญญาณธาตุไฟไว้จำนวนมาก มหัศจรรย์ยิ่ง

พวกมันเคลื่อนพลังวิญญาณธาตุไฟที่เอ่อล้นบนเกาะให้โจมตีอย่างบ้าคลั่งได้

หากสังหารปีศาจเพลิงพวกนี้ได้ ก็จะได้ผลึกวิญญาณเพลิงชนิดหนึ่ง

ตอนนี้นางใช้เหมืองทองเทพอัคคีลับเป็นรางวัล ให้ทุกขุมอำนาจส่งผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตมาให้นาง คำเรียกร้องนี้ถือว่ามากเลย

“ฟ้าคราม เจ้าจะทำเกินไปแล้ว ศิษย์พี่บัวมรกตเป็นของข้า!”

“พี่สาวฟ้าคราม เรื่องในวันนั้นเป็นเรื่องเข้าใจผิดกัน ขอให้ท่านอย่าสร้างความลำบากให้ศิษย์พี่เลย”

สองเสียงคุ้นหูดังขึ้น เป็นผู้สูงศักดิ์สวรรค์ตันอู่กับผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวขาว ไม่รู้ว่าหญิงสามคนนี้กำลังเล่นอะไรกัน

ถึงอย่างไรเสิ่นเทียนหลับตาก็สัมผัสได้รางๆ ว่ารอบนอกมีกลิ่นอายพลังที่แข็งแกร่งกำลังพุ่งขึ้นทีละสาย เหมือนเกิดความสนใจในรางวัลของผู้สูงศักดิ์สวรรค์ฟ้าคราม

แน่นอน เสิ่นเทียนได้ยินเสียงพวกนี้ได้ สัมผัสถึงกลิ่นอายพลังแข็งแกร่งพวกนี้ได้ ย่อมเป็นผลพิเศษของกายมรรคสวรรค์ประทาน

หากไม่เช่นนั้น บนเกาะมหานทีแห่งนี้ ผู้ฝึกบำเพ็ญระดับต่ำกว่าผู้สูงศักดิ์สวรรค์แทบจะไม่มีทางสัมผัสได้ไกลเช่นนี้ และยิ่งไม่มีทางได้ยินคำพูดไกลขนาดนี้

นี่คือเรื่องซุบซิบที่มีเฉพาะคนใหญ่คนโตเท่านั้นถึงมีสิทธิ์จะได้ยิน ไก่อ่อนที่ยังไม่บรรลุระดับผู้สูงศักดิ์สวรรค์พวกนั้นไม่มีสิทธิ์ได้ยินเลย

ตอนนี้เองพลันเกิดเสียงฟ้าผ่าดังขึ้นทางตะวันตกของเกาะ

สายฟ้าสีทองพลันฉีกทำลายมวลอากาศหมื่นจั้งเป็นผุยผง น้ำวนมิติสีดำดูดน้ำทะเลไร้ที่สิ้นสุดอย่างบ้าคลั่ง

“คนแซ่จาง ไม่นึกเลยว่าเจ้าจะลอบโจมตีข้า!”

“ศิษย์พี่ ท่านกับผู้สูงศักดิ์สวรรค์ฟ้าครามไม่ลงรอยกันมาแปดร้อยปีแล้ว ก็ควรจะคุยกันให้รู้เรื่องสักทีแล้ว”

“ไปคุยให้รู้เรื่องกับปู่เจ้าเถอะ เรื่องนั้นต้องคุยให้รู้เรื่องด้วยรึ เจ้าก็แค่ละโมบอยากได้เหมืองของนาง ใครก็ได้ช่วยด้วย! เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ไร้น้ำใจไร้คุณธรรม จะขายศิษย์พี่แลกกับเหมืองแล้ว!”

“ศิษย์พี่ท่านไม่ต้องร้องแล้ว โดนโซ่เทพอัสนีกำเนิดฟ้าของข้าจับไว้ ต่อให้กายแห่งเทพมารของท่านจะแกร่งกว่านี้ก็ไม่มีทางหลุดออกมาได้”

สายฟ้าประกายเซียนสีทองลากผ่านมวลอากาศมา ประกายเซียนบนผิวกายกระเพื่อมอย่างรุนแรง โซ่ที่รวมขึ้นจากอัสนีเทพกำเนิดฟ้าพุ่งออกมาจากประกายเซียน

อีกด้านของโซ่มัดนักพรตชราในชุดเซียนสีม่วงไว้ ตอนนี้โดนสายฟ้าผ่าจนเส้นผมตั้งชี้

เขาดิ้นรนสุดชีวิตหมายจะหนีออกไป น่าเสียดาย โซ่ที่รวมขึ้นจากอัสนีเทพกำเนิดฟ้านั้นมัดเขาไว้ราวกับบ๊ะจ่าง แน่นเสียจนเขายังขยับนิ้วมือได้ยาก

“ศิษย์พี่ ข้าหวังดีกับท่าน ผู้สูงศักดิ์สวรรค์ฟ้าครามมีกิจการใหญ่โต ทั้งยังห่วงใยท่านหลายครั้ง ท่านยอมเถอะ!”

……..

เสียงของเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ยังคงเฉยชาไร้คลื่นอารมณ์ แต่คำพูดที่เอ่ยกลับทำให้ผู้สูงศักดิ์สวรรค์และผู้อริยะมากมายไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี

แต่ก็มียอดฝีมือรุ่นเดียวกันที่เข้าใจเรื่องซุบซิบในตอนนั้นบางส่วน ตอนนี้กลับตาเป็นประกายขึ้นมา

แตงใหญ่ที่รอมาพันปีนี่ ในที่สุดก็จะได้กินแล้วรึ

บัวมรกตหนอบัวมรกต เจ้าเองก็มีวันนี้เหมือนกันรึ

ฮ่าๆ มีความสุขจริงๆ

…………………………

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน