บทที่ 363 ในสุสานจักรพรรดิ ผู้อริยะไม่ใช่คู่ต่อกร
สุสานจักรพรรดิอีกาทองเปิดออกช้าๆ ประตูมิติบานหนึ่งปรากฏขึ้นตรงหน้าทุกคน
เห็นได้ชัดมากว่าสุสานจักรพรรดิอีกาทองไม่ใช่สุสานธรรมดา แต่เป็นช่องทางไปสู่โลกเล็กอิสระบางแห่ง
ในโลกเล็กอิสระเช่นนี้มีอันตรายอะไรไม่มีใครรู้ แม้แต่ผู้อริยะ ดีไม่ดีอาจจะสิ้นชีพได้
แต่มหาจักรพรรดิมีสถานภาพและจิตใจของมหาจักรพรรดิ ปกติขอแค่เจ้ามีมารยาทในสุสานจักรพรรดิ อย่าค้นหาท้าทายอำนาจมหาจักรพรรดิมากเกินไป ปกติจะไม่ถึงตาย
ก็เหมือนเจ้าโง่ผู้อริยะเปลวเพลิงคนนั้นจากแดนศักดิ์สิทธิ์เก้าตะวันที่โจมตีใส่ศิลาจักรพรรดิ โดนอุบายที่มหาจักรพรรดิวางเอาไว้จัดการก็เป็นเรื่องปกติมาก
จักรพรรดิหยามเกียรติไม่ได้ นี่ไม่ใช่แค่คำพูดเลื่อนลอย!
“เทียนเอ๋อร์เจ้าผจญภัยครั้งนี้ จงจำไว้ว่าความปลอดภัยของตัวเองต้องมาเป็นอันดับแรก”
ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวขาวมองเสิ่นเทียน ก่อนจะยัดโอสถศักดิ์สิทธิ์ใส่ในอ้อมกอดเสิ่นเทียนทีละขวด “โอสถเยียวยาพวกนี้อาจารย์อาเป็นคนหลอมเอง เจ้าอย่าปฏิเสธเลย”
เมื่อสัมผัสได้ถึงสายตารักและมีเมตตาจากผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวขาว เสิ่นเทียนก็ไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี
เขาบอกได้หรือว่ามีสามประกายวารีเทพอยู่ โอสถเยียวยาพวกนี้ไม่มีประโยชน์อะไรกับเสิ่นเทียนเลยน่ะ
ช่างเถอะ!
อย่างไรก็เป็นน้ำใจเล็กๆ น้อยๆ ของอาจารย์อา อย่างมากถึงข้าไม่ใช้ ก็แบ่งให้ศิษย์คนอื่นใช้ตอนรักษาบาดแผลได้ นี่ก็ดีที่สุดเหมือนกัน
รอบตัวผู้อริยะทุกคนมีพลังงานกฎเกณฑ์เขตแดนอริยะแข็งแกร่ง กลายเป็นเกราะป้องกันรอบตัว ก่อนจะพุ่งเข้าไปยังทางเข้าสุสานจักรพรรดิ
พวกเขากำลังหยั่งเชิงว่าหากในสุสานจักรพรรดิมีอันตรายอะไรอยู่จริงๆ ด้วยความสามารถของผู้อริยะจึงหนีออกมาได้ง่ายกว่า
ผู้อริยะเข้าไปในสุสานจักรพรรดิทีละคน ไม่นานก็ได้ข่าวกลับมา
แม้ในสุสานจักรพรรดิจะมีหุ่นกระบอกและการทดสอบอยู่บ้าง แต่โดยรวมแล้วมีอันตรายไม่มาก สิ่งที่ควรค่าแก่การเอ่ยถึงอย่างเดียวคือ ระดับพลังของทุกคนในสุสานจักรพรรดิจะถูกลดลงมาต่ำกว่าผู้อริยะ
พลังงานของกฎเกณฑ์เขตแดนอริยะแทบจะไร้ผลในสุสานจักรพรรดิ นี่ทำให้ผู้อริยะจากขุมอำนาจใหญ่ต่างๆ มีกำลังรบลดลงอย่างมาก เวลานี้ผู้สูงศักดิ์สวรรค์ส่วนใหญ่ต่างคิดวางแผนของตนในใจ
“เทียนเอ๋อร์ เดี๋ยวตอนที่พวกเจ้าผจญภัยพยายามห่างจากผู้อริยะให้มากที่สุด อาจจะมีคนคิดเล่นงานเจ้าก็ได้”
เสิ่นเทียนกำลังนำโอรสสวรรค์ทุกคนเดินไปทางประตูมิติ!
ทันใดนั้นมีเสียงหนึ่งดังขึ้นข้างหูเขา เป็นเสียงเตือนของเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์
เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์หมุนตัวกลับมา สายฟ้าประกายเซียนบนผิวกายกระเพื่อมเบาๆ ก่อนจะเดินเข้าประตูมิติไปอย่างห้าวหาญ
ตนเป็นเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ เตือนเสิ่นเทียนได้ แต่ไม่ได้เป็นห่วงหรือปกป้องเสิ่นเทียนมากเกินไป เพราะเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์มองว่าบุตรแห่งโชคที่แท้จริงคือตัวเอกของสวรรค์ ไม่ต้องให้เขาปกป้องไปตลอด
มีเพียงอินทรีตัวผู้ที่ผ่านการชะล้างด้วยลมฝนเท่านั้นถึงจะคู่ควรบินขึ้นท้องนภาอย่างแท้จริง
อีกทั้งระดับต่ำกว่าอริยะ มีใครคุกคามเทียนเอ๋อร์ได้บ้าง
……
“ทุกคนจับมือกัน อย่าปล่อยมือ”
เสิ่นเทียนกับโอรสสวรรค์ทุกคนอาบน้ำเปลี่ยนอาภรณ์กันอย่างง่ายๆ เตรียมของที่ต้องลงสุสานครบแล้วก็เดินไปทางประตูมิติพร้อมกัน
ประตูมิติเป็นสีแดง ผ่านประตูไปจะเห็นเปลวไฟร้อนแรงกำลังลุกแผดเผา
ส่วนใจกลางเปลวไฟนี้เป็นพระราชวังมหึมา ดูหรูหราอย่างยิ่ง
พระราชวังแห่งนี้แทบจะรุกล้ำทั้งโลกเล็ก มองทีแรกแค่ทางตะวันออกถึงตะวันตกก็มีระยะทางไกลอย่างน้อยพันเมตร
นี่มันใช่สุสานที่ใดกัน!
เมืองหลวงของอาณาจักรมนุษย์ธรรมดาบางแห่ง เกรงว่ายังไม่ใหญ่เท่านี้เลยกระมัง!
เสิ่นเทียนแอบแปลกใจและตกใจ อดตะลึงกับความโอ่อ่ายิ่งใหญ่ของสุสานมหาจักรพรรดิอีกาทองไม่ได้
ประตูมิติใกล้อยู่ตรงหน้า เสิ่นเทียนยื่นสองมือมาจับมือของจางอวิ๋นซีและองค์หญิงหลิงหลง ก่อนจะเดินเข้าไปในประตูมิติ
ส่วนคนอื่นก็รีบตามฝีก้าวเสิ่นเทียน โดยเฉพาะองค์หญิงพวกนั้นต่างมีใบหน้าเสียดาย รู้อย่างนี้น่าจะเข้าไปใกล้ๆ แต่แรก
บางทีถ้าเข้าไปใกล้ คนที่บุตรศักดิ์สิทธิ์จับมือคงเป็นข้า!
วูบ!~
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน