บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน นิยาย บท 406
บทที่ 406 ศิษย์ข้าเสิ่นเทียน มีบุคลิกแห่งราชาเซียนจริงๆ! (2)
เพราะคำพูดของเจ้าหนูเสิ่นเทียนถึงทำให้ข้าถูกอัดจนอ่วมโดยไม่ได้อะไรเลย นี่ทำให้เขาเกิดความลนลาน
นั่นไม่ใช่การถูกทุบตีธรรมดานะ!
แต่ถูกค่ายกลระดับมหาจักรพรรดิหลายสิบค่ายปิดล้อมทุบตี กระทืบข้านานหนึ่งเค่อเชียว!
ต่อให้ข้าจะมีพลังบำเพ็ญสูงส่งก็ต้านการทุบตีอย่างบ้าคลั่งไม่ไหวนะ!
ประสบการณ์เช่นนี้มันฝังอยู่ในใจจริงๆ!
ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตรู้สึกว่าภายในใจตนกลายเป็นโรคหวาดระแวงค่ายกลไปแล้ว เกิดเจ้าหนูนี่บอกอีกว่ามีโชคลิขิตที่ใด ข้าจะไปหรือไม่ไปดีล่ะ
ไม่ใช่ใครว่าใครตามเจ้าหนูนี่แล้วจะเปลี่ยนจากร้ายกลายเป็นดีได้ทุกที่นะ
เพื่อความปลอดภัย ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตตัดสินใจว่าจะเลือกวิธีที่ค่อนข้างปลอดภัย “ไม่มีอะไร ข้าไปถามศิษย์หลานหญิงเองดีกว่า”
หลักๆ เป็นเพราะคนอื่นยังปิดด่านบำเพ็ญฝึกฝน เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ไม่สนใจเขาเลย เสิ่นเทียนก็ไม่กล้าถามอีก
ทำให้ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตไม่มีทางเลือก ได้แต่ไปหาจางอวิ๋นซีที่ทะลวงพลังก่อน ต่อให้ตอนนี้นางกำลังสู้กับองค์หญิงหลิงหลงอยู่ก็ตาม
แต่ข้าก็ไม่สนใจ!
แค่สองสาวดวงจิตดรุณกำลังต่อสู้กัน แค่คำพูดก็น่าจะหยุดได้แล้ว ข้ายังมีเรื่องสำคัญที่ต้องทำอีกนะ!
เมื่อคิดได้ดังนั้น ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตก็เดินไปยังสนามรบด้วยความมั่นใจ
เสิ่นเทียนเลิกคิ้วขึ้น ตอนแรกเขากำลังดูการต่อสู้ของสองสาม อานุภาพน่ากลัวนั้นเหนือเกินกว่าผู้สูงศักดิ์สวรรค์ส่วนใหญ่แล้ว
ต่อให้เป็นผู้บำเพ็ญจุดสูงสุดผู้สูงศักดิ์สวรรค์ ก็เกรงว่าอาจจะต้านไว้ไม่ได้
การต่อสู้อันดุเดือดเช่นนี้ ได้จุดประกายไฟสงครามในใจสองคน ต้องสู้กันอย่างสุดกำลัง
ยามนี้ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตกับเดินไปทางสนามรบ ทำให้เสิ่นเทียนต้องเอ่ยเตือน “อาจารย์ลุงระวังหน่อย พวกนางจะ…”
เสิ่นเทียนยังพูดไม่จบ ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตก็โบกไม้โบกมือ “วางใจเถอะ ด้วยพลังบำเพ็ญของข้า พวกนางทำอะไรข้าไม่ได้หรอก!”
ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตพุ่งทะยานขึ้น “ศิษย์หลานหญิง องค์หญิงน้อย เจ้าสองคนหยุดก่อนเถอะ ข้ามีเรื่องจะพูด…
ระยำ!”ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตยังพูดไม่จบก็ร้องเสียงดัง พลันพุ่งขึ้นฟ้าสามฉื่อ กระโดดสูงมาก
แต่เขาก็โต้ตอบช้าไปหน่อย พลันถูกแสงเทพกลืนกินไป
บึ้ม!
อานุภาพเทพระเบิดกระจาย พลังสั่นสะเทือนนภาเก้าชั้น!
เสิ่นเทียนส่ายหน้า อดหันหน้าหนีไม่ได้ “อาจารย์ลุง ข้าเตือนท่านแล้ว บอกว่าพวกนางจะ…ออกกระบวนท่าใหญ่!”
ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตสมกับเป็นแบบอย่างของประชากรที่ดี ใช้กายเนื้อเป็นบทการสอน เตือนสหายทุกคนในโลกบำเพ็ญเซียนว่า คนอื่นกำลังทะเลาะกัน หากหน้าตาไม่ดี ก็อย่าได้สอดมือเด็ดขาด
ต่อให้จะสอดมือก็อย่าสอดสุ่มสี่สุ่มห้า โดยเฉพาะสอดไปตรงกลาง!
ไม่เช่นนั้นจะมีจุดจบน่าสังเวช!
บึ้ม!
ห้วงอากาศโดยรอบพลันระเบิดกระจาย!
ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตอยู่ใจกลางระเบิด รับอานุภาพที่รุนแรงที่สุด
อีกด้านหนึ่ง จางอวิ๋นซีอาบประกายสายฟ้าสว่างจ้า อัสนีเทพกำเนิดฟ้าธาตุทองเหมือนกลายเป็นชุดเกราะ หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว
นี่คือวิชาต้องห้ามของแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์…เปลี่ยนร่างแปลงทัณฑ์สวรรค์!
หลังจากทะลวงไปดวงจิตดรุณตอนปลาย จางอวิ๋นซีก็ควบคุมแก่นสำคัญของเปลี่ยนร่างแปลงทัณฑ์สวรรค์ได้
เปลี่ยนร่างแปลงเป็นแก่นรากอัสนีเทพกำเนิดฟ้าธาตุทอง ควบคุมเคราะห์อัสนีเทพกำเนิดฟ้าธาตุทอง มีพลังอานุภาพแข็งแกร่งจนน่ากลัว
เคราะห์อัสนีไม่มีสิ้นสุดถูกขับเคลื่อนขึ้นมา สั่นสะเทือนท้องนภา จะทำลายล้างเขตแดนนี้ทั้งหมด
ทุกเคราะห์อัสนีมีพลังน่าสะพรึงกลัว พลังงานที่ปะทุขึ้นคุกคามได้ถึงผู้แข็งแกร่งระดับผู้สูงศักดิ์สวรรค์!
ถ้าถูกเคราะห์อัสนีจำนวนมากปิดล้อม ต่อให้เป็นผู้แข็งแกร่งจุดสูงสุดระดับผู้สูงศักดิ์สวรรค์ ก็เกรงว่าจะต้องกล้ำกลืนความแค้นอยู่ในนั้น
ถึงอย่างไรหลังจากกินโอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้าแล้ว พรสวรรค์โดยรวมของจางอวิ๋นซีผลัดเปลี่ยนไปมากจริงๆ ไม่ใช่แค่ยกระดับพลังบำเพ็ญเฉยๆ แล้ว!
แต่องค์หญิงหลิงหลงก็สำแดงยอดวิชาเช่นกัน!
วิมานเทพสามวงเปล่งแสงสว่างแพรวพราว กฎเกณฑ์เปล่งประกายสว่างจ้า
ในวิมานเทพมีสามร่างเงาผลุบๆ โผล่ๆ มีมหามรรควนเวียนรอบกาย
สามร่างเงาขยับเหมือนกัน ยกมือขึ้นช้าๆ รวมเป็นฝ่ามือใหญ่สะท้านฟ้า
ตบฝ่ามือออกไป พลิกฟ้าคว่ำปฐพี!
อากาศธาตุถูกบีบเข้าด้วยกัน รับพลังไร้ขีดจำกัด พลันดับสูญกลายเป็นความว่างเปล่า!
การโจมตีนี้คือยอดวิชาจากคัมภีร์จักรพรรดิดึกดำบรรพ์!
ยอดหัตถ์พลิกฟ้าคว่ำปฐพี!
องค์หญิงหลิงหลงเป็นองค์หญิงต้าฮวง เป็นชนรุ่นหลังสายตรงของจักรพรรดิฮวงสือ
องค์หญิงหลิงหลงจึงมีความเข้าใจต่อคัมภีร์จักรพรรดิดึกดำบรรพ์ลึกซึ้ง ย่อมตระหนักมรดกอันเป็นหัวใจสำคัญที่สุดจากในนั้นได้
นางใช้สามวิมานของนางกระตุ้นคัมภีร์จักรพรรดิดึกดำบรรพ์ ต่อให้เป็นผู้บำเพ็ญจุดสูงสุดผู้สูงศักดิ์สวรรค์ก็อาจจะต้านการโจมตีนี้ไม่ได้ จะต้องนองเลือดเก็บความแค้นอยู่ในใจ!
พริบตาเดียวนั้น ก็ระเบิดกลิ่นอายพลังน่าสะพรึงอย่างยิ่งมาจากใจกลางสนามรบ
ถึงอย่างไรนี่ก็ไม่ใช่การโจมตีธรรมดา!
แต่เป็นการโจมตีสุดกำลังขององค์หญิงหลิงหลงกับสตรีศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ และตำแหน่งที่ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตปรากฏตัวก็เป็นตรงใจกลางสนามรบพอดี
นี่ทำให้ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตรู้แล้วว่าอะไรคือคนหนุ่มยุคใหม่มีพลังน่ากลัวพร้อมจะแซงหน้าคนสูงวัย!
อืม และยังรู้สึกด้วยว่าเด็กสาวยุคใหม่มีพลังน่ากลัวด้วยเช่นกัน~
…….
โครม!
เกิดเสียงดังสั่นสะเทือนฟ้าดิน!
ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตถูกพัดปลิวไปโดยไม่ทันตั้งตัวเลย
เคราะห์สายฟ้ามากมายกับยอดหัตถ์พลิกฟ้าคว่ำปฐพีหมุนม้วนอยู่รอบตัว ได้สัมผัสถึงรสชาติเจ็บแสบเกินบรรยาย!
แต่ไม่นานผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตก็ตั้งตัวได้ เขาระเบิดแสงสีทองออกมาทั่วร่าง มีพลังอำนาจแก่กล้าหลั่งไหลออกมา
บึ้ม!
เคราะห์สายฟ้าถูกตีแตก มือใหญ่ยังถูกกระบอกทะลวง
มีเพียงนักพรตชราที่มีแสงสีทองสว่างแพรวพราว มือถือกระบองใหญ่ทองคำเพียงหนึ่งเดียวที่ยืนอยู่กลางอากาศ ดูเท่มาก
ก็ได้!
ยังดูสะบักสะบอมนิดๆ ด้วย!
ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตเส้นผมตั้งชี้ ชุดคลุมเซียนสีม่วงที่เพิ่งเปลี่ยนมาไม่นานถูกระเบิดขาดเละเทะ ปากยังพ่นควันสีขาวออกมาอีก
เมื่อเห็นดังนั้น องค์หญิงหลิงหลงกับจางอวิ๋นซียังตกใจสะดุ้ง รีบเข้ามา “อาจารย์ลุง ท่านไม่เป็นไรนะ”
“ไม่เป็นไร ข้าเป็นใคร การโจมตีของพวกเจ้าแค่ทำให้ข้าคันๆ เท่านั้น!”
หากไม่ใช่เพราะผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตยังพ่นควันสีขาวออกมา ทุกคนอาจจะเชื่อจริงๆ ก็ได้
…..
“โอสถระดับจักรพรรดิรึ ข้าเอาๆ!”
เมื่อเห็นดังนั้น ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตก็ตาโต ดวงตาเปล่งแสงเทพออกมา
โอสถจักรพรรดิที่ยกระดับพรสวรรค์ได้รึ
นี่น่าสนใจมาก!
ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตไม่พูดไม่จาก็แย่งเม็ดหนึ่งไปจากมือเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ กำไว้แน่น “ศิษย์หลาน นี่จะได้อย่างไรกัน”
เพิ่งเอ่ยจบ ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตก็ยัดโอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้าใส่ปาก กลืนลงไปดังอึก
ภาพลักษณ์ของเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ดีกว่ามาก สายฟ้าประกายเซียนบนผิวกายเขาสั่นกระเพื่อมอย่างรุนแรง แต่เสียงกลับเฉยชาและราบเรียบ
“ลำบากเทียนเอ๋อร์แล้ว อาจารย์ปลื้มใจยิ่งนัก! แต่ต่อให้โอสถนี้เป็นระดับจักรพรรดิ เทียนเอ๋อร์ก็เก็บไว้เองเถอะ! ภายภาคหน้าอาจจะมีประโยชน์อย่างมาก อาจารย์ไม่เอา”
เสิ่นเทียนโค้งตัว “หลังศิษย์คารวะท่านเป็นอาจารย์ อาจารย์ก็ตั้งใจชี้แนะข้ามาตลอด ไม่เคยคร้านเดินทางไกลหมื่นลี้มารับศิษย์ และยังสู้กับศัตรูแข็งแกร่งเพื่อศิษย์
ศิษย์ประสบความสำเร็จในการบำเพ็ญได้อย่างทุกวันนี้ เพราะบุญคุณอาจารย์ดั่งขุนเขา หากไม่มีอาจารย์ก็ไม่มีศิษย์! กับแค่โอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้าเม็ดเดียวมันเล็กน้อยยิ่ง ขออาจารย์อย่าได้ปฏิเสธเลย”
“เทียนเอ๋อร์ ไม่เป็นไรจริงๆ”
“อาจารย์ ขอให้ท่านรับไว้เถอะ!”
“อาจารย์ไม่เอา เก็บไว้ให้ศิษย์คนอื่นเถอะ!”
“ภายภาคหน้าหากต้องการใช้ด้านนี้ ศิษย์ค่อยหลอมใหม่ก็ได้ อาจารย์ไม่ต้องเกรงใจ!”
“หลอมใหม่ได้จริงๆ รึ”
“ขอแค่มีวัตถุดิบสมุนไพรก็จะหลอมได้ทุกเมื่อ!”
…….
หลังจากพูดครั้งแล้วครั้งเล่า ประกายเซียนบนผิวกายเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ก็กระเพื่อมอย่างบ้าคลั่ง
ในที่สุดเขาก็พูดด้วยความจนปัญญา “ช่างเถอะๆ! ในเมื่อเป็นน้ำใจของเทียนเอ๋อร์ ข้าก็จะหน้าด้านรับไว้แล้วกัน”
เอ่ยจบ เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ก็กินโอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้าไปอย่างสงบนิ่ง เริ่มหลอมรวมฤทธิ์ยา
อืม ไม่พูดมากแล้ว
แค่ผลักผลประโยชน์กันไปๆ มาๆ ภาพลักษณ์ของเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ก็ต่างกับผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตชัดเจนแล้ว
ไม่เช่นนั้น เหตุใดศิษย์น้องรองถึงได้เป็นเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์กันล่ะ!
ผู้สืบทอดควรเป็นคนโตสิ!
…….
แน่นอน ประกายเซียนที่กระเพื่อมอย่างบ้าคลั่งบนผิวกายเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ได้สะท้อนคลื่นอารมณ์มากมายที่เขาซ่อนอยู่ตรงส่วนลึกในใจออกมา
โอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้า โอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้า~
โอสถระดับจักรพรรดิที่ยกระดับพรสวรรค์ของผู้อริยะได้เป็นเรื่องแปลกที่ไม่เคยได้ยินได้ฟังมาก่อน เดาว่าเอาอาวุธอริยะระดับสุดยอดมาแลกก็ไม่ได้กระมัง!
หากโอสถเทพสูงสุดเช่นนี้ออกไปสู่โลกภายนอก เกรงว่าผู้แข็งแกร่งสุดยอดที่สุดในห้าดินแดนคงต้องคิดแย่งชิงแน่นอน!
และเทียนเอ๋อร์ สามารถหลอมโอสถเทพสูงสุดเช่นนี้ออกมาได้อย่างไม่ขาดสาย!
มีโอสถนี้ ยังต้องกังวลว่าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ข้าจะไม่ยิ่งใหญ่ขึ้นอีกรึ!
ศิษย์ข้าเสิ่นเทียน มีบุคลิกแห่งราชาเซียนจริงๆ!
ฮิๆๆๆๆๆๆ~
…………………….
ประวัติการอ่าน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บุตรแห่งโชคที่ว่า ไม่ใช่ข้าแน่นอน