"เท่านี้ก็ไปจัดการบอสได้แล้วสินะ..." เป็นเอ็กซ์ที่กล่าวออกมาพร้อมทั้งถอนหายใจหนักๆสามสี่คราจากอาการล้า การจัดการกับไม้วิญญาณกลายพันธุ์นั้นไม่ใช่แค่การฟันครั้งสองครั้งแล้วมันจะตาย ด้วยพลังชีวิตที่มากขนาดนั้น ประกอบกับการตั้งรับอยู่ก่อนหน้านี้อีก
การฝืนมาได้ขนาดนี้มันก็น่าพอใจแล้วสำหรับเขา
"ยังไงก็ต้องขอบคุณเขาละนะ" คิงกล่าวพร้อมทั้งมองมายังผมด้วยสายตาพิจารณา การที่โซโล่เพลเยอร์มาไกลขนาดนี้เขาเข้าใจดีว่ามันต้องไม่ธรรมดาแน่นอน แต่กับการที่ไม่เคยเห็นชื่อมาก่อนมันแปลกเกินไป
เราลองเช็คดูในรายชื่อผู้เล่นใกล้ๆแล้ว... เขาไม่ได้อยู่ที่นี่คนเดียวแน่นอน เพราะไม่งั้นมันต้องมีชื่อเขาอยู่ว่าไร้ปาร์ตี้ และเหตุผลเดียวที่ทำให้ไม่ขึ้นชื่อเพลเยอร์ใกล้เคียงก็คือมีปาร์ตี้แล้ว...
ปาร์ตี้ของใครกันละ?
"ที่ผมทำมันก็แค่เรื่องเล็กๆน้อยๆเอง อีกอย่างการจะไปตีบอสด้วยคนเท่านี้ไม่พอหรอก" ผมกล่าวปฏิเสธออกไปเมื่อเห็นว่าหลายๆคนเองก็ต้องการขอบคุณ
อืม... มันแปลกใช่มั้ยละที่ต้องพีเคกับคนที่เพิ่งขอบคุณไป
"ไปเจอมันมาแล้วหรอ? บอสน่ะ" ฮานถามผมออกมาด้วยสีหน้าจริงจัง
"อืม เป็นบอสขนาดใหญ่ประเภทไม่เคลื่อนไหวจนกว่าจะเข้าระยะโจมตี ไม่รู้รายละเอียดมากหรอกนะ พอดีมันกันตัวเองเอาไว้ด้วยปีก ที่เห็นก็เลยมีแค่นั้น แต่แค่รูปลักษณ์ก็บอกได้แล้วว่าคนหลักสิบไม่น่าจะทำอะไรได้"
"ถ้างั้นก็ต้องเคลียร์พื้นที่พวกนี้ก่อนสินะ พวกด้านหลังจะได้ตามมาได้"
"ใช่ ถ้าทำแบบนั้นได้ก็ดี ยิ่งคนมากเท่าไรก็ยิ่งปลอดภัย"
"ถ้างั้นก็ถอยกลับไปจัดการกับมอนสเตอร์ก่อน จะได้มีกองกำลังเสริมเพิ่มขึ้นมาด้วย ส่วนเรื่องบอสก็ส่งสมาชิกปาร์ตี้ออกไปตรวจสอบดูก็แล้วกัน ยิ่งเข้าใจด้วยคนหลากหลายเท่าไรก็ดีเท่านั้น" คิงกล่าวเสนอออกมาด้วยสีหน้าครุ่นคิด ก่อนจะเป็นควีนที่เสนอตัวออกมาว่าจะไปที่นั่นในฐานะตัวแทนของปาร์ตี้ตัวเอง
"ถ้างั้นฉันไปด้วยก็แล้วกัน ยังไงก็มีนักบวชไปด้วยย่อมดีกว่าอยู่แล้ว" เอเนลกล่าวออกมาด้วยเสียงเอื่อยๆ ก่อนสมาชิกปาร์ตี้อื่นจะส่งตัวแทนออกมาเพื่อไปสำรวจบอสก่อน
"ถ้าอย่างนั้นก็ไปกันเถอะ"
"เชิญพวกคุณไปก่อนเลย ผมต้องกลับไปรวมปาร์ตี้น่ะ" ผมรีบปฏิเสธออกไปทันทีเมื่อฮานทำท่าเหมือนกับจะชวนผมออกไปด้วย แน่นอนผมไม่รอให้เขาตามมาอยู่แล้วจึงรีบถอยออกไปทันที
"ฉันจะตามไปดูเขาเองคิง" เป็นนักฆ่าคนหนึ่งที่พูดออกมาด้วยเสียงแผ่ว ก่อนเขาจะรีบย้ายออกมาจากพื้นที่บริเวณนั้นทันที
"มีคนตามดินไปคนหนึ่งนะ สายนักฆ่า จะให้ทำตามแผนเลยมั้ย?"
"อืม"
ชานงั้นหรอ... เขาเป็นจอมเวทย์หรือนักฆ่ากันแน่? ฉันเองก็มีค่าความเร็วที่สูงมาก แต่ทำไมถึงตามไม่ทันละ? หรือจะใช้สกิลไนท์แมร์วอร์ค?
"เปรี้ย เปรี้ย..."
"เปรี้ยง!"
อะไรวะนั้น! ถ้าหลบไม่ทันคงโดนเต็มๆแน่ สกิลสกัดการสะกดรอยงั้นหรอ? แต่เมื่อกี้มันดูเหมือนจะเป็นหุ่นสุนัข สายอัญเชิญรึเปล่า?... นี่เขารู้ตัวงั้นหรอ บ้าเอ้ย! ต้องรีบถอยก่อนแล้ว ถ้าโดนพีเคทิ้งมีหวังแย่แน่
"เดธสตั้น!" เมย์รีบระเบิดคริกซิสที่อยู่ใกล้ๆอีกตัวเพื่อหยุดนักฆ่าคนนั้นเอาไว้ ทว่าอีกฝ่ายก็ยังสามารถดีดตัวถอยออกได้ทัน ถึงกระนั้นทันทีที่ออกนอกระยะเดธสตั้น เขาก็ถูกระเบิดยะเยือกแทน แม้ดาเมจจะไม่มาก แต่มันก็ทำให้เขาได้แต่มองไปยังกับดักเหล่านี้ด้วยความกลัว..
สามร้อยเลยงั้นหรอ...
"อึก... จะบอกว่าถ้าจะกำจัดก็กำจัดได้ง่ายๆสินะ... ก็ได้ๆ... ถอยก็ได้..." มือสังหารคนนั้นกล่าวต่อตัวเองพร้อมทั้งหัวเราะแห้งๆออกมา ก่อนเขาจะถอยออกไปด้วยสายตาที่ยังมองสลับซ้ายขวาอย่างหวาดระแวง
"เหมือนจะถอยไปแล้วนะดิน ต่อจากนี้จะเอาไงต่อหรอ?"
"อัพเลเวลรอพวกเขาต่อแค่นั้นละ ยังไงยิ่งถอยออกไปมอนสเตอร์ก็ยิ่งน้อย สู้เราจัดการพวกทางนี้ไปเรื่อยๆดีกว่า จะว่าไปแล้ว เรื่องอัญเชิญเป็นยังไงบ้างหรอ?"
"อืม... เตรียมเอาไว้พร้อมแล้ว เพราะเป็นสกิลที่ต้องใช้เวลารอการจุติก็เลยไม่เคยเห็นเหมือนกันว่าทำได้ขนาดไหน แต่ถ้าดูจากค่าสถานะของสกิลแล้วก็น่าจะสร้างปัญหาพอสมควร" เมย์ตอบกลับด้วยเสียงนึกสนุกจนผมรู้สึกขนลุกขึ้นมาทันที ที่ว่าไม่เคยใช้มันน่าจะเป็นเพราะการเตรียมการละนะ ซึ่งคงไม่มีสถานการณ์ไหนเหมาะไปกว่าตอนนี้แล้ว
ในตอนแรกก็ไม่คิดเหมือนกันว่าสกิลสายอัญเชิญจะมีสกิลประเภทคลุมพื้นที่ขนาดใหญ่อยู่ แต่พอลองถามดูเมย์ก็เลือกรับมันมาจากกล่องเลือกสกิลให้ทันทีเลย
บางทีมันอาจจะเป็นนิสัยที่เมย์ติดไปจากผมก็ได้ละนะ ไม่ได้ใช้ทุกอย่างและเก็บบางอย่างเอาไว้เผื่อในสถานการณ์ที่ไม่เป็นใจ
ถึงมันจะไม่ครอบคลุมพื้นที่แบบที่ผมคิด แต่สกิลแยกของพวกมันถือว่าเยี่ยมเลยนั่นแหละ
...หลังจากรอคนพวกนั้นมาได้สักครึ่งชั่วโมง พวกเขาก็เริ่มมาถึงกันแล้ว ถึงจะเร็วกว่าที่คิดไปสักนิด แต่ว่าผมเองก็เลเวลพุ่งไปถึงยี่สิบเอ็ดแล้วเหมือนกัน เมย์เองก็เลเวลขึ้นเพราะมีคริกซิสตามประกบผมอยู่ตัวหนึ่ง ถึงตัวคนจะไม่อยู่ แต่มีตัวแทนอยู่ก็ยังนับเป็นบัฟปาร์ตี้และยังนับเป็นตัวของเมย์เองอีกต่างหาก
ลองคิดดูสิว่าสายอาชีพนี้มันทำนาบนหลังคนขนาดไหน แค่อยู่เฉยๆแล้วส่งสัตว์อัญเชิญออกไปก็ได้เลเวลแล้ว...
ส่วนเมย์ในตอนนี้จะบอกว่าเป็นผู้สังเกตการณ์ก็คงไม่แปลกอะไร ผมแค่ให้เมย์ไปคอยตรวจสอบพื้นที่และรายงานตำแหน่งของคนที่กระจายกันอยู่ และเพราะมีสกิลล่าเนื้อ แม้จะเป็นคริกซิสของเมย์ผมก็ยังมองภาพผ่านมันได้
เพราะทำแบบนี้ผมจึงบอกได้ว่าตำแหน่งของเพลเยอร์แต่ละคนอยู่จุดไหนบ้าง แต่บอกก่อนเลยการจะชี้พิกัดที่แม่นยำด้วยตัวผมเองมันเป็นไปไม่ได้ แต่เป็นเพราะเมย์ที่เป็นเจ้าของสัตว์อัญเชิญรู้ตำแหน่งของสัตว์อัญเชิญแต่ละตัว ผมจึงพอเตรียมตัวในหลายๆอย่างได้ง่ายขึ้นเยอะ
พึ่งพาอาศัยกันและกัน นั่นคือคำนิยามในตอนนี้ ถึงจะรู้ว่าสัตว์อัญเชิญอยู่ที่ไหน แต่เมย์ก็ทำได้แค่ตรวจจับไม่สามารถมองเห็นผ่านสัตว์อัญเชิญได้ ล่าเนื้อของผมจึงทำหน้าที่นั้นแทน
เป็นความลงตัวของสกิลที่ดีไม่น้อยนั่นละ
จำนวนที่มาถ้านับรวมจากทั้งหมดก็คือสามร้อยได้ และอาจจะมีมากขึ้น แต่ไม่น่าจะเกินสองพันคนถ้าดูจากความสามารถของพวกเขา
"ทางนี้ไม่มีคนมาอย่างที่คิด แบบนี้ก็เป็นไปตามแผนเลยสินะ"
"อ่า... ตอนนี้เราเองก็ไปร่วมงานเลี้ยงกับพวกเขากันเถอะ งานเลี้ยงของบอสวิหคตกสวรรค์นั่น"
...
"ทางนี้เตรียมการพร้อมแล้วใช่มั้ย?"
"อ่า! รอบนี้แหละจะต้องแก้แค้นมันให้ได้ ไอ้เพลเยอร์คนนั้น บังอาจมาขัดเวลาสนุกของผมซะได้!"
"เอ่อ... พัน ผมว่าคุณไม่ควรไปโกรธเพลเยอร์นะ"
"เอ็งนั้นละชิน! เอ็งควรจะแค้นมันที่สุดเลย!"
"ฮ่าๆ.... แต่ว่าเราต้องทำถึงขนาดนี้เลยหรอ? เกมมันเพิ่งจะเปิดเองนะครับ" ชินกล่าวพร้อมทั้งเกาหัวแก้เขินด้วยรอยยิ้มแหยๆ เพราะในครั้งนี้มันไม่ใช่แค่สามสี่คนแล้วที่เข้ามาคุมมอนสเตอร์ แต่ตอนนี้มันมากกว่าสามสิบคนซะอีก! นี่มันจะก่อสงครามกันเห็นๆเลย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Carrus online : Black sheeP
1...
1...