จอมนักรบอหังการ นิยาย บท 113

ใบหน้าสวยของเกาเยว่หรูดูไม่ดี มองดูเย่อู๋เทียนด้วยความนิ่งอึ้ง

ถึงได้เข้าใจ ที่แท้หมอนี่ ก็คือลูกเขยของหวงต้าไห่นี่เอง!

ยิ่งไปกว่านั้น…….

คฤหาสน์บนยอดเขา เขาเป็นคนซื้อเหรอ?

หมอนี่ เป็นใครกันแน่?

แต่เมื่อเกาเยว่หรูคิดอย่างนั้น ซุนอีหมิงพูดกับเธออย่างอึดอัดว่า: “คุณเกา ในเมื่อคุณมาหาผม งั้น เชิญคุณตามผมไปคุยกันที่บริษัทเถอะ”

หมายความว่า พวกเราอย่ารบกวนประธานเย่ที่นี่เลย

แต่เกาเยว่หรูกลับได้ยินเช่นนี้ก็ดีใจ

คาดไม่ถึง ตัวเองจะโชคดีได้คุยกับซุนอีหมิงเป็นการส่วนตัว นี่ก็แสดงให้เห็นว่า รับเหมาก่อสร้างสถาบันเจิ้นกั๋ว มีหวังอย่างแน่นอน

แต่ตอนที่เกาเยว่หรูอยากจะตามซุนอีหมิงไป ทันใดนั้นเกาเม่ยหลิงก็นั่งรถมอเตอร์ไซค์ของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดที่ประตูของจวนทะเลหมอกมา

ที่เชิงเขาเมื่อกี้นี้ เกาเยว่หรูโยนบัตรประชาชนของเกาเม่ยหลิงออกไปนอกรถในทันที เกาเม่ยหลิงนิ่งอึ้งอยู่เป็นเวลานาน

ในใจก็ไม่สบอารมณ์เป็นอย่างมาก

เธอออกจากตระกูลเกาไปสามสิบปีแล้ว คนในตระกูลเกา ไม่นึกเลยว่าก็ยังเฉยเมยต่อเธอได้ขนาดนี้

ตอนนี้ แม้แต่เด็กอย่างเกาเยว่หรู ก็ไม่ให้ความสำคัญกับเธอเลย

เกาเม่ยหลิงแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยน้อยอกน้อยใจที่เชิงเขาเมื่อกี้นี้

หวงต้าไห่เห็นเกาเม่ยหลิงน้อยอกน้อยใจไม่ได้ที่สุด ถึงได้ไล่ตามรถของเกาเยว่หรูมาก่อน และมาถึงที่คฤหาสน์ยอดเขา

ในเวลานี้ เกาเม่ยหลิงได้ลงมาจากมอเตอร์ไซค์แล้ว เผชิญหน้ากับฉากตรงหน้านี้ ตระหนักได้อย่างรวดเร็วว่า หวงต้าไห่คงจะบอกเรื่องราวที่เกิดขึ้นที่เชิงเขาเมื่อกี้นี้กับเย่อู๋เทียนอย่างแน่นอน

เกาเม่ยหลิงรีบเดินไปตรงหน้าของเย่อู๋เทียน ฝืนฉีกยิ้ม และพูดว่า: “เทียน แม่ออกจากบ้านแม่มาสามสิบปีแล้ว นี่ก็เห็นว่าลูกกับรั่วเชิงจะแต่งงานกันไม่ใช่เหรอ ถึงได้ตัดสินโทรศัพท์ไปหาคุณตาของรั่วชิงเอง……เยว่หรูเธอ เธอก็ไม่ได้ทำอะไรแม่หรอก ยิ่งไปกว่านั้นตอนที่แม่แต่งงานกับพ่อของลูก เยว่หรูยังไม่ได้เกิด ลูกอย่าได้ถือสาเธอเลย”

เย่อู๋เทียนนิ่งไป และพูดด้วยรอยยิ้มว่า: “แม่ครับ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ แม่ก็ไม่ว่าอะไร ผมก็ยิ่งว่าอะไรไม่ได้หรอกครับ”

จากนั้น เย่อู๋เทียนมองไปทางหวงต้าไห่ และพูดโน้มน้าวว่า: “พ่อครับ พ่อใจเย็นๆหน่อย”

หวงต้าไห่เต็มไปด้วยความแค้นเคืองต่อความไม่เป็นธรรม ชี้ไปที่เกาเยว่หรู และพูดอย่างโกรธเคือง: “เมื่อกี้นี้หล่อนทำให้แม่ของลูกแทบจะร้องไห้ออกมาแล้ว!”

เย่อู๋เทียนพูดด้วยรอยยิ้มว่า: “งั้นเดี๋ยวผมจะทำให้หล่อนร้องไห้ ระบายความโกรธให้กับแม่”

หวงต้าไห่นิ่งไป และทำอะไรไม่ถูก

ใบหน้าสวยของเกาเยว่หรูดูไม่ดีอีกครั้ง ไม่อยากที่จะถือสาเศรษฐีใหม่พวกนี้ มองไปทางซุนอีหมิง และฝืนยิ้ม: “คุณซุน พวกเราไปคุยกันที่บริษัทของคุณเถอะค่ะ นั่งรถของฉัน แบบนี้ก็จะประหยัดเวลาด้วย”

ซุนอีหมิงทำอะไรไม่ถูกไม่รู้ว่าควรพูดอะไร

เกาเม่ยหลิงได้ยินว่าเกาเยว่หรูกำลังจะไป รีบจับมือของเธอไว้ และพูดขึ้นมาว่า: “เยว่หรู ป้ารู้ว่า เธอไม่เคยเจอป้ามาก่อน คุณปู่คุณยายของเธอก็ยังโกรธป้าอยู่ แต่ไม่เป็นไร ต่อไปป้าจะพยายามชดเชยให้พวกเธอ เป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว ไม่ต้องเกรงใจกันหรอก ไป ถึงเวลากินข้าวแล้ว จะไปบริษัททำไม ไปนั่งในบ้านสักพัก พูดคุยกับป้าหน่อยนะ”

ใครจะไปรู้ว่าตอนนี้เกาเยว่หรูรู้สึกอะไร

เกาซื่อ อสังหาริมทรัพย์ กรุ๊ป!

มูลค่าตลาดอย่างเดียวมากกว่าสองแสนล้าน!

ต้องการให้หญิงชราที่แต่งงานกับคนฆ่าสัตว์อย่างแกมาชดเชยเหรอ?

แกเป็นใครกัน?

นอกจากนี้ ตอนนี้โอกาสอยู่ตรงหน้า ซุนอีหมิงจะคุยกับตัวเองตามลำพัง!

ผู้หญิงโง่ๆอย่างแก กำลังทำอะไรอยู่ตอนนี้?

ต้องการพูดคุยเรื่องครอบครัวกับตัวเอง?

แกกำลังจะทำลายเรื่องดีของฉันชัดๆ!

ซุนอีหมิงเห็นว่าเกาเม่ยหลิงในฐานะแม่ยายของเย่อู๋เทียนจะรั้งเกาเยว่หรูให้อยู่ต่อ จะพูดอะไรได้ ทำได้เพียงพยายามรักษารอยยิ้มเท่านั้น และพูดกับเกาเยว่หรูว่า: “คุณเกา งั้นพวกเราไว้นัดกันวันหลังนะ ยิ่งไปกว่านั้นเรื่องงาน อันที่จริงก็ไม่ได้สำคัญขนาดนั้น จัดการเรื่องในครอบครัวก่อนต่างหากที่เป็นสิ่งสำคัญ”

ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ออกมา ใบหน้าของเกาเยว่หรูก็ซีดเผือด

เพราะว่าเธอได้ยินคำพูดนี้ของซุนอีหมิง กลายเป็นความหมายอื่นไปโดยสิ้นเชิง

ซุนอีหมิงคุณซุน นี่คงจะหงุดหงิดแล้วแน่ๆ!

เกาเม่ยหลิงที่อยู่ข้างๆก็จับมือของเกาเยว่หรูอีกครั้งแล้วพูดว่า: “เยว่หรู ไปกันเถอะ อย่ายืนที่หน้าประตูเลย เข้าไปคุยกัน”

เกาเยว่หรูสะบัดมือของเกาเม่ยหลิงในทันที และมองเธออย่างชั่วร้าย ต่อจากนั้น พยายามที่จะรักษาท่าทีของตัวเอง มองไปทางซุนอีหมิง และฝืนยิ้มพูดว่า: “คุณซุน ทำให้คุณเห็นเรื่องน่าอายแล้ว ในสายตาของฉันมีแต่งาน ไม่มีเรื่องของครอบครัวหรอกค่ะ”

ซุนอีหมิงมองไปทางเย่อู๋เทียนอย่างกลืนไม่เข้าคายไม่ออก และพูดอย่างช่วยไม่ได้: “ประธานเย่ คุณว่า……”

เย่อู๋เทียนขมวดคิ้ว

พูดในใจว่าผู้หญิงอย่างเกาเยว่หรู สมองมีปัญหาหรือเปล่า?

แต่เกาเยว่หรูได้ยินว่าซุนอีหมิงเรียกเย่อู๋เทียนว่าประธานเย่ นิ่งไปเล็กน้อย ถามซุนอีหมิงอย่างคนตีสองหน้าในทันที: “คุณซุน คุณกับพี่เขยของฉัน เป็นเพื่อนสนิทกันเหรอ…….?”

ซุนอีหมิงพูดอย่างรวดเร็วว่า: “ไม่กล้า ไม่กล้าหรอกครับ ผมไม่คู่ควร”

เกาเยว่หรูตกตะลึง

คำพูดนี้ หมายความว่ายังไงที่บอกว่าคุณไม่คู่ควร?

นี่คงจะอารมณ์ร้อนขึ้นมาสินะ!

ซุนอีหมิงมองไปทางเย่อู๋เทียนอีกครั้ง และพูดอย่างทำอะไรไม่ถูก: “ประธานเย่ ผมว่าผมอยู่ที่นี่ต่อไป คงจะยิ่งอยู่ยิ่งวุ่นวายอย่างแน่นอน แบบนี้ ถ้าคุณไม่มีเรื่องอื่นจะสั่งการ ผมขอตัวเองก่อนครับ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนักรบอหังการ