จอมศาสตราพลิกดารา นิยาย บท 108

ระหว่างมองคนของสำนักกระบี่ขาวพิสุทธิ์จากไปอย่างปลอดภัยไร้รอยขีดข่วนตาปริบๆ คนในยุทธจักรที่เหลืออิจฉาเหลือเกิน แต่ว่าไม่มีคำสั่งของหลี่มู่ พวกเขาก็ไม่กล้าไปไหน ขนาดขยับยังไม่กล้า

พวกดวงซวยที่ธนูปักเข่าพวกนั้นเป็นตัวอย่างให้เป็นอย่างดี

ตอนนี้พวกเขายังนอนร้องโอดโอยบนพื้นอยู่เลย

ยามที่หลี่มู่กวาดสายตามา ต่อให้เป็นหัวใจของพวกจอมยุทธ์รุ่นเก่าก็ยังเต้นตุบๆ อย่างบ้าคลั่ง

ไม่มีใครไม่กลัวตาย

“เอ่อ…ขอโทษด้วยจริงๆ มานานขนาดนี้แล้ว ลืมถามไปเลย พวกท่านทั้งหลายมาที่ว่าการอำเภอหาข้าด้วยเรื่องอันใด?”

หลี่มู่ถามขึ้น

คนในยุทธจักรพวกนี้ได้ยินคำถาม น้ำตาก็แทบจะไหลลงมาอยู่รอมร่อ

ใช่แล้ว พวกเขามาที่ว่าการทำไมกัน?

ทำไมต้องมาปรากฏตัวอยู่ที่นี่?

อยู่ในอำเภอไปเงียบๆ มอบเงินค่าไถ่และทรัพย์สมบัติไปอย่างว่าง่าย พาคนในห้องขังจากไป แล้วหายไปจากอำเภอขาวพิสุทธิ์แต่โดยดี หากทำเช่นนั้น เรื่องอะไรพวกนี้ก็คงจะไม่เกิดขึ้นแล้วใช่หรือไม่?

แต่ว่า เหตุใดพวกเขาถึงต้องตามคนของสำนักกระบี่ขาวพิสุทธิ์มาคาดโทษยังที่ว่าการแห่งนี้ด้วย?

ตอนนี้เป็นอย่างไรเล่า คนสำนักกระบี่ขาวพิสุทธิ์แค่จ่ายค่าตอบแทนด้วยสาวงามก็มีชีวิตกลับไปได้อย่างปลอดภัยไร้รอยขีดข่วน ทิ้งลูกแกะรอเชือดอย่างพวกเขาให้เผชิญหน้ากับชะตาที่ยังไม่รู้กับราชาปีศาจหลี่มู่ผู้ไม่ประสงค์ดี จะทำอย่างไรดี?

เป็นเพราะไอ้แก่สมควรตายนั่น

เหล่าชาวยุทธ์ต่างโกรธแค้นขึ้นมา

เหตุที่พวกเขารวมตัวกันมาที่ว่าการครั้งนี้ ความจริงหลักๆ แล้วก็เพราะโจวเจิ้นไห่ซึ่งบอกว่าตัวเองเป็นน้องชายของผู้อาวุโสสำนักกระบี่คนนั้นคอยยุยงใส่ไฟ ขยายความไม่พอใจและความโกรธแค้นที่มีต่อหลี่มู่ของพวกเขา ทั้งยังให้ความหวังกัน ทำให้พวกเขารู้สึกว่าสำนักกระบี่ขาวพิสุทธิ์เอาชนะหลี่มู่ได้แน่ พวกเขาถึงได้มา

สุดท้ายตอนนี้…นี่มันโศกนาฏกรรมชัดๆ

เห็นศพของของเว่ยชง ผู้อาวุโสของสำนักดับนิวรณ์ หากตอนนี้ยังมีคนกล้าเอ่ยคาดโทษว่าอาศัยอะไรมากักขังคนของพวกเขาทำนองนี้ละก็ เช่นนั้นสมองของมันคงถูกลาเตะทิ้งไปแล้วเป็นแน่

“ใต้เท้าหลี่ พวกเรามาส่งมอบเงินค่าไถ่” ผู้อาวุโสพรรคมังกรฟ้าปราดเปรื่อง โค้งตัวคำนับ

คนอื่นก็ราวตื่นจากความฝันทันที

“ใช่แล้วๆ พวกข้ามาก็เพื่อส่งมอบเงินค่าไถ่”

“ข้ามาเพื่อศิโรราบให้กับความองอาจของใต้เท้า”

“ข้าตั้งใจมาขอให้ใต้เท้ายกโทษให้โดยเฉพาะ ผู้เยาว์ในตระกูลไม่รู้ความ ทำให้ใต้เท้าโกรธเคือง พวกเรายินดีรับโทษทุกอย่าง” กลุ่มบุคคลที่นับว่ามีหน้ามีตาในยุทธจักรทิศพายัพ โดยปกติแล้วกำแหงอวดดี ทว่าตอนนี้แต่ละคนต่างเรียบร้อยว่าง่ายเหมือนลูกแกะเพิ่งเกิด บนใบหน้ามีรอยยิ้มประจบ ด้วยกลัวว่าจะทำให้หลี่มู่โกรธเคือง

เพราะนี่ไม่ใช่เรื่องกลัวตายหรือไม่แล้ว

ถ้าล่วงเกินราชาปีศาจหลี่มู่ วันข้างหน้า พรรค สำนัก และตระกูลของเขาจะหากินอย่างไรในยุทธจักรแถบนี้? พวกเขาล้วนมีบ้านมีขีดจำกัด มีภาระครอบครัว ต่อให้หนีก็หนีไม่พ้นอยู่ดี หากราชาปีศาจหลี่มู่โมโหขึ้นมา พวกเขาก็อาจจะกลายเป็นเถ้าธุลีไปได้

นี่เป็นเรื่องของผลประโยชน์

ผลประโยชน์ โดยเฉพาะผลประโยชน์ของตระกูลและสำนักที่สำคัญยิ่งกว่าความเป็นความตาย

ทว่าหลี่มู่กลับเปิดโปงความเจ้าเล่ห์ของพวกเขาอย่างไร้เมตตา

“จ่ายเงินค่าไถ่? ไหนค่าไถ่เล่า? ทำไมจึงไม่เอามาด้วย? ข้าจำได้ว่าก่อนหน้านี้พูดกับพวกเจ้าไว้ชัดเจนมากแล้วว่า ขอแค่ไปจ่ายเงินค่าไถ่และรับคนที่คุกก็ได้แล้ว ไยจึงต้องมาที่ว่าการอำเภอเล็กๆ? อีกทั้งจากที่ข้ารู้มา พวกเจ้ามาถึงอำเภอขาวพิสุทธิ์ได้สองสามวันแล้ว แต่ก็ยึกยักไม่ยอมจ่ายเงินค่าไถ่ ไม่อยากจ่ายใช่หรือไม่?”

หลี่มู่พูดเสียงเข้ม

อันที่จริงครึ่งหลังเป็นคำพูดที่เขากล่าวไปมั่วๆ แต่กลับตรงกับความจริงทั้งหมด

คนในยุทธจักรยังอยากจะแก้ตัวอะไรอีก แต่หลี่มู่ไม่ให้โอกาส

“ในเมื่อมาแล้ว เช่นนั้นข้าคงปล่อยให้พวกเจ้ามาเสียเที่ยวไม่ได้…” ในใจของหลี่มู่มีความคิดอะไรไว้นานแล้ว เขาตวาดขึ้น “ทหาร เตรียมหมึกพู่กัน”

มือปราบที่รอคำสั่งอยู่นอกที่ว่าการเข้ามาอย่างรวดเร็ว จากนั้นวางโต๊ะ ข้างบนวางหมึกพู่กันไว้พร้อม

“มีตัวเลือกให้พวกเจ้าสองข้อ เขียนหนังสือประกันตัวดีๆ จากนั้นก็ไปที่คุกรอคนมาประกันตัว” หลี่มู่ติดอกติดใจกับบทบาทราชาปีศาจ พูดด้วยจิตสังหารพวยพุ่ง “ไม่เช่นนั้นก็ข้าส่งพวกเจ้าไปปรโลก”

“นี่…”

“ใต้เท้า ท่าน…มะ…มันข่มขู่กันเกินไปหน่อยกระมัง”

“นี่มันจะบังคับขู่เข็ญกันเกินไปแล้ว พวกเรามาที่นี่ก็เพื่อจ่ายเงินค่าไถ่ ใต้เท้า…ถ้าเรื่องลือออกไป ความน่าเชื่อถือของใต้เท้าก็หมดสิ้นแล้ว”

จอมยุทธ์หน้าเก่าทั้งหลายพูดอึกอัก

หลี่มู่หัวเราะเสียงเย็น

“ถ้าจ่ายค่าไถ่อย่างว่าง่าย ข้าปล่อยพวกเจ้าไปตั้งนานแล้ว แต่พวกเจ้ากลับอิดออด ทดลองความอดทนของข้าและล้ำเส้นหลายครั้ง วันนี้ยังมาหาถึงที่อย่างดุดันอีก หากมิใช่ข้าเยี่ยมยุทธ์ไร้เทียมทาน เกรงว่าพวกเจ้าคงวางแผนจัดการข้าไปแล้ว…ไม่ต้องพูดให้มากความ ตัดสินเอาเองก็แล้วกัน เขียนรอด ไม่เขียนตาย!”

เหล่าจอมยุทธ์อาวุโสทั้งหลายจนคำพูด

เรื่องนี้พวกเขาสู้ด้วยเหตุผลไม่ได้จริงๆ

หากไม่เห็นท่าทางเหี้ยมโหดของราชาปีศาจหลี่มู่ พวกเขาแต่เดิมวางแผนว่าจะรวมตัวกันโจมตี สร้างความลำบากให้กับที่ว่าการอำเภอขาวพิสุทธิ์

หลี่มู่ไม่ปล่อยให้พวกจิ้งจอกเฒ่าพวกนี้ได้แก้ตัวอีกต่อไป

เขากวาดตามองจอมเวทวัยกลางคนชุดดำและเด็กชายข้างกายที่อยู่หน้าประตูที่ว่าการ แต่ก็ไม่ได้สนใจ หมุนตัว หยิบพู่กันขึ้นมา เอียงหัวขบคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วจึงเขียนไปบนกระดาษอย่างคล่องแคล้วลื่นไหล

ในช่วงที่ผ่านมานี้ ราชาปีศาจพอจะเข้าใจอักษรของโลกนี้บ้างแล้ว แต่ลายมือพูดได้ยากว่าสวย โย้เย้ยึกยือราวงูเลื้อย เขาเขียนอะไรมากมาย จากนั้นก็ตรวจทานอย่างละเอียดอีกหลายรอบ แล้วจึงจะโยนพู่กันไปอีกด้าน

“ของที่ข้าเขียนบนกระดาษแผ่นนี้ ใครเอามาได้ก็จะไปจากอำเภอขาวพิสุทธิ์ได้อย่างปลอดภัย หึๆ ของทั้งหมดสิบกว่าอย่าง เอามาก่อนปล่อยก่อน หากข้ารวบรวมสิ่งของที่อยู่บนนี้ได้ครบแล้ว คนไม่กระตือรือร้นที่เหลือก็อยู่ต่อที่อำเภอขาวพิสุทธิ์ให้ดีๆ แล้วรับโทษบำเพ็ญประโยชน์ไปเสียเถอะ ชั่วชีวิตนี้ไม่ต้องคิดจะออกไปจากที่นี่แล้ว”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมศาสตราพลิกดารา