จอมศาสตราพลิกดารา นิยาย บท 145

เสียงกร๊อบดังขึ้นเบาๆ แต่กลับเหมือนค้อนหนักๆ ทุบกลางใจของคนโรงฝึกยุทธ์กระบี่สวรรค์ทุกคนเข้าอย่างจัง

หลี่มู่โยนจางชุยเสวี่ยที่คอหักไปบนพื้นตามอารมณ์เหมือนเป็นตุ๊กตาผ้าเก่าขาดๆ

“นี่คือข้อเรียกร้องที่ข้าต้องการ…หัวหน้าโรงฝึกจาง หากไม่พอใจก็มาหาข้าได้ทุกเมื่อ ช่วงนี้ข้าอยู่ในเมืองฉางอันเขตตรอกไล่หมู”

หลี่มู่เก็บมือกลับมา ลูบหัวเสือดาวเบญจมาศเบาๆ

“พวกเราไป”

เขาพุ่งออกไปนอกโรงฝึกราวกับบิน

เสือดาวเบญจมาศคำรามเสียงต่ำ มองไปยังคนที่สวมชุดเครื่องแบบของโรงฝึกยุทธ์กระบี่สวรรค์ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเคียดแค้น

แต่มันก็ยังคงฟังคำของหลี่มู่ คำรามอย่างโมโหก่อนจะตามหลังเขาไปติดๆ

เสือดาวคือราชันแห่งพงไพร กระโดดทีเสมือนบิน เสือดาวเบญจมาศยิ่งเป็นสัตว์ป่าอสุรกายในเขาขาวพิสุทธิ์ ต่อให้แบกเซี่ยจวี๋และร่างของชิวอี้ก็ยังคงกระโดดได้ประหนึ่งบิน รวดเร็วราวกับสายฟ้า ตามหลี่มู่ที่ความเร็วช้าลงเล็กน้อยไป

“สกัดพวกมันไว้!”

มีคนตะโกนขึ้น

จางเฉิงเฟิงโบกมือด้วยสีหน้าเหี้ยมโหด “ไม่ต้องตามแล้ว”

“หัวหน้า?”

เหล่าลูกศิษย์ของโรงฝึกยุทธ์และบรรดาผู้นำระดับสูงต่างมองมายังจางเฉิงเฟิง

จางเฉิงเฟิงเดินไป อุ้มร่างของจางชุยเสวี่ยขึ้นมา บุตรชายถูกสังหารต่อหน้าต่อตา ในใจของเขาจะไม่โกรธแค้นได้อย่างไร พูดได้ว่าโกรธแค้นจนแทบคลั่งด้วยซ้ำ แต่ว่าถึงตามหลี่มู่ไปก็หยุดเขาเอาไว้ไม่ได้ ยิ่งพลังสูงเท่าใด ยิ่งรู้ดีว่าสุดยอดฝีมือขั้นยอดปรมาจารย์น่ากลัวเพียงใด นั่นไม่ใช่ขอบเขตที่พลังของมนุษย์จะเทียบชั้นได้ ตอนนี้ไปขัดขวางก็เป็นการรนหาที่ตายเท่านั้น

ต่อให้เป็นเขาก็ขวางผู้แข็งแกร่งขั้นยอดปรมาจารย์ไม่ได้

ในเมื่อเขายังข้ามก้าวสุดท้ายนั่นไปไม่ได้เลย

“หัวหน้า หรือว่าจะปล่อยไปเช่นนี้? ความแค้นของหัวหน้าโรงฝึกน้อยจะต้องคิดบัญชีให้จงได้ มิฉะนั้นหากข่าวลือแพร่ออกไป ชื่อเสียงและบารมีของโรงฝึกยุทธ์เราจะพังพินาศในชั่วข้ามคืน อีกทั้งเขาวงกตใต้ดินพังทลายลง พวกเราเสียหายสาหัสเลยนะ” ผู้อาวุโสหลู่กล้ำกลืนความเจ็บใจไม่ไหว ก่อนหน้านี้หลี่มู่ซัดจนเขากระเด็น ในใจโกรธแค้นอับอาย ยังคิดอยากให้จางเฉิงเฟิงจับหลี่มู่แก้แค้น

“ใช่แล้ว ท่านอาจารย์ เจ้านี่มันกำเริบเสิบสาน สังหารศิษย์น้อง ข้ากับมันอยู่ร่วมโลกกันไม่ได้” ชายหนุ่มอายุประมาณยี่สิบกว่าๆ สีหน้าเคืองแค้นต่อความอยุติธรรม เขาเป็นหนึ่งในลูกศิษย์สายตรงของจางเฉิงเฟิง ตอนนี้กำลังแสดงความจงรักภักดีให้เห็น

ศิษย์คนอื่นๆ ทำท่าทางเหมือนมีศัตรูแค้นร่วมกัน

จางเฉิงเฟิงอุ้มจางชุยเสวี่ย สีหน้าท่าทางเศร้าโศกและโหดเหี้ยม

“แน่นอนว่าไม่มีทางปล่อยไปแบบนี้…เชิญบรรพชนออกจากการกักตน” เขาพูดเน้นทีละคำ “ในเมืองฉางอันมียอดปรมาจารย์แค่คนเดียวเสียเมื่อไหร่…คนต่างถิ่นคิดจะเอามือปิดแผ่นฟ้า หึๆ โรงฝึกยุทธ์กระบี่สวรรค์ของข้าก็มีพลังที่สังหารยอดปรมาจารย์เช่นกัน”

……

หลังจากนั้นหนึ่งเค่อ[1]

หลี่มู่กลับมายังตรอกไล่หมู

มารดาหลี่มู่และคนอื่นๆ ในที่สุดก็รอหลี่มู่กลับมาจนได้ เห็นเซี่ยจวี๋ปลอดภัยกลับมาก็ต่างดีใจ แต่เมื่อได้ยินข่าวการตายของชิวอี้ก็เศร้าโศกเหลือคณนา

“ชิวอี้ที่น่าสงสารของข้า…” มารดาหลี่มู่น้ำตานอง

หลายปีมานี้ ท่านแม่หลี่มู่พึ่งพาการดูแลรับใช้จากบ่าวสาวสามสี่คนนี้ถึงได้มีชีวิตรอด คุณหนูผู้มีชาติตระกูลสูงศักดิ์เช่นนาง สิ่งที่ได้ร่ำเรียนมาก็ล้วนเป็นมารยาทชนชั้นสูง การวางตัว การวิจารณ์งานศิลปะ วิจารณ์บทกวี ไม่เคยเข้าครัว เมื่อโดนขับไล่ออกจากจวนสกุลหลี่ก็แทบจะอยู่ในสภาพจนตรอก ดีที่มีชุนเช่า เซี่ยจวี๋ ชิวอี้ และตงเสวี่ยสาวใช้ทั้งสี่ปกป้องอย่างสุดกำลัง ไม่เช่นนั้นเกรงว่าคงมีชีวิตมาไม่ถึงวันนี้ ด้วยเหตุนี้สาวใช้ทั้งสี่จึงเปรียบเสมือนลูกสาวในใจของนาง เมื่อได้ยินข่าวความตายของชิวอี้ จะไม่ให้นางเศร้าโศกได้อย่างไร

หลี่มู่รีบปลอบประโลม

ชุนเฉ่าและเซี่ยจวี๋ก็ต่างพูดปลอบใจ

วันสองวันที่ผ่านมานี้ มารดาหลี่มู่เจอกับเรื่องดีเรื่องร้ายติดๆ กัน กระทบกระเทือนจิตใจเป็นอย่างมาก เพียงชั่วครู่ก็หลับไปแล้ว สาวใช้ทั้งสองเข้าห้องไปคอยปรนนิบัติรับใช้

ในตอนนี้เอง การปรับปรุงเขตที่พักอาศัยก็เสร็จสิ้น

อิทธิพลของเจิ้งฉุนเจี้ยนในเมืองฉางอันยิ่งใหญ่อย่างที่ว่าจริงๆ แค่เวลาเพียงครึ่งวัน การปรับปรุงที่พักอาศัยโดยพื้นฐานก็เสร็จสิ้นแล้ว ปลูกหญ้าเรียบร้อย ขุดบ่อน้ำใหม่ให้ใหญ่และแข็งแรงขึ้น ทั้งยังปลูกต้นไม้พืชพรรณต่างๆ กำแพงเปลี่ยนเป็นต้นไผ่ เขียวชอุ่มชุ่มชื่น การตบแต่งในสวนทั้งหมดเปลี่ยนโฉมใหม่โดยสิ้นเชิง ราวกับสวนดอกไม้ที่ทิวทัศน์สงบงดงามอย่างไรอย่างนั้น

กระท่อมหญ้าแฝกของมารดาหลี่มู่ไม่ถูกแตะต้อง เพราะนางมีใจผูกพันอย่างมาก

นอกจากนั้น ในสวนยังใช้ไม้หรือหินสร้างห้องขึ้นอีกหลายห้อง งดงามแปลกตาแบบโบราณ มีที่อยู่ใหม่ของมารดาหลี่มู่ มีที่พักของพวกชุนเฉ่า และมีที่พักของตัวเขาเอง รวมทั้งมีห้องฝึกยุทธ์ ห้องฝึกจิต และอาคารไม้สามชั้นหลังหนึ่งสูงห้าหกจั้ง เป็นสิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดในตรอก เมื่ออยู่บนนั้นจะมองเห็นทุกสิ่งที่อยู่รอบๆ ในระยะสองลี้ได้ทั่วทั้งหมด

รอบๆ เรือนพักยังมีธารน้ำลัดเลาะไหลผ่าน โดยใช้ระหัดวิดน้ำดึงน้ำจากบ่อน้ำเข้ามา น้ำไหลเป็นลำดับสูงต่ำ ช่างงดงามยิ่งนัก

เจิ้งฉุนเจี้ยนทุ่มเทเอาใจใส่เป็นอย่างดี

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมศาสตราพลิกดารา