ไม่นานนัก การขับร้องร่ายรำของฮวาเสี่ยงหรงก็จบลง นางยืนอยู่กลางบันได งามเลิศไร้ใครเทียม แสงจันทร์จับตัวบนร่าง ราวภาพความฝันอย่างไรอย่างนั้น
รอบกายเงียบสงัด
จากนั้นไม่รู้ว่าใครโห่ร้องขึ้นก่อน เสียงโห่ยินดี เสียงร้องตกใจ เสียงตะโกนฮือฮาราวขุนเขาคำรามทะเลคลั่งดังขึ้นมาอย่างมืดฟ้ามัวดิน ทำท่าจะกลบหน่วยเลี้ยงรับรองบนถนนกลิ่นกำจาย
สีหน้าของบางคนเปลี่ยนแล้วเปลี่ยนอีกเพราะตื่นเต้นและตกตะลึง บางคนตะโกนโดยไม่รู้ตัว แม้แต่ตัวเองก็ยังไม่เข้าใจว่าตะโกนอะไร เพียงแต่รู้สึกว่าหลังจากดูระบำเซียนบนโลกมนุษย์แบบนี้ ในสถานที่แบบนี้ ก็ต้องตะโกนอะไรบ้างถึงจะแสดงอารมณ์ของตนออกมาได้
ทั่วทั้งถนนกลิ่นกำจายคึกคักฮือฮา
ผู้ที่อารมณ์เดือดพล่านเหมือนกันยังคนมีขุนนาง คหบดี และเหล่าผู้ยิ่งใหญ่ด้านยุทธ์ตรงที่นั่งแขกผู้มีเกียรติหน้าเวทีหลัก รวมถึงในห้องส่วนตัวที่ดีที่สุดของภัตตาคารใหญ่ต่างๆ โดยรอบ ทั้งหมดแทบจะหมอบอยู่ตรงหน้าต่างห้อง ลมหายใจหอบกระชั้น ในดวงตาฉายแววตื่นตะลึง อยากครอบครอง รุ่มร้อน และมีอารมณ์ซับซ้อนต่างๆ
ไม่มีชายคนไหนไม่หวั่นไหวเพราะสตรีชุดขาวบนเวทีนางนั้น
และไม่มีหญิงคนไหนไม่อิจฉาสตรีชุดขาวบนเวทีที่ว่า
ต่อให้เป็นผู้ฝึกตนที่จิตใจนิ่งสงบเพียงใด ตอนนี้ก็ยากจะควบคุมอารมณ์ของตนได้ ถูกเซียนที่งดงามประหนึ่งไม่ใช่ส่วนหนึ่งของโลกบนเวทีช่วงชิงเอาวิญญาณไปแล้ว
สตรีผู้นี้น่าจะมีเพียงบนฟ้า บนโลกมนุษย์จะได้เห็นสักกี่หนกัน?
หลายคนใจหวั่นไหวแล้ว อยากจะกอดสตรีเช่นนี้เอาไว้ในอ้อมแขน ให้นางร้องไห้หรือยิ้มต่อหน้าตน ให้ทุกอย่างของนางเป็นของตัวเอง
ทว่า เมื่อคิดถึงตัวตนของผู้เป็นเลิศทั้งบู๊และบุ๋นที่ยืนอยู่ข้างหลังนางคนนั้น หลายคนก็ถอยแล้ว
หาเรื่องไม่ได้
เด็กหนุ่มชื่อหลี่มู่คนนั้นเป็นเทพสังหารที่โอหังไร้ซึ่งความหวาดกลัว
เทพขวางสังหารเทพ พุทธองค์ขวางสังหารพุทธองค์
แน่นอน ในนั้นก็ยังมีคนอีกกลุ่มหนึ่งไม่ยอมแพ้ ในใจกำลังขบคิดว่าจะใช้วิธีอื่นให้ได้นางคณิกาชื่อดังคนนี้มาครอง แต่โบราณมา อำนาจ ทรัพย์ สุรา และเมถุนเป็นสิ่งที่ทำให้คนบ้าคลั่งได้อยู่แล้ว
ในหมู่คนที่หวั่นไหวเพราะฮวาเสี่ยงหรง ก็รวมไปถึงองค์ชายสองแห่งจักรวรรดิที่นั่งอยู่ในห้องส่วนตัวบนชั้นสองของ ‘หอโอบจันทร์’ ด้วย
เพียงพริบตาที่การร่ายรำจบลง เขาพลันผุดลุกขึ้น สายตาที่มองฮวาเสี่ยงหรงเผยความปรารถนาจะครอบครองที่พบเห็นได้ยาก เสี้ยวขณะนั้นเขากระทั่งเกิดความรู้สึกชั่ววูบว่าอยากจะทิ้งแผ่นดินไปหาสาวงามขึ้นมา และยอมใช้ทุกอย่างที่มีตอนนี้แลกกับความรักของหญิงงามบนเวทีคนนั้น
มีสตรีงามแบบไหนที่เขาไม่เคยเห็น ไม่เคยได้ลิ้มรสกัน?
ต่อให้เป็นสตรีที่ตำแหน่งและฐานะสูงส่งกว่าฮวาเสี่ยงหรงพวกนั้น เมื่ออยู่ต่อหน้าเขาก็แล้วแต่เขาจะเลือก เขาเคยคิดอย่างแน่วแน่ว่าสตรีบนโลกก็แค่โครงกระดูก มีเพียงฐานะอำนาจและพลังเท่านั้นถึงจะเป็นของที่จริงแท้และสมบูรณ์แบบที่สุด
แต่ตอนนี้เขากลับใจหวั่นไหว
หวั่นไหวอย่างจริงแท้แน่นอน
หลิวเฉิงหลงที่อยู่ข้างๆ ก็สังเกตเห็นปฏิกิริยาขององค์ชายสอง
“องค์ชาย จะให้ส่งฮวาเสี่ยงหรงไปเมืองฉินหรือไม่?” เขาลองถาม
องค์ชายสองนั่งลงช้าๆ ถอนหายใจยาว กล่าวว่า “ทำให้เงียบเชียบหน่อย อย่าให้คนอื่นรู้” ใจเขาหวั่นไหวแล้วจริงๆ แต่ด้วยสติสัมปชัญญะที่มีมายาวนาน เขาจึงยังระงับเอาไว้ได้ ตอนนี้การช่วงชิงตำแหน่งจักรพรรดิดุเดือดเหมือนเพลิงโหมไหม้ หากรับนางคณิกาชื่อดังมาจริงๆ จะได้รับเสียงวิจารณ์อย่างมหาศาล ดังนั้น…คงต้องแอบเลี้ยงเอาไว้ในห้องทองคำเสียแล้ว
หลิวเฉิงตอบ “กระหม่อมเข้าใจแล้ว เพียงแต่…หลี่มู่ทางนั้น ด้วยกำลังของกระหม่อมเกรงว่าจะรับมือไม่ได้”
องค์ชายสองแย้มยิ้มเล็กน้อย ก่อนเอ่ย “แน่นอนว่ามีคนไปจัดการหลี่มู่แล้ว ตัวเองยังจะเอาตัวเองไม่รอด ไม่ต้องไปสนใจหรอก…หึๆ อีกทั้งคิดจริงหรือว่าปฏิเสธข้าติดๆ กันสามรอบ แล้วจะไม่ต้องจ่ายอะไรชดเชยบ้างเลย?”
……
บนเวทีหลัก ผู้ดูแลหน่วยเลี้ยงรับรองหกคนกำลังประกาศจำนวนตะกร้าดอกไม้เสียงดัง
“สมาพันธ์การค้าสมบูรณ์ผล ตบรางวัลแม่นางฮวาหนึ่งหมื่นตะกร้า…”
“สำนักบัณฑิตเสียงวิหคสวรรค์ ตบรางวัลแม่นางฮวาหนึ่งหมื่นตะกร้า…”
“สมาพันธ์การค้าเขาฉีซาน ตบรางวัลแม่นางฮวาห้าพันตะกร้า…”
“คุณชายจ้าวอู๋จี๋จากจวนสกุลจ้าว ตบรางวัลสามพันตะกร้า…”
“ที่ว่าการสำนักยุติธรรมเขตเมืองฝั่งตะวันออกตบรางวัลห้าพันตะกร้า…”
ผู้ดูแลทั้งหกล้วนเป็นผู้มีความสามารถด้านการพูดจาที่เลือกเฟ้นสรรหามาอย่างดี แต่ตอนนี้ปากแทบพอง รายงานออกมาไม่ไหวแล้ว กระดาษข้อความถูกส่งมาเป็นสาย กลายเป็นกองหนาต่อหน้าคนทั้งหก
“นายน้อยสมาพันธ์การค้าใต้หล้า ตบรางวัลหนึ่งแสนตะกร้า”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมศาสตราพลิกดารา