จอมศาสตราพลิกดารา นิยาย บท 351

การกอบกู้บัลลังก์ของราชวงศ์ต้าเยวี่ย เห็นได้ชัดว่าอยู่เหนือความคาดหมายของหลายๆ คน

ราชวงศ์ที่เคยถูกสำนักเทพหลายแห่งกดขี่ หายสาบสูญไปพันกว่าปี และถูกเข้าใจว่าคบค้ากับเทพปีศาจนอกพิภพ นำหายนะมาให้กับแผ่นดินใหญ่ ราชวงศ์ต้าเยวี่ยในอดีตปกครองพื้นที่ส่วนกลางของแผ่นดินใหญ่เสินโจว แต่สุดท้ายก็ยังคงถูกโค่นล้ม ดับสลายไปในละอองธุลีของประวัติศาสตร์ และดินแดนกว้างใหญ่ของราชวงศ์ต้าเยวี่ยในอดีตก็ถูกฉินตะวันตก ซ่งเหนือ และฉู่ใต้เข้าครอบครอง

หลายปีมานี้ สามจักรวรรดิร่วมมือกันข่มเหงและไล่จับพวกที่หลงเหลืออยู่ของราชวงศ์ต้าเยวี่ย กล่าวได้เลยว่าไม่ยอมลดละ

หลายร้อยปีมานี้ ราชวงศ์ต้าเยวี่ยพูดได้ว่าไร้ซึ่งร่องรอยไปโดยสมบูรณ์แล้ว

แต่ใครก็คิดไม่ถึงว่า หลังจากนั้นพันปีสายเลือดเชื้อพระวงศ์ของราชวงศ์ต้าเยวี่ยจะหวนคืนผืนแผ่นดินนี้อีกครั้ง อีกทั้งยังได้โอกาสที่ยอดเยี่ยมเพียงนี้ ฉวยโอกาสที่ฉินตะวันตกสภาพภายในและภายนอกน่าเป็นห่วง สำนักเทพพิทักษ์ซ่งเหนือสั่นคลอน เข้าควบคุมชายแดนเก้าเมืองเก้าพื้นที่ของฉินตะวันตกจากสิบเมืองเก้าพื้นที่

พวกราชวงศ์ต้าเยวี่ยที่หลงเหลืออยู่ใช้อุบายและพลังระดับสูงสุด

ข่าวลือต่างๆ นานาแพร่ออกไป

ที่แท้ กองทัพพันธมิตรที่เจ้าเมืองหลี่กังแห่งฉางอันและเจ้าเมืองเมืองใหญ่คนอื่นนำทัพในวันนั้น หลังจากโจมตีเข้าไปในชายแดนเมืองฝูเฟิงได้แล้ว ในชั่วเวลาสุดท้ายสถานการณ์กลับพลิกผัน พ่ายแพ้ยับเยิน ก็เป็นเพราะการใช้เล่ห์กลของขั้วอำนาจราชวงศ์ต้าเยวี่ยนั่นเอง เจิ้นซีอ๋องแอบจับมือกับเทพปีศาจนอกพิภพและขั้วอำนาจราชวงศ์ต้าเยวี่ย ผนึกกำลังกันในคืนนั้น ทำให้กองทัพพันธมิตรของพวก ‘เซียนกระบี่ธุลีแดง’ หลี่กังพ่ายแพ้ย่อยยับ

และขั้วอำนาจลึกลับที่ร่วมมือกับจักรวรรดิซ่งเหนือลอบโจมตีชายแดนฉินตะวันตกทั้งสิบเมืองเก้าพื้นที่ ก็คือราชวงศ์ต้าเยวี่ยเช่นกัน

ผ่านการต่อสู้มาพันปี ขั้วอำนาจราชวงศ์ต้าเยวี่ยจากอยู่ในที่แจ้งก็ลงไปอยู่ในที่มืด เหมือนรากไม้ที่เติบโตอย่างบ้าคลั่งอยู่ใต้ดิน ไม่เคยเผยให้เห็นบนผืนดิน ดังนั้นจึงไม่มีใครรู้ว่ารากไม้นี้เติบโตได้แข็งแกร่งหนาแน่นเพียงใด ฉินตะวันตกถูกแทรกซึมอย่างเงียบงัน สิบเมืองเก้าพื้นที่มีสามเมืองสามพื้นที่ถูกต้าเยวี่ยยึดครอง กระทั่งว่าเจ้าเมืองอวี๋เฟิ่งเสียนผู้ปกครองสูงสุดของเมืองเชียนหยางก็เป็นคนของราชวงศ์ต้าเยวี่ย ด้วยเหตุนี้จึงลอบโจมตีกองพันโองการฟ้าที่ ‘ขุนนางเทพสวรรค์’ ฉินเฟิ่นนำทัพได้

สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือ กองพันโองการฟ้าทรงแสนยานุภาพที่หลี่หยวนป้าทุ่มเทแรงกายแรงใจดูแล กล่าวได้ว่าแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก แต่สามกองกำลังในนั้น มีทหารชั้นยอดเกือบหนึ่งแสนนายถูกราชวงศ์ต้าเยวี่ยควบคุมเอาไว้ ซึ่งโจมตี ‘ทวนปราบอสูร’ หลี่หยวนป้าระดับถึงตายในช่วงเวลาสำคัญสุดท้าย ทำให้เขาพ่ายแพ้กลับเมืองขณะไม่ทันระวังตัว และเสียการควบคุมสิบเมืองเก้าพื้นที่ไปโดยปริยาย

ด้วยแผนการต่อเนื่องทั้งหมดนี้ ราชวงศ์ต้าเยวี่ยจึงยืนได้มั่นบนแผ่นดินใหญ่เสินโจวแล้ว

การเปิดเผยตัวตนของรัชทายาทแห่งต้าเยวี่ยอวี๋ฮว่าหลงดูเหมือนเป็นการล่อเป้าซึ่งไม่ค่อยฉลาดนัก แต่ที่จริงแล้วคือการปักธงลงบนแผ่นดินผืนนี้

มีธงผืนนี้อยู่ เหล่าลูกหลานและข้าราชการเก่าของราชวงศ์ต้าเยวี่ยถึงจะมาสวามิภักดิ์ไม่ขาดสาย

สำหรับคนทั่วไป เวลาพันปีอาจเกิดการเปลี่ยนแปลงนับไม่ถ้วน แต่สำหรับผู้แข็งแกร่งสายยุทธ์อาจเป็นแค่การสืบทอดสองสามรุ่นเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นความแค้นหรือความภักดีก็ส่งต่อไปได้ง่ายนัก สำนักบางแห่ง ตระกูลขุนนางสูงส่ง หรือผู้ฝึกไร้สังกัดที่ในอดีตภักดีต่อราชวงศ์ต้าเยวี่ยล้วนมีทายาทสืบทอด ในอดีตเคยสาบานว่าจะภักดีดังไปทั่วแผ่นดิน วันนี้เสียงนั้นดังกระหึ่มขึ้นอีกครั้ง

ปณิธานยังไม่มอดดับ

วันที่สามหลังจากถึงช่วงเซี่ยจื้อ ก็มีเรื่องใหญ่เกิดขึ้นอีกเรื่อง

รองเจ้าสำนักขั้นครึ่งเทวะจากสำนักเทพพิทักษ์จักรวรรดิฉินตะวันตกคนหนึ่งมาเยือนชายแดน พยายามจะสังหารรัชทายาทของต้าเยวี่ย วางแผนจะตัดหัวเขา ผลสุดท้ายกลับถูกรัชทายาทของต้าเยวี่ยอวี๋ฮว่าหลงตัดหัวที่ประตูเมืองฝั่งตะวันตกของเมืองหยกพิสุทธิ์ด้วยตัวเอง ข่าวแพร่กระจายออกไป ใต้หล้าสั่นสะเทือนอีกครา

ด้วยเหตุนี้เอง ชื่อเสียงของอวี๋ฮว่าหลงดังกระฉ่อนในทันที

นี่เป็นการประกาศต่อโลกว่ารัชทายาทของต้าเยวี่ยอาจจะก้าวสู่ขั้นเทวะแล้ว

และก็เป็นการบอกชัดด้วยว่า ราชวงศ์ต้าเยวี่ยที่ก่อตั้งขึ้นใหม่สามารถต้านทานขั้นเทวะได้

หลังจากข่าวเล่าลือออกไป ขั้วอำนาจที่แต่เดิมคิดจะลงมือกับราชวงศ์ต้าเยวี่ยซึ่งไร้ถิ่นฐานที่มั่นต่างหยุดความคิดอย่างหวาดกลัวทันใด

ส่วนฉินตะวันตกที่ไม่มี ‘เก้าสวรรค์ปิดชั้นฟ้า’ หลี่พั่วเยวี่ย และซ่งเหนือที่ไม่มีปรมาจารย์นักพรตเต้าฉงหยาง กลับทำอะไรราชวงศ์ในอดีตที่เฟื่องฟูขึ้นมาใหม่ไม่ได้เลย

สายตาจับจ้องไปยังอวี๋ฮว่าหลงรัชทายาทแห่งต้าเยวี่ยมากขึ้นเรื่อยๆ

ครึ่งปีกว่าก่อนหน้านี้ ชื่อเสียงระบือไปทั่วของไท่ไป๋อ๋องหลี่มู่ก็เกิดขึ้นกับอวี๋ฮว่าหลงเช่นกัน แต่ที่ต่างกันคือไม่ใช่การท้าตีท้าต่อยอย่างของหลี่มู่ เรื่องที่รัชทายาทต้าเยวี่ยทำล้วนเป็นเรื่องใหญ่สะท้านฟ้าสะเทือนแผ่นดิน ทุกอย่างในจักรวรรดิฉินตะวันตกที่เปลี่ยนไปแทบจะเกี่ยวกับเขาทั้งสิ้น นี่คือดวงดาวอันเจิดจรัสที่มีพร้อมทั้งพลังเฉพาะตัวและกลอุบาย สุดท้ายแล้วโลกมักจะตกเป็นของคนประเภทนี้

และสิ่งที่สำคัญไปกว่านั้นคือ ดูจากข่าวที่ราชวงศ์ต้าเยวี่ยปล่อยออกมา รัชทายาทของต้าเยวี่ยยังอ่อนวัยมาก อายุแน่นอนว่าไม่เกินสามสิบ

ไม่ว่าจะมองจากด้านไหน รัชทายาทแห่งต้าเยวี่ยก็นับว่าเป็นบุคคลระดับอัจฉริยะที่หาตัวจับได้ยากยิ่ง

เมื่อกลียุคมาเยือน วีรบุรุษปรากฏกายไม่ขาดสาย

บนแผ่นดินที่ไฟลุกโหมเผาไหม้ มักจะมีดวงดาวส่องประกายเสมอ

องค์รัชทายาทของต้าเยวี่ยก็คือหนึ่งในดวงดาวที่เริ่มส่องประกายอย่างไม่ต้องสงสัย

ทั้งยังเป็นดวงที่เจิดจ้าเป็นพิเศษด้วย

สิบเมืองเก้าพื้นที่ของเมืองชายแดน ตอนนี้เหลือแค่ด่านเมืองมังกรเล็กๆ นี้เท่านั้น เมืองถูกล้อมไว้ทั้งสี่ด้าน กลายเป็นดินแดนโดดเดี่ยวสถานที่อันตราย

ทว่า ราชวงศ์ต้าเยวี่ยกลับล้อมเอาไว้ไม่โจมตี

รัชทายาทต้าเยวี่ยบัญชาด้วยตัวเองว่า จะไม่โจมตีด่านเมืองมังกร

ข่าวนี้ชวนให้คนสงสัยนัก

และก็มีบางคนคาดเดาว่าเรื่องนี้อาจเกี่ยวกับหลี่มู่ไท่ไป๋อ๋องแห่งฉินตะวันตก

ถึงอย่างไร หลี่มู่ก็เคยใช้ดาบเดียวทำให้ทหารนับหมื่นต้องล่าถอยไปที่กำแพงเมืองของด่าน และทิ้งคำเตือนว่า ‘ไม่ใช่คนฉิน เข้ามาในเมืองแห่งนี้ต้องตาย’ เอาไว้

ครึ่งปีกว่าที่ผ่านมานี้ ไท่ไป๋อ๋องหลี่มู่หายตัวไปไร้ร่องรอย บางทีอาจซ่อนตัวอยู่ในด่านเมืองมังกรก็เป็นได้ และมีเพียงวิธีนี้เท่านั้นถึงจะอธิบายได้ว่าทำไมราชวงศ์ต้าเยวี่ยจึงปิดล้อมแต่ไม่โจมตีด่านเมืองมังกร อย่างไรเสียปฐมเทวะที่อายุน้อยเพียงนั้น ต่อให้เป็นรัชทายาทของต้าเยวี่ยก็ยังต้องให้ความสำคัญ ไม่มั่นใจเต็มร้อยก็ไม่มีทางลงมือ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมศาสตราพลิกดารา