จอมศาสตราพลิกดารา นิยาย บท 359

ไป๋ม่อโฉวเดินไปตามถนนเมืองขาวพิสุทธิ์อย่างตื่นตาตื่นใจ

นางสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายที่เก่าแก่บรรพกาล พลังฟ้าดินไม่เคยสัมผัสได้ง่ายขนาดนี้มาก่อน ราวกับยุคสมัยที่แสนจะเนิ่นนานก่อนหน้านี้ นี่ไม่ปกติชัดๆ นางมองหลี่มู่อย่างไม่พอใจ ชายน่ารังเกียจคนนี้สร้างบุญกุศลอะไรมาถึงได้ครอบครองดินแดนศักดิ์สิทธิ์เช่นนี้?

และในความจริง หลี่มู่ค่อนข้างตกใจเช่นกัน

ภายใต้การหล่อเลี้ยงจากค่ายกลฮวงจุ้ย ‘จุดรวมมังกร’ ผ่านไปเจ็ดแปดเดือน ความเข้มข้นของพลังฟ้าดินในเมืองขาวพิสุทธิ์ที่เป็นพื้นที่ใจกลางค่ายกลช่างชวนให้คนตะลึงนัก นี่ไม่ใช่สิ่งที่จะใช้เลขทบเท่าทวีมาบรรยายแล้ว และท่ามกลางพลังฟ้าดินเช่นนี้ กฎแห่งเต๋าก็เริ่มชัดเจนขึ้น ในการฝึกฝนของจอมยุทธ์จะมีประโยชน์เกินจริงอย่างไม่ต้องสงสัย

สิ่งที่เห็นได้ชัดที่สุดก็คือ พืชพันธุ์และสัตว์ต่างๆ ในเมืองขาวพิสุทธิ์ที่ดูดซับพลังฟ้าดินก็เริ่มเติบโตอย่างบ้าคลั่ง ถึงขั้นกลายพันธุ์

หลี่มู่เห็นต้นไม้โบราณบางต้นออกดอก แตกหน่อผลิใบ พลังชีวิตเกิดขึ้นใหม่ ผลไม้ของต้นไม้ธรรมดาชุ่มฉ่ำ ลูกโตเสียจนน่าตกใจ ในเทือกสวนไร่นาของชาวเมืองที่หักร้างถางพงไว้หลังบ้าน ผลผลิตของพืชผักธัญพืชก็น่าอัศจรรย์ แตงกวาลูกหนึ่งก็พอให้สมาชิกในบ้านสี่คนกินอิ่มได้หนึ่งมื้อแล้ว สัตว์ปีกที่พบเห็นได้น้อยในเมืองและควรจะอยู่ในป่าลึกก็ออกมาบินวน แมวบ้านตัวใหญ่ขนาดเสือดาว ดวงตาเต็มไปด้วยสติปัญญา ส่วนฝูงนกกระจอกก็เปล่งแสงคล้ายคลุมด้วยเมฆอรุโณทัย บนถนนไกลๆ เด็กผู้ชายอายุราวหกเจ็ดขวบ มือถือหอกไม้ ขี่อยู่บนหลังหมูดำตัวใหญ่เท่าลูกม้า ควบทะยานมาเหมือนทหารตัวน้อย ยังไม่ทันได้ร้องอุทาน ก็เห็นเด็กผู้หญิงข้างหลังสามสี่คนขี่ไก่ตัวผู้ตัวเท่านกกระจอกเทศผ่านมา หัวเราะยิ้มแย้ม ราวกับเซียนตัวน้อยขี่หงส์มาก็ไม่ปาน…

บรรลุกันหมดแล้วหรือ

ก่อนที่จะปรับปรุงแก้ไขค่ายกล ‘จุดรวมมังกร’ หลี่มู่ก็คิดไม่ถึงว่าจะทำให้เมืองอำเภอขาวพิสุทธิ์เปลี่ยนแปลงไปขนาดนี้

หากเป็นแบบนี้ต่อไป เมืองอำเภอจะมิกลายเป็นแดนเซียนไปจริงๆ หรือ?

ชื่อเสียงบารมีของหลี่มู่ในเมืองสูงมาก เขาแค่ปรากฏตัวก็แทบจะมาต้อนรับกันทั้งสองข้างทาง ชาวเมืองต่างมอบผักผลไม้ต่างๆ ที่ปลูกเองให้ แม้แต่เด็กน้อยก็ยังร้องเพลงกล่อมเด็กสรรเสริญหลี่มู่ที่ไม่รู้ว่าใครสอน…

หยวนโห่วเห็นผักผลไม้หลากหลายก็อยากกินจนน้ำลายไหล

“รับเอาไว้เถอะ” หลี่มู่ตอบ

ชาวเมืองไม่กลัววานรภูเขาขนทองตัวโตตัวนี้ ยัดผักผลไม้ไปในอ้อมแขนของหยวนโห่ว

ตอนนี้สัตว์มากมายในเมืองกลายพันธุ์ตัวใหญ่โต โลกกว้างใหญ่เรื่องอะไรก็มีทั้งนั้น ขนาดแม่ไก่ตัวใหญ่เท่านกกระจอกเทศยังมีเลย ดังนั้นลิงตัวใหญ่หนึ่งจั้งมีอะไรน่ากลัวกัน อีกทั้งลิงขนทองตัวนี้แบกกระบอง เดินตามหลังใต้เท้าขุนนางเมือง หน้าตาประจบประแจง ดูไปแล้วโง่งม คงเป็นเจ้าทึ่มที่ใต้เท้าขุนนางเมืองไปช่วยออกมาจากคณะละครลิงที่ไหนกระมัง?

เจ้าฮัสกี้แลบลิ้นห้อยออกมาอย่างติดนิสัย สีหน้าท่าทางโง่งมยิ่งกว่าหยวนโห่ว “โฮ่ง ข้าค่อนข้างจะชอบที่นี่แล้ว”

จากการต้อนรับอย่างกระตือรือร้นของขุนนางและชาวเมือง ไม่ต้องพูดอะไรมาก คนที่มาที่นี่ครั้งแรกอย่างเทพธิดาสงครามหรือไป๋ม่อโฉวต่างตกตะลึง

เทพธิดาสงครามเหมือนเห็นภาพเหล่าคนเลี้ยงสัตว์ในทุ่งหญ้าเคารพบูชาต้าเจ๋อเปี๋ยในตอนนั้น มิน่าเล่าต้าเจ๋อเปี๋ยจึงได้สาบานเป็นพี่น้องกับเขา นางรู้สึกว่าในกายของเด็กหนุ่มฉินตะวันตกคนนี้มีเสน่ห์บางอย่างที่ยากจะใช้คำพูดบรรยาย บนโลกใบนี้คนอื่นไม่มี กระทั่งต้าเจ๋อเปี๋ยก็ไม่มี เป็นบุคลิกที่เป็นเอกลักษณ์

ไป๋ม่อโฉวกลับเบ้ปากอย่างดูถูกยิ่ง “ฮึ อายุแค่นี้ก็รู้จักซื้อใจคน…เห็นมามากแล้ว ก็แค่พวกลวงโลกให้ได้ชื่อเสียงมา”

อย่างไรเสียหลี่มู่ก็ขัดหูขัดตานางอยู่แล้ว เห็นครั้งแรก ไม่สิ ได้ยินถิงเอ๋อร์พูดถึงหลี่มู่ครั้งแรกก็ต่อต้านสุดๆ พอได้เห็นหน้าก็ยิ่งต่อต้านเข้าไปใหญ่

โลกใบนี้บุรุษไม่ใช่พวกดีอะไร ต้องดูถิงเอ๋อร์ให้ดี สตรีดีที่สะอาดบริสุทธิ์เช่นนี้ จะปล่อยให้ผู้ชายตัวเหม็นมาฉกฉวยโอกาสไม่ได้เด็ดขาด

อีกทั้งยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้ไป๋ม่อโฉวหงุดหงิดคือ นางรู้สึกเลาๆ ว่าเทพธิดาสงครามที่มาจากที่ราบทุ่งหญ้าก็ดูท่าจะรู้สึกอะไรกับหลี่มู่อยู่นิดๆ เช่นกัน

นี่มันบ้าบอชัดๆ

ครั้งแรกที่ได้เห็นเทพธิดาสงครามกัวชิงเยียน ดวงตาก็ไป๋ม่อโฉวก็ลุกวาว

สาวงามที่สง่าเพริศแพร้วขนาดนี้ ช่างมีเอกลักษณ์โดดเด่นนัก โดยเฉพาะบุคลิกองอาจสง่างามแบบนั้น ยิ่งหาได้ยากยิ่ง ต่อให้เป็นไป๋ม่อโฉวที่เคยได้พบสาวงามขึ้นชื่อในห้วงดาราสมุทรมาไม่รู้เท่าไหร่ในชีวิตอันเนิ่นนาน ก็ยังถูกบุคลิกของสตรีที่ราบทุ่งหญ้าคนนี้ดึงดูดอย่างห้ามไม่ได้ นี่เป็นสตรีที่ดีไม่แพ้ถิงเอ๋อร์เลย อยากกอดเอาไว้ในอกลูบๆ คลำๆ เสียหน่อยแทบทนไม่ไหว

โดยเฉพาะท่าทีเย็นชากับผู้ชายคนอื่นของนาง ยิ่งทำให้ไป๋ม่อโฉวชื่นชม

ทว่าทำไมเทพธิดาแห่งสงครามกลับต้องทำดีกับหลี่มู่คนงี่เง่าผู้นี้ด้วย

ไป๋ม่อโฉวคิดๆ แล้วก็แทบจะกระอักเลือด

ทว่าเรื่องที่ทำให้นางต้องกระอักเลือดยิ่งกว่าอยู่หลังจากนี้

เมื่อเข้ามาในเรือนดาบ เห็นสวีหว่านเอ๋อร์ ลู่เซิ่งหนาน และสาวงามรวมสิบกว่าคนแย้มยิ้มคิกคักพุ่งตรงมาล้อมหลี่มู่เอาไว้ ทุกคนท่าทางกระตือรือร้นและเคารพบูชา ใจของไป๋ม่อโฉวใกล้จะแหลกละเอียดแล้วเต็มที ผู้หญิงสิบกว่าคนนี้ แต่ละคนเป็นหญิงงามหายากที่พร้อมด้วยรูปโฉมและปัญญา ทั้งยังมีบุคลิกเป็นเอกลักษณ์ ร่างกายมีท่วงทำนองแห่งเต๋าอยู่รางๆ เห็นชัดว่าเป็นคุณสมบัติกายฝึกฝนเต๋าที่โดดเด่นยิ่ง…โอ๊ย! ทำไมข้างกายผู้ชายสกปรกคนนี้ถึงได้มีสาวงามโดดเด่นหยาดเยิ้มมากมายขนาดนี้นะ

หลี่มู่เจ้าคนบัดซบจะต้องเป็นคนลวงโลกไร้ยางอายแน่นอน หลอกผู้หญิงมากมายขนาดนี้มาไว้ข้างกาย

ไป๋ม่อโฉววิเคราะห์อย่างมั่นใจ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมศาสตราพลิกดารา