จักรพรรดิมารหวนคืน นิยาย บท 136

บทที่ 136 แก่ชรา

เมื่อได้ยินประโยคนี้ สีหน้าของหยางอวู้ถิงก็เปลี่ยนไปทันที

“คุณพูดว่าอะไรนะ?” หยางอวู้ถิงสีหน้าเย็นชา มองไปที่หวางเม่ยอวู พร้อมขบเขี้ยวเคี้ยวฟันด้วยความเกลียดชัง

หลังจากที่หวางเม่ยอวูได้ยินแล้ว ใบหน้าก็สาดส่องรอยยิ้มที่ถากถางเข้ามา แล้วเปิดริมฝีปากสีแดงอีกครั้ง : “ในเมื่อคุณอยากจะฟัง งั้นฉันก็จะตอบสนองความต้องการของคุณ ถึงอย่างไร หยางอวู้ถิง คุณพี่หยาง ก็เคยขึ้นเตียงกับผู้ชายมาแล้วหลายคน เส้นสายกว้างขวาง ก็ต้องไว้หน้าให้สักหน่อย !”

“ครั้งนี้ คุณต้องฟังให้ดีดีนะ ฉันบอกว่า คุณคือ นังโสเภณีที่ไปกับผู้ชายอย่างนับไม่ถ้วน ทำไมฉันจะไม่รู้จักล่ะ?”

“ได้ยินชัดเจนหรือยัง?”

น้ำเสียงของหวางเม่ยอวูพลางถากถางพลางหยอกล้อ

ผู้หญิงคนนี้ เคยกล้าทำร้ายเฉินจิ้น หวางเม่ยอวูแม้แต่ความเป็นกุลสตรีของตัวเองก็ไม่ต้องการแล้ว พูดไม่ไว้หน้าเลยแม้แต่น้อย

เมื่อหยางอวู้ถิงได้ยิน สีหน้าก็ช่างดูแย่อย่างมาก

และในตอนนี้ ด้านหลังของหยางอวู้ถิง มีเสียงหนึ่งแผ่ซ่านเข้ามา : “อวู้ถิง!”

หลังจากที่ได้ยินเสียงนี้แล้ว สีหน้าที่ดูแย่ของหยางอวู้ถิง ก็หายไปในทันที

และเข้ามาแทนที่ด้วย ท่าทางที่อ่อนโยนและมีคุณธรรม

เธอเปลี่ยนสีหน้าได้อย่างรวดเร็ว แม้แต่หวางเม่ยอวูและเฉินจิ้น ต่างก็ตกตะลึงกันเล็กน้อย

“หยวนห้าว คุณมาแล้ว!”

หยางอวู้ถิงหันหลังกลับไป เดินไปยังหยวนห้าว

“ให้คุณรอนานแล้ว ขอโทษจริงๆนะ……”

บนใบหน้าของหยวนห้าวแสดงถึงความรู้สึกเสียใจ นัยน์ตา กลับเต็มไปด้วยความรักและทะนุถนอม

“ไม่เป็นไรๆ”

รอยยิ้มบนใบหน้าของหยางอวู้ถิงก็ยิ่งเพิ่มขึ้น พูดด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล

“สองท่านนั้นคือเพื่อนของคุณเหรอ?” สายตาของหยวนห้าวมองไปยังเฉินจิ้นและหวางเม่ยอวู สงสัยเล็กน้อย

เมื่อกี้ เหมือนว่าเขาจะเห็นตอนที่หยางอวู้ถิงกำลังพูดคุยกับสองคนนั้น

ถ้าเป็นเพื่อนกันละก็ เขาก็จะเสียมารยาทไม่ได้

เมื่อหยางอวู้ถิงได้ยินเข้า กลับว่าดึงแขนของเขาไว้ พร้อมพูดด้วยเสียงเบาๆ : “ไม่รู้จักค่ะ เรารีบไปสร้างความโรแมนติกของเรากันดีกว่าค่ะ ฉันรอนานมากแล้วนะคะ……”

โทนเสียง ยังคงนำมาซึ่งความออดอ้อน

เมื่อหยวนห้าวได้ยิน ก็ไม่ได้สืบหาความจริงอะไร ก็พาหยางอวู้ถิงไปยังช่องทางวีไอพีอีกด้านหนึ่งเลยทันที

หยางอวู้ถิงฉวยโอกาสตอนที่หยวนห้าวไม่สังเกต หันกลับไปมองเฉินจิ้นแวบหนึ่ง มุมปากเผยรอยยิ้มที่ดูถูกเหยียดหยาม

หลังจากนั้น ก็หันหน้ากลับมาอย่างรวดเร็ว ไปคลอเคลียกับหยวนห้าว

เธอตัดสินใจแล้ว ก่อนที่จะแต่งงานเข้ามายังบ้านตระกูลหยวน ต้องเจียมเนื้อเจียมตัว เพื่อที่จะไม่ให้โดนเปิดเผยกําพืด

อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลานี้ เสียงๆหนึ่ง กลับว่าจู่ๆก็ดังขึ้นมาในทันที

“คุณหยางอวู้ถิง นี่คือกลัวโดนพวกเราเปิดเผยกำพืด ก็เลยแสร้งทำเป็นไม่รู้จักงั้นเหรอ?”

ได้ยินเสียงๆนี้แล้ว รูปร่างของหยางอวู้ถิงก็แน่นตึงขึ้นเล็กน้อย

เรียกชื่อของเธอโดยตรง หากเธอจะแสร้งเป็นไม่ได้ยิน ไม่ได้เรียกเธอ ก็คงจะเป็นไปไม่ได้

หยวนห้าวในตอนนั้นก็หันกลับมา มองไปยังหวางเม่ยอวู มีความสงสัยเล็กน้อย

ตอนที่หยวนห้าวเตรียมจะเอ่ยปากถาม หยางอวู้ถิงเอนตัวไปที่ข้างหูของเขาทันที ใช้เสียงที่พวกเขาได้ยินกันแค่สองคน พูดด้วยน้ำเสียงเบาๆ “เป็นเพื่อนสมัยเรียนของฉันค่ะ หลังจากที่เรียนจบแล้ว ก็หลอกเงินไปทั่ว สองวันก่อนเพื่อนก็ยังโทรมาหาฉัน เตือนฉันให้ระวังพวกเขาสองคนหน่อย ถ้าหากเจอว่าพวกเขามาขอยืมเงิน ห้ามให้พวกเขายืมเด็ดขาด เพื่อนร่วมห้องสมัยเรียนส่วนใหญ่ ต่างก็โดนพวกเขาใช้ข้ออ้างที่ไม่เหมือนกัน หลอกเงินไปไม่น้อยเลย ฉันคิดว่า เป็นเพื่อนเก่าเพื่อนแก่กัน ก็ไว้หน้าให้สักหน่อย ไม่อยากให้เขายืมเงิน ก็เลยแสร้งทำเป็นไม่รู้จัก คิดไม่ถึงว่าพวกเขาจะไม่มียางอายอย่างนี้”

หยวนห้าวขมวดคิ้วแน่น

หยางอวู้ถิงยังคงพูดต่ออีก : “ช่างมันเถอะค่ะ พวกเราอย่าไปสนใจพวกเขาเลย ไม่อย่างนั้น อาจจะเล่นลูกไม้อะไรออกมาอีก อย่าให้คนสองคนที่ไม่มีความสำคัญอะไร มามีผลกระทบต่อเราเลยค่ะ”

น้ำเสียงของหยางอวู้ถิงทุ้มต่ำมาก มีเพียงเธอและหยวนห้าวที่ได้ยิน

หยวนห้าวพยักหน้า

มองไปยังนัยน์ตาของเธอ เต็มไปด้วยความรักทะนุถนอม

เขายอมเชื่อฟังและคล้อยตามหยางอวู้ถิงทุกอย่างมาโดยตลอด

ตอนนี้ ก็ยอมเชื่อฟังหยางอวู้ถิงไปโดยปริยาย

ถึงอย่างไรก็ตาม หยางอวู้ถิงกลับไม่รู้ว่า เฉินจิ้นและหวางเม่ยอวู ความสามารถในการฟังของทั้งสอง ในตอนนี้แข็งแกร่งมากแค่ไหน

คำพูดของหยางอวู้ถิง แต่ละคำแต่ละประโยค ไม่ขาดแม้แต่คำเดียว ข้อความทั้งหมดต่างก็เข้ามายังรูหูของทั้งสองแล้ว

หวางเม่ยอวูในตอนนั้น ในที่สุดก็ได้รู้ถึงความหน้าด้านของผู้หญิงคนนี้แล้ว

อยากจะเอ่ยปากพูดอีก

เฉินจิ้นกลับยื่นมือมารั้งเธอไว้แล้ว

“ด้วยฐานะของคุณ ทำไมต้องไปฉีกหน้าเธอเองด้วย ทำแบบนั้น ไม่ยิ่งจะยกระดับให้เธอดูสูงส่งเหรอ!”

เฉินจิ้นเอ่ยปากพูด

หวางเม่ยอวูจะไม่รู้เหตุผลนี้ได้อย่างไรกัน แต่เธอไม่อาจจะทนดูผู้หญิงคนนี้ได้ โดยเฉพาะที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับเฉินจิ้น

แม้ว่าจะต้องลดระดับตัวเองให้ต่ำลงก็ตาม เธอก็ยังคงทนไม่ไหวอยู่ดี

แต่ในเวลานี้หลังจากที่ได้ยินคำพูดของเฉินจิ้น หวางเม่ยอวูฉีกยิ้มแบบฝืนๆ ก็ไม่ได้เปิดปากพูดอะไรอีก ฟังคำพูดของเฉินจิ้นอย่างเชื่อฟัง

หลังจากนั้น เฉินจิ้นก็มองไปทางหยางอวู้ถิงอีกครั้ง

ในแววตาทั้งคู่ สาดส่องเจตนาฆ่าที่เสมือนจริงออกมา

ถ้าหากคุณยังกล้ามายั่วยุให้ฉันโมโหอีก งั้นจะมาโทษฉันไม่ได้นะ

เฉินจิ้นยื่นมือออกไปทันที นิ้วมืออยู่กลางอากาศ เหมือนว่าเขียนพู่กันจีนอย่างงดงามและอ่อนโยนยังไงอย่างนั้น ยันต์เพียงสองสามตัว ทันใดนั้นปลายนิ้วของเฉินจิ้น วาดเป็นเค้าโครงออกมาแล้ว

“ไป!”

น้ำเสียงของเฉินจิ้นเย็นชา

ทันใดนั้น ยันต์สองสามตัวนั้น พุ่งเข้าไปยังหยวนห้าว

“คุณดูให้ดีๆว่าเธอเป็นคนยังไงกันแน่!”

เฉินจิ้นพูดด้วยน้ำเสียงที่ยิ้มเยาะ

หยวนห้าวที่เดิมทีวางแผนจะพาหยางอวู้ถิงออกไป ภายในใจ จู่ๆก็ปรากฏภาพออกมาให้เห็นมากมาย

ในภาพแต่ละภาพ ต่างก็มีผู้หญิงคนเดียวกัน

ผู้หญิงคนนี้ ก็คือหยางอวู้ถิงที่อยู่ข้างกายของเขา

แต่ว่า ความแตกต่างของแต่ละภาพนี้อยู่ที่ ข้างกายของหยางอวู้ถิง กลับมีผู้ชายที่ไม่ซ้ำหน้ากัน

อีกอย่างเธอกับผู้ชายทุกคน ต่างก็มีท่าทางที่แนบชิดสนิทสนมกันแบบนั้น เมื่ออยู่ด้วยกัน

ขอแค่เป็นคนปกติ ต่างก็ตัดสินได้ว่า ทั้งสองคนเป็นอะไรกัน

ภาพเหล่านี้ อยู่ในใจของหยวนห้าว สาดส่องเข้ามาอย่างไม่หยุดหย่อน

สีหน้าของหยวนห้าว ยิ่งอยู่ก็ยิ่งจะดูแย่มากขึ้น

“อวู้ถิง คุณ……” จู่ๆหยวนห้าวก็หันหน้าไปยัง หยางอวู้ถิงที่ยังคงกอดแขนของตัวเองเอาไว้เช่นเดิม

หยางอวู้ถิงเงยหน้าขึ้น มองไปยังหยวนห้าว ใบหน้ากลับเผยรอยยิ้มที่ชาญฉลาดออกมา : “เป็นอะไรไปเหรอคะ?”

น้ำเสียงของเธอ ไพเราะเสนาะหู

“เมื่อกี้ ที่คุณพูดเป็นเรื่องจริงเหรอ?” จู่ๆหยวนห้าวก็พูดออกมา กล่าวถามอีกครั้ง

บนใบหน้าของหยางอวู้ถิง สีหน้าและท่าทางไม่เปลี่ยนแปลงเลยสักนิด แต่ในใจ กลับว่าตกตะลึงในทันที

แต่ว่า เขาก็กระซิบพูดเบาๆทันที : “ใช่นะสิคะ!”

แต่ทว่า สีหน้าของหยวนห้าว กลับยิ่งดูแย่ขึ้นไปอีก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิมารหวนคืน