กู้เจี้ยนกั๋วตกตะลึง มองครัฟฟ์แล้วอยากจะร้องไห้ รู้สึกอึดอัดเพราะตนเองขัดแย้งกับทั้งสองฝ่าย
ฉินเจี้ยนจังเหลือบมองกู้หยุนหลันและหลี่โม่ เริ่มไตร่ตรองข้อมูลที่เขาได้รับมา ดูเหมือนว่าคราวนี้คนที่นายจ้างต้องการเล่นงานคือหลี่โม่
กู้ซิงเว๋ยกระแทกหมัดลงบนโต๊ะอย่างโกรธจัด และกล่าวอย่างไม่พอใจว่า “ทำไมต้องเป็นคำขอของหลี่โม่! พวกเราไม่ใช่หุ้นส่วนธุรกิจของคุณหรือ ทำไมคุณต้องเลือกปฏิบัติต่อพวกเขาแตกต่างกันเช่นนี้!”
“เป็นเพราะว่านี่คือการจัดเตรียมของพระเจ้า ผมสรรเสริญพระเจ้า ดังนั้นผมจึงเชื่อมั่นในการนำทางของพระเจ้า”
แสงศักดิ์สิทธิ์ส่องลงบนใบหน้าของครัฟฟ์ ราวกับว่าเขาเป็นนักบวชเก่า
กู้เจี้ยนเจียงดึงกู้ซิงเว๋ย และกระซิบว่า “คุณต้องอดทน อย่าสร้างปัญหาในเวลานี้ ตอนนี้คนที่พึ่งพาได้มีแค่คุณครัฟฟ์คนเดียวเท่านั้น ถ้าคุณครัฟฟ์ไม่ช่วยเหลือ พวกเราก็ไม่มีวิธีอื่นอีกแล้ว”
“ทำไมจะไม่มีวิธีอื่น บริษัทของเราก็มีเจ้าหน้าที่กฎหมายอยู่ ถ้าทำไม่ได้จริง ๆ พวกเราก็จ้างทนาย ผมไม่เชื่อหรอก ว่าไอ้คนเลวที่ยุยงให้ดำเนินคดีและหากำไร จะสามารถมาขี่อยู่บนหัวพวกเราได้!”
กู้ซิงเว๋ยกล่าวคำรามและชี้ไปที่ฉินเจี้ยนจัง
ฉินเจี้ยนจังจัดเสื้อผ้าของตนเอง และกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “คนที่มาทำงานด้านกฎหมายในบริษัท ล้วนแต่เป็นทนายขยะที่ไม่สามารถอยู่รอดข้างนอกได้ ถึงแม้ว่าพวกคุณจะจ้างทนาย หึๆ พวกคุณลองดูได้ ว่ามีใครที่กล้าโต้เถียงกับผมฉินเจี้ยนจังอยู่ในศาล!”
สำหรับความสำเร็จหรือความล้มเหลวของคดีความ ฉินเจี้ยนจังมีความมั่นใจเป็นอย่างมาก เพราะด้วยชื่อเสียงของเขา ไม่มีใครอยากเป็นคู่ต่อสู้ของฉินเจี้ยนจังในคดีความทางด้านการแพทย์
กู้เจี้ยนกั๋วไม่อยากลดตัวไปขอร้องกู้หยุนหลันให้ช่วยพูดกับครัฟฟ์ แต่เขาก็ไม่ต้องการให้ฉินเจี้ยนจังหยิ่งผยอง ดังนั้นเขาจึงตบโต๊ะและตะโกนใส่เลขานุการว่า “ไปเรียกนักกฎหมายมา เลี้ยงพวกเขาไม่ใช่ให้เสียข้าวสุก!”
“ค่ะ ฉันจะไปตอนนี้เลย”
เลขาวิ่งออกไป ไม่ช้าก็พาเจ้าหน้าที่กฎหมายเดินเข้ามา
เมื่อเจ้าหน้าที่กฎหมายได้ยินชื่อของฉินเจี้ยนจัง รู้สึกขี้ขลาดตาขาวเป็นอย่างมาก หลังจากเข้าไปในห้องประชุมแล้ว เขามองฉินเจี้ยนจังอย่างระมัดระวัง
“ฉิน....อาจารย์ฉิน ทำไมคุณถึงมาที่นี่? ฉันเป็นนักศึกษาวิจัยของศาสตราจารย์หลัว อาจารย์หลัวกับคุณเป็นศิษย์พี่ศิษย์น้องกัน ฝ่ายกฎหมายทำงานอย่างหนักเพื่อสร้างความสัมพันธ์ หวังว่าทุกเรื่องจะจบสงบลงด้วยการสื่อสาร”
ฉินเจี้ยนจังเหลือบมองเจ้าหน้าที่กฎหมาย ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเหยียดหยาม
“ศาสตราจารย์หลัว เขามีค่าควรที่จะเป็นศาสตราจารย์ด้วยเหรอ? นักเรียนที่เขาสอนออกมาก็ไม่มีความสามารถเหมือนคุณนั่นแหละ อย่ามาสร้างนับญาติกับผม ตอนที่ผมฟ้องคดีความ ผมไม่นับญาติกับใครทั้งนั้น”
เจ้าหน้าที่กฎหมายหน้าแดงทันที และเดินไปอยู่ข้างกู้เจี้ยนกั๋วด้วยความอับอาย
“ไม่ใช่ว่าฉันไม่ได้เรื่อง แต่เขาเป็นคนที่เก่งที่สุดในคดีทางการแพทย์ ความสามารถของฉันกับเขาต่างกันมาก ตอนนี้ฉันไม่สามารถคุยกับเขาได้เลย และไม่สามารถชนะคดีนี้ได้เช่นกัน”
กู้เจี้ยนกั๋วพอจะรู้เรื่องกฎหมายบ้าง และรู้ว่าระดับความรู้ของเจ้าหน้าที่กฎหมายของบริษัทเป็นยังไง ถ้าให้จัดการคดีความธรรมดาทั่วไปก็ไม่มีปัญหา หากเป็นคดีที่ต้องขึ้นศาลและทำคดีฟ้องร้องกับฉินเจี้ยนจัง กู้เจี้ยนกั๋วเป็นคนแรกที่กังวลไม่ไว้ใจเจ้าหน้าที่กฎหมายของบริษัทตนเอง
“ไม่ได้ให้คุณไปขึ้นศาลฟ้องร้องคดีความกับเขา คุณรีบไปหาทนายที่สามารถโต้แย้งกับเขาได้ จัดการติดต่อตอนนี้เลย!”
กู้เจี้ยนกั๋วกล่าว
เจ้าหน้าที่กฎหมายครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง พลิกดูข้อมูลที่อยู่ในโทรศัพท์แล้วกล่าวว่า “อาจารย์ฉินถือเป็นบุคคลที่เก่งเป็นอันดับหนึ่งในคดีความทางการแพทย์ของเมืองจีน และศาสตราจารย์เฉินและศาสตราจารย์กาวเป็นคนเก่งที่ยังเหลืออยู่ ฉันจะติดต่อพวกเขาทั้งหมด”
กู้เจี้ยนกั๋วพยักหน้า รู้สึกว่ามีเพียงผู้ที่มีความสามารถอยู่ในระดับใกล้เคียงกับฉินเจี้ยนจังเท่านั้น ถึงจะสามารถระงับความเย่อหยิ่งของฉินเจี้ยนจังได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิมังกร
อ่านมาถึงตอน 263 เน่าสนิท ไอ้คนเขียนก็ช่างมีความอดทน มีแต่เรื่องดูถูกโง่ๆ หลายร้อยรอบ วนอยู่อย่างนั้น กุก็ทนอ่านอยู่ได้...
อ่านสนุกมากเลยครับ...