ท่านแปดไม่สนใจหน้าตาของตัวเองเลยแม้แต่น้อย เขาสารภาพความผิดต่อราชินีของสำนักหลงเหมินด้วยเสียงทุ้มต่ำ
ราชินีของสำนักหลงเหมินค่อนข้างพอใจกับท่าทางการแสดงออกของท่านแปด โดยยิ้มเล็กน้อยและพูดว่า “พอได้แล้ว แกไม่ต้องมาแสดงละครกับฉันที่นี่ ในใจของเจ้าต้องการอะไรฉันเข้าใจดี ขอเพียงแกทำงานให้ดี ต่อจากนี้จะเป็นวันที่เจ้าจะได้เชิดหน้าขึ้น”
จางเต๋ออู่ที่นวดมือของราชินีของสำนักหลงเหมินชะงักไปชั่วครู่ จากนั้นจึงได้นวดต่อ
จางเต๋ออู่มีความสงสัยเกี่ยวกับความคิดของราชินีของสำนักหลงเหมินเล็กน้อย เขาคิดว่ามันควรจะเป็นเวลาเชือดไก่ให้ลิงดู ใช้ชีวิตของท่านแปดมาสร้างอำนาจถึงจะถูก
แต่ทว่าจางเต๋ออู่กดทับคำถามนี้เอาไว้ในกดบึ้งของหัวใจ ตอนนี้บทบาทของเขาเป็นเพียงแค่ทาสคนหนึ่งเท่านั้น
ท่านแปดรู้สึกผ่อนคลายและมีความสุขขึ้นมาก เมื่อรู้ว่าเขาผ่านบททดสอบครั้งนี้แล้ว
“ขอบคุณสำหรับน้ำใจของท่าน จากนี้ผมจะตั้งใจทำงานอย่างหนัก และจะไม่ให้เกิดปัญหาเช่นนี้อีกโดยเด็ดขาด ถ้าหากมีเรื่องอะไรจะแจ้งให้ท่านทราบล่วงหน้าอย่างแน่นอน”
“แกเป็นคนฉลาด ฉันจะไม่พูดให้มากความแล้ว ในเมื่อแกบอกว่าต้องการแอบซ่อนตัวอยู่ข้างกายหลี่โม่เพื่อตามหากุญแจลับ ถ้าอย่างนั้นฉันจะเชื่อแก ฉันจะมอบธุรกิจของฉันให้กับเจ้าหกและเจ้าเจ็ดเป็นการชั่วคราวแล้วกันนะ เจ้าหากุญแจลับเจอเมื่อไหร่ค่อยกลับไปดูแลธุรกิจ เมื่อถึงตอนนั้นฉันยังจะให้รางวัลใหญ่กับแกด้วย”
ราชินีของสำนักหลงเหมินพูดอย่างเรียบเฉย ทำให้ท่านแปดสั่นสะท้านอย่างรุนแรงขึ้นมาทันที นี่คือการทำให้ตัวเองสูญเสียอำนาจทั้งหมด แล้วส่งมอบธุรกิจในมือในมือออกไป มันคือการเตะหมูเข้าปากหมา หากอยากจะได้คืนมาจากท่านหกและท่านเจ็ดนั่นไม่จำเป็นต้องคิดเลย
นับได้ว่าท่านแปดได้เจอกับประสบการณ์ที่เรียกว่าการทำร้ายตัวเองเข้าเสียแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นราชินีของสำนักหลงเหมินได้ทำลายเอวของท่านแปดด้วยหมัดนี้ ถ้าหากว่าหากุญแจลับไม่เจอแล้วล่ะก็ ต่อจากนี้ท่านแปดอย่าได้คิดที่จะเดินตัวตั้งตรงได้อีกเลย
ท่านแปดร้องไห้คร่ำครวญเสียงดัง “ผมกลัวว่าจะไม่ดีนะพี่หกและพี่เจ็ดมีงานมากมายอยู่ในมือ ทุกอย่างที่ผมรับผิดชอบล้วนแต่เป็นงานเล็กๆน้อยๆไม่เป็นชิ้นเป็นอัน ให้พวกเขามาจัดการมันไม่ค่อยจะเหมาะสม”
“ไม่มีอะไรที่ไม่เหมาะสม การหากุญแจลับให้เจอเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด เรื่องธุรกิจมันเป็นเพียงแค่การเอาหมูมาวางไว้ในตำแหน่งของแกเท่านั้นทุกอย่างสามารถจัดการได้ อย่าคิดว่าไม่มีแกแล้ว โลกจะไม่หมุน”
เมื่อเห็นท่าทีแน่วแน่ของราชินีของสำนักหลงเหมินแล้ว ท่านแปดก็ไม่กล้าพูดมากอีกแล้วพูดอย่างโศกเศร้าว่า “ถ้าอย่างนั้นผมจะตามหากุญแจลับอย่างสุดความสามารถ ถ้าหาก ถ้าหากว่า ผมหากุญแจลับไม่เจอล่ะครับ? ไม่ทราบว่าท่านมีเบาะแสเพิ่มเติมหรือไม่”
“ไม่มี ฉันเองก็ไม่เคยเห็นกุญแจลับของสำนักหลงเหมิน แกพยายามหาวิธีให้ดีที่สุดแล้วกัน ถ้าหาไม่เจอ แกไม่ต้องกลับมาที่สำนักหลงเหมินอีก เอาล่ะ ฉันเพลียนิดหน่อย แกกลับไปได้แล้ว”
ท่านแปดลังเลอยู่ครู่ “เจ้าแปดหวังว่าท่านจะสามารถช่วยได้”
“พูดมาสิ”
“หลี่โม่มักจะคอยระวังตัวกับผมเสมอ ผมสงสัยว่าจะต้องได้รับความไว้วางใจเขาหรือเปล่าถึงจะได้ผล เพราะฉะนั้น ตอนที่ท่านได้เจอกับหลี่โม่ บางทีเจ้าแปดอาจจะต้องทำเรื่องให้ท่านต้องขุ่นเคือง”
“ฮิๆ”
ราชินีของสำนักหลงเหมินหัวเราะเบาๆสองครั้ง แล้วพูดอย่างไม่แยแสว่า “ไม่เป็นไรนี่ แม้ว่าแกจะทำให้ขุ่นเคือง ขอเพียงหากุญแจลับเจอ แกจะทำให้ขุ่นเคืองกี่ครั้งก็ย่อมได้ แต่ถ้าหากแกหาไม่เจอล่ะก็ มันก็จะ เหอๆๆๆๆ”
เสียงหัวเราะที่คมชัดและกังวานราวกับระฆังทำให้ท่านแปดได้ยินแล้วขนพองสยองเกล้า
ถึงแม้ว่าราชินีไม่ได้พูดออกมา แต่ท่านแปดเข้าใจดีว่าหมายถึงอะไร มันไม่ใช่เรื่องดีอย่างแน่นอน ตระกูลถูกริบทรัพย์นั้นน่ากลัวว่าจะเป็นเรื่องที่เบาไป ความจริงคือจะต้องตายทั้งตระกูล
“ผมจะพยายามอย่างเต็มที่แน่นอน ไม่รบกวนองค์ราชินีแล้ว ขอทูลลา”
ท่านแปดโค้งคำนับแล้วถอยออกมาจากห้องโถง สาวใช้สองคนค่อยๆปิดประตูห้องนั่งเล่นลง
จางเต๋ออู่เงยหน้าขึ้นแล้วมองไปที่ราชินีของสำนักหลงเหมิน เขายิ้มแล้วพูดว่า “ท่านฉลาดจริงๆ แก้ปัญหาจากต้นตอเพียงครั้งเดียวก็สามารถตัดตอนท่านแปดได้แล้ว ต่อจากนี้ท่านแปดก็หัวเดียวกระเทียมลีบแล้ว แต่ธุรกิจของเขาได้มอบให้กับท่านหกและท่านเจ็ด ”
“สายตาของคุณยังตื้นเขินเกินไป ธุรกิจของเจ้าแปดมันเป็นเรื่องจุกจิกแบ่งให้กับเจ้าหกและเจ้าเจ็ด จะทำให้พวกเขาจองหองพองขนขึ้นมา คนเราน่ะ หลังจากพองตัวขึ้นแล้วก็ไม่รู้แล้วว่าตัวเองอยู่ในสถานะไหน”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิมังกร
อ่านมาถึงตอน 263 เน่าสนิท ไอ้คนเขียนก็ช่างมีความอดทน มีแต่เรื่องดูถูกโง่ๆ หลายร้อยรอบ วนอยู่อย่างนั้น กุก็ทนอ่านอยู่ได้...
อ่านสนุกมากเลยครับ...