เฮียหลงก้าวเท้ายาวๆนำลูกน้องเดินเข้ามาอย่างองอาจและยิ่งใหญ่ ทุกครั้งในขณะที่เขาเดินเช่นนี้ เฮียหลงจะรู้สึกพิเศษเสมอ ราวกับว่าตนเองได้กลายเป็นเสี่ยวหม่าเกอ (ตัวละครในภาพยนตร์เรื่องเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้)
ขณะที่เฮียหลงกำลังเดินไปพร้อมกับความรู้สึกนั้นก็มองเห็นเงาของสามคนปลิวโฉบผ่านหน้าไป
เฮ้ เงาของสามคนนั้นดูคุ้นมากๆ จากขนาดและเสื้อผ้าของทั้งสามคนแล้ว ดูเหมือนจะเป็นลูกน้องของเขาเอง!
ดวงตาของเฮียหลงเบิกโพลงขึ้นในพริบตาและมองไปทางร่างสูงใหญ่กำยำทั้งสามที่ปะทะเข้ากำแพงจนร่วงลงไปบนพื้นอย่างละเอียดถี่ถ้วนอีกครั้ง
ใช่เลย เป็นลูกน้องของเขาจริงๆด้วย!
แม่งเอ๊ยนี่มันเกิดอะไรขึ้น ลูกน้องทั้งสามคนนี้ล้วนมีชื่อเสียงว่าโหดเหี้ยม ผู้ที่กล้าต่อกรกับคนเป็นโหล ทำไมถึงปลิวไปแบบนั้น
ยอดฝีมือ จะต้องเป็นยอดฝีมืออย่างแน่นอน!
เฮียหลงมีปฏิกิริยาตอบสนองต่อสถานการณ์อย่างรวดเร็ว ผู้ที่จะสามารถทำร้ายชายฉกรรจ์ที่แข็งแกร่ของตนเองจนปลิวไปแบบนี้ได้จะต้องเป็นยอดฝีมือเท่านั้น
โดยไม่มีความลังเลแม้แต่น้อย เฮียหลงดึงปืนพกที่อยู่ด้านหลังของเอวออกมาพร้อมตะโกนเสียงทุ้มต่ำว่า “ควักปืนออกมา แยกออกเป็นรูปสามเหลี่ยม!”
ลูกน้องทั้งสองคนถือว่าได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี ในขณะที่เฮียหลงได้ร้องเตือน ทั้งสองคนก็ควักปืนออกมาเรียบร้อยแล้วพร้อมกับวิ่งเหยาะๆไปข้างหน้าซ้ายและขวาของเฮียหลงจนกลายเป็นรูปสามเหลี่ยม
เฮียหลงยกมือซ้ายขึ้นแล้วทำท่าให้หยุด และลูกสมุนพากันยกปืนขึ้นไปยังทิศทางที่ชายฉกรรจ์สามคนปลิวกระเด็นออกไป
เป็นเพราะว่ามีรถจอดขวางไว้เป็นแถว เฮียหลงจึงมองไม่เห็นสถานการณ์ของหลี่โม่ที่อยู่ทางด้านนั้น การได้เผชิญหน้ากับคนที่อาจจะเป็นยอดฝีมือ เฮียหลงจึงไม่กล้าที่ไปข้างหน้าเองโดยตรง แต่ยืนนิ่งรอดูเท่านั้น
หูของหลี่โม่ขยับ เมื่อได้ยินคำพูดของเฮียหลงเมื่อกี้นี้แล้ว เขาหันหลังกลับแล้วกดปุ่มลิฟท์ ประตูลิฟท์เปิดออกช้าๆ
“คุณขึ้นไปดูเสื้อผ้าที่ชั้นบนก่อนเถอะ ผมจัดการเสร็จแล้วจะไปหาคุณ”
“คุณระวังตัวด้วยนะ”
กู้หยุนหลันกำชับแล้วก้าวเข้าไปในลิฟท์
ภายใต้ภาพตรงหน้า กู้หยุนหลันรู้ว่าตนเองอยู่ต่อไปก็กลายเป็นภาระเสียเท่านั้น สิ่งที่ดีที่สุดควรจะขึ้นไปเดินเล่นชั้นบนตามคำสั่งของหลี่โม่
สายตาของกู้หยุนหลันมองตรงไปที่หลี่โม่ ในดวงตาเต็มไปด้วยความรักและความห่วงใย ประตูลิฟท์ค่อยๆปิดลงช้าๆ ปิดกั้นการมองเห็นของทั้งสองคนเอาไว้
หลี่โม่เดินอ้อมไปด้านข้างรถและอ้อมไปยังทางที่สามคนเฮียหลงกับลูกน้องยืนอยู่
เฮียหลงและลูกน้องรออยู่หลายนาที แต่ไม่พบการเคลื่อนไหวใดๆทั้งสิ้น ทั้งหมดจึงเกิดความสงสัยขึ้นในใจ
“เฮียหลง หรือว่าจะเข้าไปดู?”
ลูกน้องคนหนึ่งพูด
“แกไปดูก่อน ระวังตัวด้วย”
เฮียหลงพูดเสียงเย็นชา
ลูกน้องผงกหัวและในตอนที่ก้าวเท้าไปข้างหน้า ที่หางตาเห็นประกายของเงาร่างหนึ่งผ่านด้านหลังรถด้านข้าง
ในใจก็ตื่นกลัว ขณะที่ลูกน้องหันปากกระบอกปืนเล็งไปทางด้านนั้น ทันใดนั้นเองมีมือหนึ่งยื่นออกมาและคว้าเอาปืนพกในมือของเขาไป
เมื่อลูกน้องเห็นหลี่โม่พุ่งออกมา ในตอนที่เขากำลังจะเหนี่ยวไกปืนก็เกิดเสียงกรีดร้องทรมานดังขึ้น ข้อมือของเขาถูกหลี่โม่หักไปแล้ว
เฮียหลงเห็นหลี่โม่และลูกน้องกำลังลงมือทำอะไรบางอย่าง โดยไม่สนใจว่าจะทำร้ายคนของตนเองหรือไม่ เขาลั่นไกปืนออกไปโดยตรง
หลี่โม่หันกลับไปโดยเร็วแล้วใช้ตัวลูกน้องเฮียหลงมาเป็นเกราะป้องกันกระสุน และคว้ากระบอกปืนจากมือของลูกน้องเฮียหลงมาในเวลาเดียวกัน
ปังๆๆ
เสียงกระสุนปืนพุ่งเข้าสู่ร่างกายดังขึ้นแล้วร่างของลูกน้องที่หลี่โม่ใช้เป็นโล่กำบังก็มีเลือดพุ่งกระฉูดออกมา
“ยิงแม่งอะไรเนี่ย! เกิดโง่อะไรขึ้นมา!”
เฮียหลงตะโกนใส่ลูกน้องคนอื่นๆ
ลูกน้องคนอื่นๆต่างพากันตื่นตระหนก ขณะที่มองเห็นร่างลูกน้องที่หลี่โม่เอามาใช้เป็นโล่กำลังหายใจเฮือกสุดท้าย ดวงตาเป็นสีแดงก่ำไปแล้ว
“เฮีย เฮียหลง นี่คือน้องของพวกเรานะ ฉันทำต่อไปไม่ได้!”
“ไม่ฆ่าเขาให้ตายแม่ม เป็นพวกเราที่จะตายนะ ยิงมันซะ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิมังกร
อ่านมาถึงตอน 263 เน่าสนิท ไอ้คนเขียนก็ช่างมีความอดทน มีแต่เรื่องดูถูกโง่ๆ หลายร้อยรอบ วนอยู่อย่างนั้น กุก็ทนอ่านอยู่ได้...
อ่านสนุกมากเลยครับ...