จักรพรรดิมังกร นิยาย บท 443

หลงเทาที่นั่งอยู่ด้านข้างคนขับ สีหน้าซีดเผือด สองมือจับเข็มขัดนิรภัยไว้จนแน่น หลี่โม่ขับรถรวดเร็วดั่งพายุ หลงเทาตกใจกลัวจนแทบจะอาเจียนออกมา

“พี่ใหญ่ เร็วเกินไปแล้ว! ยี่สิบนาทีเวลาพอถมเถไป ไม่ต้องขับเร็วไปกว่านี้แล้ว! รถของผมมีน้ำหนักมาก หากข้างหน้าเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด อาจจะเหยียบเบรกไม่ทันนะ”

หลงเทา พูดด้วยน้ำเสียงหวาดกลัว คิดไม่ถึงว่าตัวเองจะได้มานั่งรถที่ทำให้ตกใจกลัวจนแทบจะร้องไห้ออกมา

หลี่โม่ ตอบกลับเบา ๆว่า “ไม่มีทางเป็นอะไรหรอก แค่การแข่งแดร็กเรซซิ่งเท่านั้น รถBugatti ที่อยู่ข้างหน้ากำลังท้าทายฉัน ยังไงก็ต้องให้เขาได้เห็นฝีมือของฉันบ้างล่ะ”

“พี่ใหญ่ รถคันหน้านั้นมัน Bugatti Veyronนะ! เครื่องยนต์ 8.0T ความเร็วสูงสุดทำได้ถึงสี่ร้อยไมล์! รถเบนซ์ของผมเครื่องยนต์4.0Tเท่านั้น น้ำหนักตัวรถก็ยังหนักกว่ารถBugatti อีกหลายเท่า หากว่ากันด้วยเรื่องแรงต้านลมยิ่งไม่ต้องพูดถึง”

หลงเทาเองก็เป็นคนที่ชื่นชอบเรื่องรถยนต์ ค่าพารามิเตอร์ทางเทคนิคของBugatti Veyron นับได้ว่าพอจะเข้าใจอยู่บ้าง

หากไม่เอาน้ำหนักรถและแรงต้านลมมาคำนวณ โดยคิดจะเพราะกำลังเร่งของเครื่องยนต์แล้วBugatti Veyron ก็ยังมีเครื่องยนต์ใหญ่กว่า เบนซ์G65 อยู่เท่าตัว

และหากเอาน้ำหนักตัวรถ แรงต้านลม และอื่น ๆมาคำนวณ Bugatti Veyron คือยอดฝีมืออันดับหนึ่ง เบนซ์G65 เป็นยอดฝีมืออันดับสามหรือสี่เลยทีเดียว

หลี่โม่ คิ้วกระตุกเล็กน้อย พูดด้วยความมั่นใจว่า “ถึงของจะดีอย่างไร ก็ต้องดูว่าใครเป็นคนใช้งาน Bugatti Veyronอยู่ในมือของเขา เป็นได้แค่เศษเหล็ก ไม่สามารถใช้ศักยภาพของมันออกมาได้เต็มที่”

หลงเทาไร้คำพูด แม้จะยอมรับว่าคำพูดของหลี่โม่นั้นถูกต้อง สิ่งของนั้นต้องดูว่าอยู่ในมือของผู้ใด แต่ว่าเกี่ยวกับรถยนต์ของประเภทนี้ ยิ่งกว่านั้นพวกเราไม่ใช่นักแข่งรถระดับเทพ จะดูว่าใครเก่งกว่าใครนั้น จะดูที่สมรรถนะรถไม่ใช่เหรอ

อีกทั้งแม้นักแข่งเทวดาจะมาเองก็ตาม หลงเทาก็ไม่มีทางเชื่ออยู่ดี ว่านักแข่งเทวดาจะสามารถขับรถเป็นครอสคันทรี่ ชนะรถ Bugatti Veyron นอกเสียจากว่าคนที่ขับรถBugatti Veyron จะมีปัญหา

“ยังไงก็ความปลอดภัยมาอันดับหนึ่ง พวกเราไม่จำเป็นต้องระบายอารมณ์ อย่าขับรถด้วยอารมณ์โกรธ มีอารมณ์โกรธอย่าขับรถ”

หลงเทาพูดจาหว่านล้อมตักเตือนไปอีกครั้ง

หลี่โม่แย้มยิ้มโดยไม่สนใจในคำพูดของหลงเทา แต่กลับเหยียบคันเร่งแรงขึ้นไปอีก

รถเบนซ์เริ่มเร่งความเร็วอีกครั้ง หลงเทาตกใจกลัวจนดวงตาแทบจะหลุดออกจากเบ้า

ความเร็วของรถเบนซ์ไม่ใช่ว่าจะทะลุขีดจำกัดกันได้ง่าย ๆ อีกทั้งตัวรถก็เริ่มโยกคลอนเล็กน้อย ซึ่งเป็นเพราะใช้ความเร็วสูงเกินไป รถยนต์ไม่ได้ออกแบบมาให้ลู่ลม แรงกดอากาศทั้งภายในและภายนอกไม่สมดุลกัน ทำให้ตัวรถเริ่มโยกคลอนเหมือนจะแยกออกเป็นชิ้น ๆ

“พี่ พี่ใหญ่ รถเริ่มสั่นแล้ว รู้สึกจะเหินเล็กน้อยด้วย พวกเราลดความเร็วลงหน่อยดีกว่าไหม ความเร็วรถตอนนี้น่าจะอยู่ที่สามร้อยไมล์แล้ว รู้สึกว่าเครื่องยนต์เริ่มร้อนจัด”

หลงเทา ร้องเสียงหลงด้วยความหวาดกลัว สองมือจับราวจับบนหัวไว้แน่น หลับตาปี๋ ไม่กล้าที่จะมองไปดูภายนอกรถ

“ผมไม่ไหวแล้ว พี่ใหญ่ ขับช้าหน่อยได้ไหม ผมขอร้องล่ะ”

“หลับตาก็พอแล้ว รอจนกว่ารถหยุดสนิทค่อยลืมตา”

หลี่โม่พูดพลางเปลี่ยนเกียร์ไปพลาง เครื่องยนต์ส่งเสียงคำรามอย่างดุดัน ตัวรถสั่นกระเพื่อมอย่างหนัก

สมรรถนะของรถเบนซ์ครอสคันทรี่ หลี่โม่นำมันมาใช้จนถึงขีดจำกัดสูงสุด ช่วงเวลาประเดี๋ยวเดียว รถเบนซ์ก็ไล่ตามรถBugatti Veyronจนทัน วิ่งมาประกบข้างรถBugatti Veyron

พี่คาง มองดูรถเบนซ์ครอสคันทรี่ที่อยู่ด้านข้างด้วยสายตาตกตะลึง รู้สึกว่าสิ่งที่เห็นเป็นภาพลวงตาหรือเปล่า รถเบนซ์ครอสคันทรี่ มีน้ำหนักเท่ากับวัวตัวหนึ่ง ทำไมถึงวิ่งได้เร็วขนาดนี้

พี่คางกัดฟันกรอด มองดูไปที่นอกหน้าต่างอีกครั้ง ไม่ผิดแล้ว เป็นรถเบนซ์ครอสคันทรี่จริง ๆ ขับมาจี้ประกบติดอยู่ด้านข้าง ไม่เพียงแต่ขับมาขนาบข้าง แต่รถเบนซ์ครอสคันทรี่ยังค่อย ๆ เพิ่มความเร็ว กำลังจะแซงรถ Bugatti Veyron ของตนเองไป!

“แม่งเอ้ย! ขับรถเบนซ์ด้วยความเร็วขนาดนี้ หรือว่ารถยนต์ได้ปรับจูนเครื่องมาจริง ๆ”

พี่คาง รู้สึกว่ารถเบนซ์คันนี้จะต้องปรับจูนแต่งเครื่องมาอย่างแน่นอน จะต้องหลอกแต่งตัวเป็นหมูเพื่อที่จะล่อเสือแน่ ๆ ไม่อย่างงั้นไม่มีทางขับรถด้วยความเร็วขนาดนี้ได้!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิมังกร