เมื่อได้ดูภาพอย่างละเอียด หลี่โม่เห็นรูปปั้นพระแม่กวนอิมมังกรสีแดง ทำมาจากพลอยปะการัง โดยไม่มีร่องรอยการต่ออะไรเลย
พลอยปะการังชิ้นใหญ่ขนาดนี้ องค์ประกอบต่างๆ มันเป็นของหายาก แถมช่างยังแกะสลักได้อย่างประณีต จนกลายเป็นผลงานที่มีความยิ่งใหญ่หนึ่งชิ้น
หลี่โม่ถูกรูปปั้นพระแม่กวนอิมดึงดูด จนไม่สามารถถอนตัวได้ เขาลืมไปเลยว่าชุยเซิ่งจุนอยู่ด้วย
จนกระทั่งผ่านไปสองสามนาที ชุยเซิ่งจุนจึงโทรมา เขาจึงตั้งสติได้
เมื่อรับสาย ชุยเซิ่งจุนพูดอย่างได้อกได้ใจ
“ฮ่าๆ เป็นไงหลี่โม่ ทึ่งกับของล้ำค่าของฉันสินะ”
“คุณพูดถูก ผมทึ่งมาก นี่เป็นผลงานหายากชิ้นหนึ่งเลย คุณไปหามาจากไหนเหรอ”
“ก็งานประมูลวันนี้ไง รูปปั้นนี้เป็นสินค้าที่ประมูลชิ้นสุดท้าย ฉันเลยถามว่าทำไมตอนประมูลครั้งสุดท้าย ถึงไม่เห็นนาย นายนี่ไปผิดเวลาจริงๆ!”
อะไรนะ นี่เป็นของชิ้นสุดท้ายที่เอามาประมูลวันนี้เหรอ หลี่โม่คิดในใจ คิดไม่ถึงว่าของล้ำค่าจะอยู่ในมือเซียวเลี่ย แถมยังเอาออกมาประมูลอย่างไม่เสียดายด้วย
“เฮ้อ น่าเสียดายชะมัด แต่เห็นภาพที่คุณส่งมา รูปปั้นนี้คงอยู่ในมือคุณแล้วสินะ”
“แน่นอน ของล้ำค่าชิ้นนี้เตะตาฉันตั้งแต่ออกมา แต่กว่าจะประมูลมาได้ มันไม่ง่ายเลย เสียเงินไปตั้งเยอะ”
“หา? เท่าไรเหรอ”
ขนาดคุณชายรวยๆ อย่างชุยเซิ่งจุนยังบ่น หลี่โม่ยิ่งสงสัยราคาของรูปปั้นนี่เข้าไปใหญ่
“พูดไปก็กลัวนายจะตกใจน่ะสิ ราคาต่ำสุดของรูปปั้นนี่คือยี่สิบล้าน สุดท้ายฉันเสียเงินไปหกสิบกว่าล้าน ถึงจะประมูลมาได้!”
ชุยเซิ่งจุนพูดออกมา หลี่โม่ไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี เขาพูดติดตลกว่า
“ฮ่าๆ นายน้อยชุยคงปวดใจมาก เห็นแก่ความเป็นเพื่อน คุณซื้อมันเท่าไร ผมจะรับมันมาเท่านั้น!”
“เหอะๆ......ฝันไปเถอะ ฉันจะบอกให้นะ รูปปั้นนี้ราคายังไม่ถึง 9 หลัก ฉันไม่ขายหรอก......”
หลี่โม่คุยกับชุยเซิ่งจุน ทั้งสองรู้สึกเสียดายที่รู้จักกันช้าไป......
หลี่โม่กับชุยเซิ่งจุนคุยเกี่ยวกับรูปปั้นพระแม่กวนอิมอยู่นาน
ฟ้าค่อยๆ สว่างโดยไม่รู้ตัว
ชุยเซิ่งจุนนัดหลี่โม่ให้มาชมโบราณวัตถุที่บ้าน เมื่อมีเวลาว่าง จากนั้นจึงวางสายลง
หลี่โม่บิดขี้เกียจ เขาถอนหายใจ สุดท้ายคืนหนึ่งก็ผ่านไปแล้ว
หลังจากที่อาบน้ำล้างหน้า เขาหิ้วกระเป๋าสะพายมาทานอาหารเช้า ที่ห้องอาหารของโรงแรม
นมและขนมปังปิ้งอาหารเช้าตามแบบฉบับ หลี่โม่กินพลาง วางแผนสิ่งที่จะทำวันนี้
เมื่อคิดครู่หนึ่ง จู่ๆ เขานึกถึงรูปปั้นพระแม่กวนอิมที่น่าเกรงขามองค์นั้น
ในเมื่อว่างอยู่ ทำไมถึงไม่ไปดูของล้ำค่าชิ้นนั้น ด้วยตาตัวเองล่ะ
หลี่โม่โทรหาชุยเซิ่งจุน รู้ว่าตอนนี้เขาอยู่โรงรับจำนำจู้ติ่ง ดังนั้นจึงให้ฟางรั่วเสว่ขับรถ ทั้งสองไปที่โรงรับจำนำ
เมื่อถึงโรงรับจำนำจู้ติ่ง พนักงานพาหลี่โม่กับฟางรั่วเสว่มาที่ลอบบี้
เมื่อเข้ามาถึง เห็นชุยเซิ่งจุนพิงโซฟานอน
โฮะ......ไอ้หนุ่มนี่ไม่ทำงานหรือไง เดี๋ยวนี้เป็นทายาทธุรกิจมันสบายขนาดนี้เลยเหรอ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิมังกร
อ่านมาถึงตอน 263 เน่าสนิท ไอ้คนเขียนก็ช่างมีความอดทน มีแต่เรื่องดูถูกโง่ๆ หลายร้อยรอบ วนอยู่อย่างนั้น กุก็ทนอ่านอยู่ได้...
อ่านสนุกมากเลยครับ...