กู้หว่านเยว่คิดในใจว่าเรื่องที่เหยาฮุ่ยซินถูกโจรทะเลทรายลักพาตัวไปนั้น เป็นไปไม่ได้ที่ท่านเจ้ากรมจะไม่รู้เรื่อง
การที่คิดหาข้ออ้างที่แนบเนียนเช่นนี้ เพื่อปกป้องชื่อเสียงของเหยาฮุ่ยซิน อีกทั้งยังจัดงานเลี้ยงโต๊ะจีนเพื่อสะสมบุญกุศลให้เหยาฮุ่ยซินอีก ถือว่าเป็นความรักและความผูกพันที่ลึกซึ้งจริง ๆ
“ไปกันเถอะ เราไปลงชื่อที่หน้าประตูกัน”
เมื่อได้กลิ่นอาหาร กู้หว่านเยว่ก็รู้สึกหิวขึ้นมาจริง ๆ
เมื่อทั้งสองไปถึงหน้าประตู คนเฝ้าประตูได้ยินชื่อของพวกเขาก็รีบกล่าวขึ้นว่า
“ทั้งสองท่านเชิญตามข้าไปที่โต๊ะที่นั่งด้านใน”
กู้หว่านเยว่และซูจิ่งสิงสบตากัน เดาว่าเหยาฮุ่ยซินคงบอกกับคนเฝ้าประตูไว้แล้ว จึงตามเขาเข้าไปด้านใน
คนในจวนเยอะกว่าข้างนอกเสียอีก อักษรสีแดงสดที่สื่อถึงความมงคลถูกประดับประดาเต็มสวน เสียงหัวเราะและความสุขดังไปทั่ว
กู้หว่านเยว่มองไปรอบ ๆ เห็นแต่คนแปลกหน้า ก็ไม่ได้สนใจที่จะทำความรู้จักใคร จึงเลือกที่จะหาที่นั่งเพื่อดื่มกินและชมพิธีแต่งงานของคนสมัยโบราณ
ซูจิ่งสิงเห็นนางมองอย่างใจจดใจจ่อ จึงอดไม่ได้ที่จะถามขึ้นว่า “อิจฉาหรือ?”
“ก็นิดหน่อย ข้ายังไม่เคยแต่งงานเลย” กู้หว่านเยว่ตอบอย่างไม่ใส่ใจ จากนั้นก็รู้สึกว่าพูดผิดไป จึงรีบเอ่ยขึ้น “ข้าหมายถึงว่าเราแต่งงานกันแล้ววันรุ่งขึ้นก็ถูกยึดทรัพย์ มันกะทันหันเกินไป”
เมื่อคำพูดนี้เข้าหูของซูจิ่งสิง เขากลับคิดว่านางอิจฉาเหยาฮุ่ยซิน
หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็เอ่ยขึ้น
“รอให้ไปถึงเจดีย์หนิงกู่ เราจะจัดงานแต่งงานอีกครั้ง ข้ารับรองว่าจะจัดงานแต่งงานที่ยิ่งใหญ่สมใจเจ้าให้ได้”
รอให้ไปถึงเจดีย์หนิงกู่ นั่นจะเป็นวันที่เขาเริ่มต้นใหม่ ครั้งนี้เขาจะไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายคนสำคัญของตนเองอีกแล้ว
“ข้าไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น...” กู้หว่านเยว่พึมพำเบา ๆ
ทันใดนั้นซูจิ่งสิงก็ลุกขึ้นยืน “เจอคนรู้จัก เจ้ากินข้าวอยู่ที่นี่ก่อน เดี๋ยวข้ากลับมาหาเจ้า”
กู้หว่านเยว่มองตามสายตาของซูจิ่งสิงไป คนรู้จักของเขาดูเหมือนจะเป็นเจ้าจวนหลงฉวน...
“ได้ ท่านไปเถอะ แล้วรีบกลับมา” กู้หว่านเยว่ไม่ได้สนใจที่จะถามอะไรมากนัก

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาแพทย์พลิกชะตา
ใช้บัตรเติมเงินเอไอเอสไม่ได้เหรอคะ...
เติมเงินด้วยบัตรเติมเงินเอไอเอสไม่ได้เหรอคะ...