“จัดการเรียบร้อยแล้ว” ซูจิ่งสิงพ่นลมหายใจออกมา จากนั้นก็เดินมาข้างกายของกู้หว่านเยว่ คว้ามือของนาง ส่งสัญญาณให้อดทนรอดูสถานการณ์ไปก่อน
กู้หว่านเยว่ไม่ได้ร้อนใจแม้แต่น้อย นางคาดเดาผลลัพธ์ไว้ก่อนแล้ว
จากคำกล่าวของชิวหมิงจื้อ และปมที่น่าสงสัยในหนังสือ บ่งบอกได้ว่าซูจิ่งสิงจะต้องเป็นเด็กกำพร้าขององค์รัชทายาทองค์ก่อนอย่างแน่นอน
แต่บุตรชายคนที่สามของสกุลซูเป็นบิดาบุญธรรมของซูจิ่งสิง ยามนั้นเพื่อปกป้องลูกกำพร้าขององค์รัชทายาทองค์ก่อน เขาประกาศต่อหน้าสาธารณะว่าซูจิ่งสิงเป็นบุตรชายของตน และปล่อยให้เขาได้เติบโตอย่างสงบสุข
“จิ่งสิง เจ้ามีแผนอะไรต่อไป?”
โจวเหล่าเดินตามออกมา ตั้งแต่ที่รู้ฐานะของซูจิ่งสิง สายตาก็ดูเป็นมิตรมากขึ้น
“ผู้น้อยตั้งใจจะไปพักฟื้นตัวที่เจดีย์หนิงกู่”
“ดี หลังจากที่เจ้าถึงเจดีย์หนิงกู่แล้วก็อย่าลืมส่งคนมาบอกข้าก็แล้วกัน แม้ว่าข้าจะไม่สนใจเรื่องในราชสำนัก แต่ลูกศิษย์จำนวนมากที่อยู่ภายใต้การปกครองของข้าก็ล้วนแต่เป็นขุนนางในราชสำลัก ย่อมได้รับผลกระทบไปด้วย”
นี่สินะคือความจงรักภักดี
กู้หว่านเยว่กระตุกยิ้มมุมปากอยู่ด้านข้าง
หากมู่หรงอวี้รู้ว่าโจวเหล่าที่เขาบากบั่นจะชวนมาเป็นพวกนั้นได้ขึ้นเรือลำเดียวกับพวกเขาแล้ว เกรงว่าคงจะโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ
“ผู้น้อยทำได้ ขอบคุณในความช่วยเหลือของโจวเหล่า”
เส้นทางข้างหน้าจะเป็นอย่างไร ในหัวของซูจิ่งสิงได้ประมาณทิศทางเอาไว้แล้ว
“ระหว่างข้ากับเจ้า ไม่ต้องขอบคุณก็ได้”
โจวเหล่ากล่าวอย่างลึกซึ้ง จากนั้นก็หยิบม้วนกระดาษออกมาหนึ่งฉบับ
“จริงสิ นี่เป็นภาพวาดสมัยที่บิดาและมารดาของเจ้ายังเป็นวัยเยาว์ สุสานของพวกท่านฝั่งอยู่เมืองลี่ตู บัดนี้หากเจ้าอยากกราบไหว้พวกเขาคงจะเป็นไปไม่ได้ หากคิดถึงพวกเขา ก็มองภาพวาดนี้ไปก่อน”
ซูจิ่งสิงรับมันมาอย่างระแวดระวัง
หลังจากที่โจวเหล่าจากไป ซูจิ่งสิงก็เดินมาข้างกายของกู้หว่านเยว่และคลี่ภาพวาดนั้นออก
ทั้งสองคนมองดูด้วยกัน
ในภาพวาดนั้นเป็นคู่รักชายหญิงคู่หนึ่ง บุรุษในภาพมีท่าทางอ่อนโยนดุจหยก ส่วนสตรีก็มีท่าทางอ่อนช้อยและงดงาม ทั้งสองคนกุมมือกันด้วยความรัก
นัยน์ตาของซูจิ่งเปล่งประกาย นี่คือบิดาและมารดาผู้ให้กำเนิดของเขาจริง ๆ หรือ?

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาแพทย์พลิกชะตา
ใช้บัตรเติมเงินเอไอเอสไม่ได้เหรอคะ...
เติมเงินด้วยบัตรเติมเงินเอไอเอสไม่ได้เหรอคะ...