“เรื่องอะไรหรือ?” กู้หว่านเยว่มองหวังปี้ด้วยรอยยิ้มที่ไม่ใช่รอยยิ้ม
หวังปี้ขนหัวลุกจากสายตาของนาง
สวรรค์เท่านั้นที่รู้ว่าเขาเสียใจมากแค่ไหน
ไม่ควรล่วงเกินบทสะอื้นของดาวร้ายนางนี้ตั้งแต่แรก
“มันไม่เหมาะที่จะพูดที่นี่ หาสถานที่ที่คนน้อยกว่านี้ได้หรือไม่?”
สายตาเหมือนเสือจ้องเขมือบเหยื่อของซูจิ่นเอ๋อร์ เขาเห็นแล้วรู้สึกขนหัวลุก
“ตกลง” กู้หว่านเยว่ลุกขึ้นเดินออกไปอีกด้านหนึ่งกับเขา ความจริงก็พอจะรู้ว่าที่หวังปี้อ้ำ ๆ อึ้ง ๆ นั้นต้องการพูดอะไร แต่ว่า เฮ้? นางแค่ไม่พูดขึ้นมาก่อน
หวังปี้ประดิดประดอยในใจอยู่นาน ในที่สุดก็ยอมเอ่ยปาก
“เอ่อ แม่นางน้อยกู้ ข้ามีภาวะไตพร่องจริงหรือ เจ้าช่วยตรวจหรือเขียนใบสั่งยาให้ข้าด้วยได้ไหม?”
กู้หว่านเยว่ทำหน้าใสซื่อ “เมื่อครู่ขุนพลหวังยังรู้สึกว่าข้ายังเด็กอยู่มิใช่หรือ?”
หวังปี้: ต้องผูกใจเจ็บเช่นนี้เลยหรือ!
“ข้าผิดไปแล้ว ข้ามีตาหามีแววไม่ แม่นางกู้ได้โปรดอย่าถือสาคนที่มีความคิดตื้นเขินอย่างข้าเลย ฮือฮือ เจ้าช่วยข้าด้วยเถอะ ข้ายังไม่ได้แต่งงาน ข้าไม่อยากกลายเป็นคนไร้สมรรถภาพ...”
หวังปี้ทนไม่ไหวอีกต่อไป ตามป่ารกร้างผืนนี้ก็ไม่มีหมออีกแล้ว
เขากลัวมาก กังวลใจมาก
เขาสามารถบอกได้ไหมว่าน้องชายของเขาไม่ตอบสนองมาระยะเวลาหนึ่งแล้ว?
กู้หว่านเยว่หัวเราะคิกคักรู้สึกขบขันไปกับเขา
“เอาล่ะ ยื่นมือของท่านออกมา”
หวังปี้ทำตามอย่างเชื่อฟังทันที กู้หว่านเยว่วางผ้าเช็ดหน้าบนข้อมือของเขา แล้วเอานิ้วทาบลงบนนั้น
“ขุนพลหวังยังไม่มีชายาสินะ?”
“ไม่มี!” อย่าว่าแต่ชายาเลย ตอนนี้เขายังเป็นผู้ชายบริสุทธิ์อยู่
“แต่ข้ามีคู่หมั้นอยู่คนหนึ่ง”
สีหน้าของหวังปี้เผยความรักออกมาในขณะที่พูด สุดท้ายก็เปลี่ยนเป็นความกังวล
“แม่นางน้อยกู้ อาการป่วยของข้าสามารถรักษาให้หายได้หรือไม่?”
เดิมทีเขาก็รู้สึกว่าตัวเองไม่คู่ควรกับธิดาของท่านอ๋องอยู่แล้ว ถ้ายังมีภาวะไตพร่องอีก ก็ยิ่งไม่คู่ควรหรอกหรือ?!
“ได้สิ แค่อาการป่วยเล็กน้อยเท่านั้น กินยานิดหน่อยก็หายแล้ว”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาแพทย์พลิกชะตา
ใช้บัตรเติมเงินเอไอเอสไม่ได้เหรอคะ...
เติมเงินด้วยบัตรเติมเงินเอไอเอสไม่ได้เหรอคะ...