หวังปี้กล่าวด้วยความกังวล “แต่สภาพร่างกายของท่านอ๋องผู้เฒ่า ไม่สะดวกที่จะเคลื่อนย้ายมิใช่หรือ?”
“ไม่เป็นไร ข้าจะเตรียมรถม้าคันหนึ่ง แล้วปูฟูกไว้ข้างใน
จากนั้นก็เตรียมแคร่ แล้วยกท่านอ๋องผู้เฒ่าขึ้นไป
ก็จะไม่กระทบกระเทือนบาดแผลของท่านแล้ว”
ระหว่างทางมา กู้หว่านเยว่ได้คิดถึงเรื่องนี้แล้ว กองกำลังไล่ล่าจะต้องตามมาถึงในไม่ช้า แผนการในตอนนี้ คือพวกเขาต้องรีบกลับไปที่เจดีย์หนิงกู่
“ได้”
ตอนนี้ หวังปี้รู้สึกนับถือกู้หว่านเยว่เป็นอย่างมาก
“เจ้ามีอะไรก็สั่งข้ามาได้เลย”
กู้หว่านเยว่เหลือบมองเวลา ตอนนี้เป็นเวลาสองยาม หรือก็คือประมาณสี่ทุ่ม
ก่อนฟ้าสาง พวกเขาต้องออกห่างจากลั่วอันให้ได้
“นี่คือแผนที่จากลั่วอันไปยังเจดีย์หนิงกู่ จุดต่อไปคือเมืองเย่เฉิง ขุนพลหวัง ท่านพาพวกเขาออกเดินทางไปก่อน แล้วทำเครื่องหมายไว้ระหว่างทาง เราจะพบกันที่เมืองเย่เฉิง”
หวังปี้รีบรับแผนที่ กู้หว่านเยว่ก็ยื่นกำไลระบุตำแหน่งให้เขา
“ท่านสวมกำไลนี้ไว้ที่ข้อมือ ไม่ว่าจะเมื่อไหร่ ก็ห้ามถอดออกเด็ดขาด จำไว้ให้ดี!”
หวังปี้รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย แต่ก็ไม่กล้าเพ่งมอง รีบสวมมันไว้บนข้อมืออย่างว่าง่าย
กู้หว่านเยว่หยิบห่อผ้าออกมา
“นี่คือผงห้ามเลือดและยาแก้อักเสบ พวกท่านทุกคนถูกทรมาน ระหว่างทางอย่าลืมทายาให้ตัวเองด้วย”
“แม่นางกู้ ให้ข้าทำเถอะ ข้าพอมีความรู้ด้านการแพทย์อยู่บ้าง”
สตรีผู้หนึ่งก้าวออกมา เสื้อผ้าของนางดูทรุดโทรม แต่ก็ไม่อาจปกปิดความสง่างามได้
“ข้าคือพระชายาหนานหยาง”
กู้หว่านเยว่ตกตะลึง ที่แท้สตรีท่านนี้คือภรรยาใหม่ของหนานหยางอ๋อง มิน่าล่ะตอนที่อยู่ในคุก เหล่าสตรีถึงได้เดินตามหลังนาง
กู้หว่านเยว่รีบคารวะ “หม่อมฉันขอคารวะพระชายาเพคะ”
ไม่รู้ว่าเป็นความเข้าใจผิดหรือไม่ หน้าตาของพระชายาหนานหยางผู้นี้ดูคล้ายกับเมี่ยชิงหว่านเล็กน้อย
พระชายายิ้มอย่างขมขื่น “อย่าทำเช่นนั้นเลย ตอนนี้เราเป็นแค่คนที่ไร้ที่พึ่งพิง ได้รับความช่วยเหลือจากท่าน ถึงมีชีวิตรอดมาได้”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาแพทย์พลิกชะตา
ใช้บัตรเติมเงินเอไอเอสไม่ได้เหรอคะ...
เติมเงินด้วยบัตรเติมเงินเอไอเอสไม่ได้เหรอคะ...