“บ่อย ๆ อะไรกัน?” ซูจื่อชิงหน้าแดงก่ำ จากนั้นพูดแก้ตัวเสียงเบา “แค่ครั้งนี้ครั้งเดียว”
“ครั้งเดียวยังไม่พออีกหรือ? ข้าบอกแล้วว่าครอบครัวนี้มันแปลก ๆ ให้เจ้าระวังตัวหน่อย แต่พอเจ้าเห็นเขาร้องไห้สะอึกสะอื้น เจ้าก็ใจอ่อนแล้ว น่าขยะแขยงจริง ๆ ”
ซูจื่อชิงเบิกตากว้าง “อะไร ใจอ่อนอะไรกัน ข้าไม่ได้ใจอ่อนสักหน่อย”
เขาไม่คิดเลยว่าเสี่ยวเตี่ยจะใช้ความเห็นใจของเขา นี่มันไม่ใช่ใจอ่อนสักหน่อย?
“มีคนมาแล้ว หุบปาก!” กู้หว่านเยว่ถลึงตาใส่ซูจื่อชิง แล้วรีบห้ามเขา
เสียงฝีเท้าดังมาจากข้างนอกประตู
เจ้าของร้านเสิ่นเดินเข้ามา
“ให้ตายสิ คราวนี้เราได้ผลประโยชน์เยอะเลยนะ พวกเขาสองครอบครัวรวยมากทั้งคู่”
นอกจากกู้หว่านเยว่และคนอื่น ๆ แล้ว ยังมีอีกครอบครัวหนึ่งอยู่ที่มุมห้อง พวกเขากำลังกอดกันตัวสั่นเทา
ป้าเสิ่นดวงตาเป็นประกาย แล้วนับเงินอยู่ข้าง ๆ ส่วนเจ้าของร้านเสิ่นก็จ้องพวกเขาด้วยสายตาเย็นชาและน่าขนลุก
“คนเยอะขนาดนี้ พอจะทำซาลาเปาเนื้อได้เยอะเลย”
ซาลาเปาเนื้อ?
ครอบครัวที่อยู่ตรงมุมห้องก็เริ่มอาเจียนออกมาอย่างรุนแรง กู้หว่านเยว่ได้สติกลับคืนมา สีหน้าของนางก็แสดงความน่าขยะแขยงออกมาเช่นกัน
ครอบครัวนี้มันวิปริตจริง ๆ ตอนนี้นางรู้สึกโชคดีมากที่ไม่ได้กินอาหารเย็นของโรงเตี๊ยม
“พวกเจ้าบ้าไปแล้ว ไม่กลัวทางการมาตรวจสอบหรือ?”
ขุนพลหลี่ขนลุกซู่ไปทั้งตัว แล้วตามมาด้วยความโกรธเกรี้ยว
เขาไม่เข้าใจว่า เหตุใดถึงมีคนที่วิปริตได้ขนาดนี้?
“พวกท่านเป็นแค่คนเดินทางธรรมดา ๆ ไม่มีแม้แต่ชื่อหรือสกุล จะมีขุนนางที่ไหนมาสนใจกัน?”
เจ้าของร้านเสิ่นไม่รู้สึกเกรงกลัว สั่งให้ป้าเสิ่นไปลับมีด
“ท่านพ่อ เก็บผู้ชายคนนั้นไว้ให้ข้า”
เสี่ยวเตี่ยชี้ไปที่ซูจื่อชิง แล้วรีบกล่าวขึ้น
“เจ้าจะเอาผู้ชายคนนี้ไปทำอะไร?”
เจ้าของร้านเสิ่นขมวดคิ้ว ปกติแล้วเวลาพวกเขารับงาน จะไม่เหลือใครไว้เป็นพยาน เพื่อป้องกันไม่ให้ความลับรั่วไหล

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาแพทย์พลิกชะตา
ใช้บัตรเติมเงินเอไอเอสไม่ได้เหรอคะ...
เติมเงินด้วยบัตรเติมเงินเอไอเอสไม่ได้เหรอคะ...