“จินเอ๋อร์ พวกเราต้องออกไปข้างนอกสักพัก อยู่บ้านดีๆ เล่า”
หลังจากกำชับซูจิ่นเอ๋อร์แล้ว กู้หว่านเยว่ก็พาซูจิ่งสิงออกไปทันที
กู้หว่านเยว่ไม่กังวลเกี่ยวกับเงินและอาหาร ตอนนี้นางมีสิ่งของมากมายนับล้านสิ่ง
สิ่งที่นางกังวลคือ จะขนส่งสิ่งของเหล่านี้ผ่านถนนเปิดไปยังเมืองตะวันไม่ดินได้อย่างไร
เมื่อคำนวณจากความสามารถในการแบกเสบียงสองลิตรของคนคนหนึ่ง หนึ่งหมื่นคนจะเท่ากับสองหมื่นลิตร ปริมาณสำรองของธัญพืชของเมืองจะต้องมีอย่างน้อยสองเดือน ซึ่งก็คือหนึ่งล้านสองแสนลิตรหรือหนึ่งล้านแปดแสนกิโลกรัม
ด้วยปริมาณอาหารมากมายเช่นนี้ กู้หว่านเยว่และซูจิ่งสิงเพียงลำพัง ไม่สามารถแบกกลับไปเองได้
พวกเขาต้องหาสถานที่ที่เชื่อถือได้ นำอาหารออกมาก่อน จากนั้นจึงหากลุ่มคนที่ไว้ใจได้มาขนส่งอาหารไปยังเมืองตะวันไม่ตกดิน
มิฉะนั้น หากอาหารจำนวนมากถูกถ่ายโอนออกจากมิติไปยังยุ้งฉางของเมืองตะวันไม่ตกดินโดยตรง จะทำให้ผู้คนเกิดความสงสัยอย่างแน่นอน
กู้หว่านเยว่ทำงานเด็ดขาด ย่อมไม่ต้องการเปิดเผยมิติของเอง
และมิติ ก็คือไพ่ตายของนาง
ซูจิ่งซิงเข้าใจความกังวลของหญิงสาวดี เขาครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งแล้วพูดว่า
“ตอนที่พวกเราไปลั่วอันกัน ฮันจิ่วและชิงเหลียนได้ติดต่อกับผู้ใต้บังคับบัญชาที่ภักดีไว้มากมาย ตอนนี้ พวกเขาทั้งหมดอยู่ที่เจดีย์หนิงกู่แล้ว
ข้าแนะนำว่า สามารถปล่อยเรื่องขนย้ายเสบียงให้พวกเขามารับไปทำได้”
สำหรับสถานที่เก็บเมล็ดพืช ซูจิ่งสิงยังคิดถึงพื้นที่ที่อยู่ในหุบเขาแห่งหนึ่ง ด้านหลังภูเขาของหมู่บ้านสือหาน
“ในหุบเขามีถ้ำลึกอยู่ มีพื้นที่เพียงพอสำหรับเก็บอาหาร”
ไม่อาจไม่พูด วิธีการที่ซูจิ่งสิงเสนอนั้นยอดเยี่ยมจริงๆ แก้ไขทั้งสองปัญหาที่ทั้งสองคนกำลังเผชิญอยู่ได้
“เวลาไม่ค่อยท่า พวกเราไปเมืองตู้เปียนกันสักรอบเถอะ”
กู้หว่านเยว่เรียกม้ากระต่ายสีแดงสองตัวออกมาจากมิติทันที พวกเขาขี่ม้าเคียงกัน มุ่งหน้าไปยังเมืองตู้เปียน

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาแพทย์พลิกชะตา
ใช้บัตรเติมเงินเอไอเอสไม่ได้เหรอคะ...
เติมเงินด้วยบัตรเติมเงินเอไอเอสไม่ได้เหรอคะ...