ซูจิ่งสิงมองตามสายตาของกู้หว่านเยว่ กระทั่งเห็นบุรุษผมขาวผู้หนึ่งเดินนำผู้ติดตามเข้ามา
อีกฝ่ายสวมเสื้อคลุมสีดำทมิฬ ขับให้ผมสีขาวของเขาดูโดดเด่นมากขึ้น ยามเขาเดินอยู่บนถนนก็ยิ่งดึงดูดความสนใจของผู้คนในบริเวณนั้นไปไม่น้อย
บุรุษผมขาวมีท่าทีนิ่งสงบ สายตามองตรงไม่มีไขว่เขว
แต่จู่ ๆ เขาก็สัมผัสได้ถึงสายตาของสองสามีภรรยากู้หว่านเยว่และซูจิ่งสิง จนต้องหันไปมองพวกเขา
เมื่อสายตาประสานกัน ในใจของกู้หว่านเยว่กลับไม่ได้รู้สึกเกลียงชัง ทั้งยังพยักหน้าเล็กน้อยให้บุรุษผมขาวเพื่อแสดงความเป็นมิตร
นัยน์ตาของจงหลี่วูบไหวเล็กน้อย ไม่รู้ว่าทำไมสตรีผู้นี้ถึงทำให้เขารู้สึกคุ้นหน้ายิ่งนัก
แต่น่าเสียดายที่กู้หว่านเยว่ใส่ผ้าคลุมหน้า เขาเห็นแค่ดวงตาคู่นั้น
แม้ว่าจะเห็นเพียงดวงตาคู่นั้น แต่เรื่องที่น่าแปลกใจก็คือ จงหลี่เกิดความรู้สึกดีกับเจ้าของดวงตาคู่นี้
เขาผู้ซึ่งไม่ชอบปฏิสัมพันธ์กับคนแปลกหน้า แม้ว่าจะอยากเข้าไปทำความรู้จักกับกู้หว่านเยว่
แต่กู้หว่านเยว่กลับละสายตากลับไป นางชอบดูคนซุบซิบนินทากันแต่ก็ได้แค่ดูเท่านั้น ในใจของนางยังอยากเดินเล่นตลาดในเมืองอวี้ อยากเห็นว่าเมืองอวี้แห่งนี้เป็นอย่างไร
“ท่านพี่ เราไปเดินเล่นที่ตลาดกันเถอะ”
“ไปกัน”
ซูจิ่งสิงพยักหน้า
ทั้งสองคนเดินออกจากผู้คนอย่างรวดเร็ว และหายตัวไปต่อหน้าต่อตาจงหลี่ ซึ่งจงหลี่ยังคงจ้องเขม็งไปยังตำแหน่งที่กู้หว่านเยว่ยืนอยู่เมื่อครู่อย่างเหม่อลอย
“ท่านน้อย ท่านมองอะไร? เรารีบไปโรงเตี๊ยมกันเถอะ สตรีเหล่านั้นจ้องท่านหมายจะกลืนกินท่านทั้งตัวอยู่แล้ว”
“เมื่อครู่ เหมือนข้าจะเจอน้องซังหนิง”
จงหลี่ส่ายหน้า แค่อายุก็ไม่ใช่แล้ว
ทางฝั่งของซูจิ่งสิงและกู้หว่านเยว่ในเวลานี้กำลังเดินเตร่อยู่ในตลาด ได้เห็นวิถีชีวิตขั้นพื้นฐาน และได้รู้ว่าการกินและเสื้อผ้าของชาวบ้านในเมืองอวี้คล้ายกับเมืองตู้เปียน พวกเขามักจะกินมันเทศและมันฝรั่งเป็นอาหารหลัก พืชผักใบเขียวมีน้อยมากจนน่าสงสาร
น้อยนักที่จะเห็นใครใส่เสื้อคลุมที่ทำจากผ้าฝ้าย โดยส่วนใหญ่จะใช้หนังสัตว์มาช่วยคลายความหนาว แต่หากใครไม่มีกำลังซื้อหนังสัตว์ ก็จะเลือกสวมเสื้อผ้าหลายชั้นแทน
ประชากรในเมืองอวี้มีจำนวนมากกว่าเมืองตู้เปียนและเมืองตะวันไม่ตกดิน

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาแพทย์พลิกชะตา
ใช้บัตรเติมเงินเอไอเอสไม่ได้เหรอคะ...
เติมเงินด้วยบัตรเติมเงินเอไอเอสไม่ได้เหรอคะ...