เสียงร้องคร่ำครวญจากการถูกทรมานของสวีหลานดังขึ้นอย่างน่าเวทนา แม้แต่กู้หว่านเยว่ที่กำลังพักผ่อนอยู่ในจวนด้านหลังก็ยังได้ยินอย่างชัดเจน
“ท่านพี่ เราไปดูกันเถอะ”
เมื่อถูกก่อกวนจนไม่สามารถทำงานได้ กู้หว่านเยว่จึงอยากไปดูให้เห็นกับตา
“ไปกันเถอะ”
ซูจิ่งสิงรักภรรยามาก เขาอุ้มนางและกระโดดไปบนกำแพงของหอบรรพบุรุษสกุลหลี่
สวีหลานถูกขึงมือและเท้าอยู่บนกระดานไม้เหมือนเมื่อวาน ไม่ว่าจะโดนเฆี่ยนกี่ครั้ง นางก็ยังปกป้องจางเยว่อยู่เสมอ
“จะฆ่าจะแกงก็มาลงที่ข้า ปล่อยพี่เยว่ไป”
ท่าทางที่ดูไร้ค่านั้นยิ่งยั่วโมโหผู้อาวุโสสกุลหลี่มากกว่าเดิม
“นังสารเลว ไร้ยางอายยิ่งนัก ต่อหน้าพวกข้าเจ้ายังปกป้องชายชู้ของเจ้า”
“น่าขายหน้ายิ่งนัก คุณธรรมประจำตระกูลของสกุลหลี่ถูกเจ้าทำลายจนไม่เหลือชิ้นดี”
ในตระกูลนี้มีผู้อาวุโสที่หน้าบางอยู่หลายคน พวกเขาโกรธจนต้องเมินหน้าไปทางอื่น
ไม่อยากเห็นสวีหลานและจางเยว่ที่กำลังแสดงฉากรักที่น่าขยะแขยง
ผู้อาวุโสสำดับสองเห็นว่าทุกคนถูกสอบสวนเสร็จแล้ว จึงรีบกล่าวว่า
“เสี่ยวอัน พอได้แล้ว รีบพาสวีหลานไปขังเถอะ”
ความจริงแล้วเขาไม่อยากได้ยินวาจาหยาบคายของสวีหลานต่างหาก เขารู้สึกดีอยู่ในใจ โชคดีที่นายท่านหลี่โหวไม่อยู่ มิเช่นนั้นคงโกรธเป็นฟืนเป็นไฟเช่นกัน
ตั้งแต่ต้นจนจบสวีหลานยังคงปกป้องชีวิตของจางเยว่เสมอ นางรักจางเยว่มากจริง ๆ
“พานางและชายชู้ไปจุดโคมไฟอธิฐานด้วยกัน”
หลี่เฉินอันกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นเยือก คำกล่าวที่ไร้ความรู้สึกยิ่งยั่วโมโหคนที่อยู่โดยรอบเป็นอย่างมาก
ผู้อาวุโสสูงสุดอดกล่าวไม่ได้ “จุดโคมไฟอธิฐาน คือการนำผ้ามาห่อตัวคนไว้ จากนั้นก็ราดน้ำมันให้ชุ่ม นำตัวไปมัดกับท่อนไม้ และจุดไฟจากด้านล่าง”
“เช่นนี้มันไม่ดูโหดร้ายเกินไปหรือ?”
หลี่เฉินอันยิ้มเยาะด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น “นางบีบคอท่านแม่ของข้าจนสิ้นใจ ทำร้ายท่านพ่อจนกลายเป็นอัมพาต แค่นี้ยังไม่โหดร้ายอีกหรือ”
หลี่เฉินอันตัดสินใจแล้ว การสั่งสอนสวีหลานด้วยวิธีนี้ มันคือการเชือดไก่ให้ลิงดู
“ใครไม่เห็นด้วย ออกมาพูดกับข้าได้?”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาแพทย์พลิกชะตา
ใช้บัตรเติมเงินเอไอเอสไม่ได้เหรอคะ...
เติมเงินด้วยบัตรเติมเงินเอไอเอสไม่ได้เหรอคะ...