อีกฝั่งหนึ่ง หลินชิวหยุนถูกจับไปยังลานนรกร้างตรงเมือง ชายหน้าหล่อผู้หนึ่งรีบเดินออกมา ได้เห็นหลินชิวหยุน สีหน้าเต็มไปด้วยความห่วงใยตระโกนคำหนึ่งอย่างร้อนใน “ชิวหยุน!”
หลินชิวหยุนลืมตาขึ้น ใต้ตาได้มีแสงเย็นฉ่ำแวบผ่าน กู้โม่ไป๋! เหอะ คิดไม่ถึงเลยจริงๆ คนเหล่านี้คิดคำนวณอย่างทั่วถึงจริงๆ แม้กระทั่งกู้โม่ไป๋คู่รักสมัยเด็กของตัวเองยังหากลับมาเลย!
กู้โม่ไป๋เดินมาข้างหน้า เห็นหลินชิวหยุน ทันใดนั้นก้าวเท้าที่ก้าวไปยังด้านหน้าได้หยุด
ในความจำของเขา หลินชิวหยุนสวย、สง่างาม เป็นหญิงงามที่หาดูยาก แต่หลินชิวหยุนในวันนี้หน้าตาบวมแดง รีมฝีปากมีรอยช้ำม่วง ประเด็นคืออ้วนกว่าแต่ก่อนตั้งเยอะ ถ้าให้ใครไปดูกับตา รู้สึกขึ้นไส้หนักมาก
“กู้โม่ไป๋……” ทั้งกายหลินชิวหยุนอ่อนแรง เสียงที่ออกมาค่อนข้างจะแหบ แถมแสบตามาก แค่ลืมตาขึ้นก็ต้องมีน้ำตาไหลออกมา
เม็ดยาเม็ดนั้นที่คุณหนูให้ดีจริงๆ แค่เม็ดยาเม็ดเดียว、มีหลายสรรพคุณ รับรองได้เลยว่าจะไม่โผล่รอยรั่วสักนิด
แถมโชคดีที่มีเม็ดยา ไม่อย่างนั้นหากว่าเห็นลักษณะ กู้โม่ไป๋ในสภาพแบบนี้ นางคงจะทนไม่ได้ที่จะอ้วกออกมา
กู้โม่ไป๋รีบจัดสีหน้า สายตาเป็นไปด้วยความเป็นห่วงและละอายใจ “ชิวหยุน เจ้าอย่ากลัว ข้ามาแล้ว ข้าจะช่วยเจ้าเป็นแน่”
หลินชิวหยุนใช้แรงกำหมัดไว้แน่น โกรธขึ้นหัว น้ำตาที่ไหลออกยิ่งอยู่ยิ่งเยอะ
“เฟิงฉิ้นหว่านไม่ควรเป็นคนจริงๆ กล้านักที่จะทำการทารุณต่อเจ้า ชิวหยุน เจ้าไว้ใจได้ ข้าจะช่วยเจ้าแก้แค้นเป็นแน่! หญิงสาวผู้หนึ่งที่กล้าเข้าออกหอนางโลมเป็นว่าเล่น แต่กลับถูกยกขึ้นในตำแหน่งที่สูง คิดว่าตัวเองเป็นตัวอะไร?”
สีหน้ากู้โม่ไป๋ดูถูกเหยียดหยาม
หลินชิวหยุนขมวดคิ้ว ไอเลวนี้กล้าด่าคุณหนู?
นางอยากนั่งขึ้นมา แต่รู้สึกไม่มีแรงไปทั่วร่างกาย หน้าอกแน่นอย่างหายใจไม่ออก “เจ้า……”
เห็นลักษณะท่าทางหลินชิวหยุนที่ตื่นอกตื่นใจ กู้โม่ไป๋รีบเอ่ยปาก “ชิวหยุน เจ้าอย่าเสียใจ คำที่ข้าพูดเมื่อกี้ก็แค่หมายถึงเฟิงฉิ้นหว่าน ไม่ได้มีความหมายว่าดูถูกเจ้าเลยสักนิด อย่าเก็บไว้ในใจเลย ข้ารู้ว่าเจ้าเนี่ยเป็นผู้ที่บริสุทธิ์กายและใจในท่ามกลางสิ่งแวดล้อมแบบนี้”
หลินชิวหยุนรู้สึกเพียงแค่ว่าหน้าอกยิ่งอยู่ยิ่งแน่น
เมื่อก่อนที่ตระกูลหลินเพิ่งเกิดเรื่อง กู้โม่ไป๋ไม่ได้โผล่นิสัยที่แท้จริงออกมา ยังเหมือนแต่ก่อนที่เดินเพ่นพ่านไปมา มีใจแต่อยากช่วยรับนางออกมาจากหอนางโลม
ตอนนั้นนางเชื่อใจสุดๆเลยกับพี่ชายคนนี้ที่อายุมากกว่านางห้าปี นำทุกเรื่องของตระกูลหลินบอกให้กับเขา รวมถึงผู้ที่เป็นพยันหลักฐาน แต่สิ่งที่คาดไม่ถึงเลยก็คือแค่พริบตาเดียวกู้โม่ไป๋ก็ได้นำเรื่องทั้งหมดที่นางบอกให้กับเขาไปขายให้กับตระกูลหยุน ทำให้ตระกูลหยุนทำลายล้างผู้ที่เป็นพยันหลักฐาน、สิ่งของที่เป็นหลักฐาน
หากว่าไม่ใช่แบบนี้ ทำไมตลอดหลายปีที่ผ่านมานี้นางถึงไม่มีทางออกละ?
“ไปไกลๆให้พ้นหน้า!”
กู้โม่ไป๋รีบขึ้นไปพยุงหลินชิวหยุนขึ้น “ชิวหยุน ข้ารู้ว่าเจ้าเกลียดข้า ข้าไม่เคยคิดจะหักหลังเจ้าเลย ตระกูลหยุนนำครอบครัวของข้ามาขู่ ข้าไม่มีทางออกจริงๆ จึงไม่ประนีประนอมไม่ได้ ในใจที่ข้านึกถึง、คิดถึงเป็นแต่เจ้ามาโดยตลอด ข้าได้แอบพึ่งองค์ชายสามอย่างลับๆแล้ว มีกำลังที่จะปกป้องเจ้าแล้ว ฉะนั้นหลังจากที่ได้ยินว่าเจ้าได้พบเจอกับอันตราย จึงรีบพาคนไปช่วยเจ้าออกมา เจ้าไว้ใจได้ ข้าจะไม่ทอดทิ้งเจ้าเพียงลำพังอีกแล้ว”
หลินชิวหยุนรู้สึกสะอิดสะเอียนอย่างมาก ได้แค่เพียงก้มหน้าลงน้ำตาไหลอย่างลับๆ ป้องกันที่จะไม่ให้กู้โม่ไป๋เห็นความเกลียดชังที่ฝังไว้ในใจ
“ข้าไม่เชื่อเจ้าอีกแล้ว……”
“ชิวหยุน เจ้าไม่เชื่อข้าก็ไม่เป็นไร เจ้าคงจะเชื่อองค์ชายสามสินะ? ข้าสามารถให้เจ้าพบกับองค์ชายสาม”
ใจหลินชิวหยุนขยับทีหนึ่ง “เจ้าพูดคำบ้าไร?” ฐานะองค์ชายสามสูงส่ง จะมาโผล่ที่หลินผิงได้อย่างไร?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาบุปผาซ่อนพิษ